ระบบฝังตัวและระบบอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง

Embedded Systems and Internet of Things

จุดมุ่งหมายหลักของรายวิชานี้คือการให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และสามารถประยุกต์ใช้หลักการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ ระบบฝังตัว (Embedded Systems) และ อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษามีทักษะการปฏิบัติจริง ตั้งแต่การออกแบบระบบ, การเขียนโปรแกรมไมโครคอนโทรลเลอร์ ไปจนถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์เหล่านี้เข้ากับอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้างเป็นระบบ IoT ที่สมบูรณ์
 
1 วางรากฐานความรู้: เพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจในแนวคิดพื้นฐาน, สถาปัตยกรรม, และหลักการทำงานของระบบฝังตัวและอุปกรณ์ IoT อย่างถูกต้องและเป็นระบบ
2 พัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติ: เพื่อฝึกฝนให้นักศึกษามีทักษะในการเขียนโปรแกรม ไมโครคอนโทรลเลอร์ และการออกแบบระบบฝังตัว ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการพัฒนาอุปกรณ์จริง
3 สร้างความสามารถในการเชื่อมต่อ: เพื่อสอนวิธีการเชื่อมต่อระบบฝังตัวกับระบบอื่น ๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างระบบ IoT
4 แนะนำการวิเคราะห์ข้อมูล: เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ IoT มาวิเคราะห์และตีความ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
5 อัปเดตเทคโนโลยีที่ทันสมัย: เพื่อแนะนำเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ใช้ในการพัฒนาระบบ IoT ให้นักศึกษาได้เรียนรู้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโลกการทำงานจริงได้ทันที
 
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับ สถาปัตยกรรมของระบบฝังตัวและระบบอินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ หลักการทำงานและระบบปฏิบัติการ การออกแบบระบบฝังตัวและการโปรแกรมไมโครคอนโทรลเลอร์ การทำงานร่วมกันระหว่างระบบฝังตัวและระบบอื่นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับระบบอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งเครื่องมือและเทคโนโลยีสำหรับการพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง
 
Study and practice of Embedded system and internet of things architectures, principles operation and operating, embedded systems design and microcontroller programming, interaction between embedded system and other interfaced system via the internet, data analysis for internet of things, development tools and technology for internet of things.
 
1. ให้คำปรึกษาผ่านระบบโซเชียลเนตเวิร์ค เช่น ไลน์ หรือเฟสบุค ทั้งการคุยโต้ตอบทันทีและการฝากข้อความทิ้งไว้ใน E-mail และมีการตอบภายหลัง โดยนักศึกษาสามารถขอคำปรึกษาผ่านทางระบบนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง (นอกเวลาราชการฝากข้อความ) หรือใช้ช่องทางโทรศัพท์ปรึกษาระยะสั้น ใน 8 ชั่วโมงของทุกวันและเวลาราชการ
2. อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ)
 
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
ไม่มีข้อมูล
1 เอกสารประกอบการสอนของอาจารย์ผู้สอน: เอกสารที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรายวิชานี้ ซึ่งจะสรุปเนื้อหาและแนวทางที่สอดคล้องกับแผนการสอนมากที่สุด
2 หนังสือด้าน Embedded Systems: หนังสือที่เน้นสถาปัตยกรรม, การเขียนโปรแกรม, และระบบปฏิบัติการของระบบฝังตัว
3 หนังสือด้าน IoT: หนังสือที่ครอบคลุมการออกแบบระบบ IoT, การเชื่อมต่อเครือข่าย, และการจัดการข้อมูล
 
1 คู่มือและ Datasheet ของ Microcontroller: นักศึกษาจำเป็นต้องใช้เอกสารเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจสถาปัตยกรรม, การทำงานของพิน (pinout), และการตั้งค่ารีจิสเตอร์ (register) ของไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ใช้ในการเรียน
2 เอกสารประกอบการใช้งาน Development Board: เช่น คู่มือสำหรับ Arduino, ESP32, หรือ Raspberry Pi เพื่อให้นักศึกษาสามารถเริ่มใช้งานบอร์ดได้ทันที
3 เอกสารประกอบการใช้งานไลบรารี (Library) และเฟรมเวิร์ค (Framework): เช่น คู่มือการใช้ไลบรารีสำหรับเซ็นเซอร์ (sensors) หรือโปรโตคอลการสื่อสาร (communication protocols) ที่จำเป็นสำหรับโปรเจกต์
 
1 เว็บไซต์และบล็อกด้าน IoT: เช่น Hackster.io, Instructables, หรือเว็บไซต์ของ SparkFun และ Adafruit ซึ่งมีโปรเจกต์ตัวอย่างและบทความที่น่าสนใจ
2 คอร์สออนไลน์ (MOOCs): แพลตฟอร์มอย่าง Coursera, edX, หรือ Udemy มีคอร์สเรียนเกี่ยวกับ Embedded Systems และ IoT ที่เปิดสอนโดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ
3 วารสารวิชาการและงานวิจัย: สำหรับนักศึกษาที่ต้องการศึกษาในเชิงลึก สามารถค้นหาวารสารที่เกี่ยวข้องกับ Embedded Systems, Wireless Sensor Networks, และ Internet of Things เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในการทำโปรเจกต์หรือโครงงาน
 
1 แบบประเมินออนไลน์: จัดทำแบบสอบถามออนไลน์เมื่อสิ้นสุดภาคการศึกษา เพื่อให้นักศึกษาประเมินเนื้อหา, ความเหมาะสมของกิจกรรมในชั้นเรียน, และคุณภาพของสื่อการสอน
2 การพูดคุยในชั้นเรียน: เปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับบทเรียนเป็นระยะ ๆ เพื่อให้ทราบถึงจุดที่ควรปรับปรุงได้ทันที
3 กลุ่มโฟกัส (Focus Group): จัดกลุ่มนักศึกษาเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับรายวิชาในเชิงลึก ซึ่งช่วยให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพกว่าการตอบแบบสอบถามเพียงอย่างเดียว
 
1 การประเมินตนเอง: อาจารย์ผู้สอนทบทวนและประเมินวิธีการสอนของตนเองเป็นประจำหลังการสอนแต่ละครั้ง โดยพิจารณาจากผลตอบรับของนักศึกษาและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
2 การสังเกตการสอน: ขอให้อาจารย์ท่านอื่นหรือหัวหน้าภาควิชาเข้ามาสังเกตการณ์ในห้องเรียน เพื่อให้ข้อเสนอแนะและมุมมองที่เป็นกลาง
3 การประเมินจากนักศึกษา: ใช้วิธีเดียวกับ "กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชา" เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพเกี่ยวกับประสิทธิภาพการสอน
 
1 ปรับปรุงเนื้อหา: หากนักศึกษาส่วนใหญ่ระบุว่าเนื้อหาบางส่วนเข้าใจยาก ควรปรับปรุงลำดับการสอน, เพิ่มตัวอย่างการปฏิบัติ, หรือจัดหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
2 ปรับเปลี่ยนวิธีการสอน: หากพบว่าวิธีการสอนแบบเดิมไม่น่าสนใจ ควรนำวิธีการใหม่ ๆ มาใช้ เช่น การสอนแบบโปรเจกต์ (Project-based learning) หรือการสอนแบบสลับบทบาท (Flipped classroom)
3 ปรับปรุงสื่อการสอน: พัฒนาสื่อการสอนให้มีความน่าสนใจและทันสมัยมากขึ้น เช่น การใช้สื่อมัลติมีเดีย, การสร้างวิดีโอสาธิต, หรือการใช้เครื่องมือออนไลน์ต่าง ๆ
 
1 การตั้งเกณฑ์การให้คะแนน (Rubric): จัดทำเกณฑ์การให้คะแนนสำหรับงานปฏิบัติและโปรเจกต์ที่ชัดเจนและเป็นมาตรฐาน เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการให้คะแนน
2 การสุ่มตรวจผลงาน: คณะกรรมการทวนสอบจะสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา เช่น รายงานหรือโค้ดโปรแกรม เพื่อตรวจสอบว่าการให้คะแนนเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่
3 การเปรียบเทียบผลลัพธ์: เปรียบเทียบผลการประเมินจากอาจารย์ผู้สอนหลายท่าน (กรณีที่มีผู้สอนหลายคน) เพื่อให้แน่ใจว่ามาตรฐานการให้คะแนนมีความสอดคล้องกัน
 
1 การประชุม: จัดประชุมคณะผู้สอนของรายวิชาเพื่อทบทวนผลการประเมิน, ผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา, และข้อเสนอแนะที่ได้รับ
2 การจัดทำรายงาน: จัดทำรายงานสรุปผลการประเมินและแผนการปรับปรุงรายวิชาเพื่อเป็นแนวทางสำหรับการจัดการเรียนการสอนในภาคการศึกษาถัดไป
3 การติดตามผล: กำหนดกลไกเพื่อติดตามว่าแผนการปรับปรุงที่วางไว้ได้ถูกนำไปปฏิบัติและส่งผลดีต่อรายวิชาจริงหรือไม่