การออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอ

Graphics Design for Presentation

ศึกษาเกี่ยวกับการนำเสนอ กระบวนการนำเสนอ เทคนิคการนำเสนอ หลักการในการออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอ การเตรียมข้อมูลสำหรับการออกแบบกราฟิก และการใช้โปรแกรมประยุกต์เพื่อสร้างกราฟิก
Study of the fundamentals of presentation, presentation process, presentation techniques, principles of graphic design for presentation, data preparation for graphic design, using application programs to create graphics.
 
1. ด้านความรู้ (Knowledge)
1.1 เพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจใน หลักการและองค์ประกอบพื้นฐานของการออกแบบกราฟิก เช่น การจัดวาง (Layout), ทฤษฎีสี, และการใช้ตัวอักษร (Typography)
1.2 เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบาย ความสำคัญของการสื่อสารด้วยภาพ และสามารถเลือกใช้กราฟิกที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ
1.3 เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ในการเลือกใช้ เครื่องมือและซอฟต์แวร์ สำหรับการออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

2. ด้านทักษะ (Skills)
2.1 เพื่อให้นักศึกษาสามารถ สร้างสรรค์งานนำเสนอ ที่มีคุณภาพ มีความสวยงาม และสามารถสื่อสารข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
2.2 เพื่อให้นักศึกษาสามารถ ออกแบบ Infographic และ Data Visualization เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติได้อย่างน่าสนใจและมีประสิทธิภาพ
2.3 เพื่อให้นักศึกษาสามารถ ประยุกต์ใช้ Motion Graphic และ Animation ในงานนำเสนอได้อย่างเหมาะสมและไม่สร้างความรำคาญ
2.4 เพื่อให้นักศึกษาสามารถ วางแผนและนำเสนอผลงาน การออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอได้อย่างมั่นใจและมีเหตุผล

3. ด้านเจตคติ (Attitudes)
3.1 เพื่อให้นักศึกษามี ทัศนคติที่ดีต่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์ และมีความกล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ ในการออกแบบ
3.2 เพื่อให้นักศึกษามี ความรับผิดชอบและจรรยาบรรณ ในการใช้รูปภาพ ข้อมูล และเนื้อหาต่างๆ โดยคำนึงถึงลิขสิทธิ์
3.3 เพื่อให้นักศึกษาสามารถ วิเคราะห์และวิพากษ์ผลงาน การออกแบบของตนเองและผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์และเป็นกลาง
 
ศึกษาเกี่ยวกับการนำเสนอ กระบวนการนำเสนอ เทคนิคการนำเสนอ หลักการในการออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอ การเตรียมข้อมูลสำหรับการออกแบบกราฟิก และการใช้โปรแกรมประยุกต์เพื่อสร้างกราฟิก
Study of the fundamentals of presentation, presentation process, presentation techniques, principles of graphic design for presentation, data preparation for graphic design, using application programs to create graphics.
 
1. ให้คำปรึกษาผ่านระบบโซเชียลเนตเวิร์ค เช่น ไลน์ หรือเฟสบุค ทั้งการคุยโต้ตอบทันทีและการฝากข้อความทิ้งไว้ใน E-mail และมีการตอบภายหลัง โดยนักศึกษาสามารถขอคำปรึกษาผ่านทางระบบนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง (นอกเวลาราชการฝากข้อความ) หรือใช้ช่องทางโทรศัพท์ปรึกษาระยะสั้น ใน 8 ชั่วโมงของทุกวันและเวลาราชการ
2. อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ)
 
1 ความซื่อสัตย์สุจริต: ไม่ลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่น ไม่ว่าจะในรายงาน โครงการ หรือการสอบ ต้องให้เกียรติและอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูลอย่างถูกต้อง
2 ความรับผิดชอบและความมีวินัยในตนเอง: ทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จตามกำหนดเวลา มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของงานที่ทำ
3 การเคารพสิทธิส่วนบุคคล: ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่เป็นความลับ ไม่นำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายหรือผิดจริยธรรม
4 จริยธรรมในการใช้ข้อมูล: เข้าใจถึงผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการทำเหมืองข้อมูล เช่น อคติ (Bias) ที่อาจแฝงอยู่ในข้อมูล และผลกระทบต่อการตัดสินใจ
5 การทำงานร่วมกับผู้อื่น: มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และรู้จักแบ่งปันความรู้เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุด
 
1 การบรรยายสอดแทรก: อาจารย์จะสอดแทรกเรื่องจริยธรรมในการใช้ข้อมูลและผลกระทบทางสังคมของเทคโนโลยีคลังข้อมูลและเหมืองข้อมูลในระหว่างการบรรยาย
2 กรณีศึกษา: ใช้กรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้านจริยธรรม เช่น การใช้ข้อมูลลูกค้าอย่างไม่เหมาะสม หรืออคติในโมเดล AI เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาได้คิดและอภิปราย
3 กำหนดเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ: มอบหมายให้นักศึกษาทำโครงการที่ต้องพิจารณาประเด็นด้านจริยธรรม เช่น การนำเสนอแนวทางในการใช้ข้อมูลอย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม หรือการวิเคราะห์อคติในชุดข้อมูล
4 การทำงานกลุ่ม: ส่งเสริมให้นักศึกษาได้ทำงานร่วมกันในโครงการกลุ่ม เพื่อเรียนรู้การแบ่งปันความรับผิดชอบ การรับฟังความคิดเห็น และการยอมรับในความแตกต่าง
 
1 การสังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียน: สังเกตการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน การอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
2 การพิจารณาจากผลงาน: ตรวจสอบความถูกต้องของการอ้างอิงแหล่งที่มาในรายงานและโครงการ เพื่อประเมินความซื่อสัตย์
3 การนำเสนอโครงการ: ประเมินทัศนคติและแนวคิดที่แสดงออกในการนำเสนอโครงการกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม
4 การให้คะแนนจากเพื่อนร่วมทีม (Peer Assessment): ให้นักศึกษาประเมินผลการทำงานของเพื่อนในกลุ่ม เพื่อประเมินความรับผิดชอบและความร่วมมือในการทำงานเป็นทีม
 
1 ทฤษฎีและหลักการออกแบบ: เข้าใจหลักการจัดองค์ประกอบ (Layout), ทฤษฎีสี, และการเลือกใช้ตัวอักษร (Typography) เพื่อสร้างงานที่สวยงามและสื่อความหมายได้
2 การสื่อสารด้วยภาพ: เข้าใจบทบาทของภาพในการนำเสนอ และสามารถเลือกใช้รูปภาพ ไอคอน กราฟ และ Infographic เพื่อถ่ายทอดข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
3 การใช้เครื่องมือ: รู้จักและสามารถใช้ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอ เช่น PowerPoint, Keynote, Canva, หรือโปรแกรมอื่นๆ ได้อย่างเหมาะสม
 
1 การบรรยายและสาธิต: ผู้สอนจะบรรยายหลักการและทฤษฎีต่างๆ พร้อมสาธิตการใช้เครื่องมือและเทคนิคการออกแบบจริงบนโปรแกรม
2 การฝึกปฏิบัติในชั้นเรียน: จัดกิจกรรมให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติการออกแบบในแต่ละหัวข้อ เช่น การสร้าง Color Palette, การออกแบบสไลด์จากโจทย์ที่กำหนด, หรือการสร้างกราฟจากข้อมูลจริง
3 การอภิปรายและวิจารณ์ผลงาน: เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำเสนอและวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของตนเองและเพื่อนร่วมชั้น เพื่อพัฒนาแนวคิดและทักษะการมองงานออกแบบอย่างเป็นกลาง
4 การศึกษาด้วยตนเอง: แนะนำแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เว็บไซต์บทความ วิดีโอสอนการใช้งานโปรแกรม หรือแหล่งรวมแรงบันดาลใจต่างๆ เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
 
1 การสอบย่อย: ประเมินความเข้าใจในทฤษฎีและหลักการออกแบบด้วยการสอบย่อยแบบปรนัยหรืออัตนัย
2 การประเมินจากงานรายสัปดาห์: ให้คะแนนจากชิ้นงานที่นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติในแต่ละสัปดาห์ เช่น สไลด์ที่ออกแบบ, Infographic, หรือ Storyboard
3 การประเมินจากโครงงานนำเสนอ (Project Final): โครงงานสุดท้ายเป็นการประเมินความสามารถในการนำความรู้ทั้งหมดมาประยุกต์ใช้ในการสร้างงานนำเสนอที่สมบูรณ์แบบ
4 การนำเสนอผลงาน: ประเมินทักษะการนำเสนอและการสื่อสารแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบของนักศึกษา
 
1 ทักษะการคิดวิเคราะห์: สามารถแยกแยะปัญหาที่ซับซ้อนออกเป็นส่วนย่อยๆ เพื่อทำความเข้าใจโครงสร้างของปัญหาในบริบทของข้อมูลได้
2 ทักษะการคิดเชิงสังเคราะห์: สามารถรวบรวมและเชื่อมโยงแนวคิดหรือข้อมูลที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาที่สมเหตุสมผลและมีประสิทธิภาพ
3 ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม: สามารถคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ในการใช้ข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาหรือค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เคยมีมาก่อน
4 ทักษะการแก้ปัญหา: สามารถระบุปัญหา เลือกใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เหมาะสม วางแผน และดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ
5 ทักษะการคิดเชิงระบบ: เข้าใจความสัมพันธ์และผลกระทบระหว่างส่วนประกอบต่างๆ ในระบบคลังข้อมูลและเหมืองข้อมูล เพื่อให้สามารถออกแบบและจัดการระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
1 การวิเคราะห์กรณีศึกษา (Case Study Analysis): มอบหมายให้นักศึกษาวิเคราะห์กรณีศึกษาที่ซับซ้อนในโลกธุรกิจ โดยให้นักศึกษาเสนอแนวทางในการใช้คลังข้อมูลและเหมืองข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา
2 โครงการกลุ่ม (Group Project): กำหนดให้มีโครงการที่ท้าทาย ซึ่งนักศึกษาต้องออกแบบและสร้างระบบคลังข้อมูล หรือทำการวิเคราะห์ข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ได้ฝึกฝนการคิดเชิงสังเคราะห์และการแก้ปัญหาร่วมกัน
3 การอภิปรายในชั้นเรียน: กระตุ้นให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับแนวคิดที่หลากหลายและวิธีการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน เพื่อฝึกฝนการคิดวิเคราะห์และเปิดรับมุมมองใหม่ๆ
4 การมอบหมายงานปลายเปิด (Open-Ended Assignments): ให้โจทย์ที่ไม่มีคำตอบที่ตายตัว เพื่อให้นักศึกษาได้คิดค้นวิธีการใหม่ๆ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอผลลัพธ์
 
1 การประเมินจากโครงการ (Project-Based Assessment): ประเมินจากคุณภาพของรายงานโครงการและผลลัพธ์ที่ได้ โดยพิจารณาจากความลึกของการวิเคราะห์ การใช้เครื่องมือที่เหมาะสม และความสมเหตุสมผลของแนวทางแก้ไขปัญหา
2 การสอบที่เน้นการแก้ปัญหา (Problem-Solving Exams): แทนที่จะเน้นการท่องจำ ควรออกแบบข้อสอบที่มีสถานการณ์จำลอง (Scenario-Based Questions) เพื่อทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะเพื่อแก้ไขปัญหาจริง
3 การนำเสนอผลงาน (Presentation): ประเมินจากการนำเสนอแนวคิด การวิเคราะห์ และผลลัพธ์ของโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบคำถามและการให้เหตุผลในการตัดสินใจต่างๆ
4 การประเมินการมีส่วนร่วม (Participation Assessment): ประเมินจากคุณภาพของการมีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้นเรียน รวมถึงความสามารถในการแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์
 
1 ทักษะการทำงานเป็นทีม: สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการอภิปรายกลุ่ม และสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้อย่างสร้างสรรค์
2 ความรับผิดชอบต่อหน้าที่: มีวินัยในตนเอง สามารถบริหารจัดการเวลาและทำงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จตามเป้าหมายและกำหนดเวลาที่กำหนดไว้
3 การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ: สามารถนำเสนอแนวคิด ผลการวิเคราะห์ และข้อสรุปต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบการพูดและการเขียน
4 ความเข้าใจในบทบาทของตนเอง: ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของตนเองในการทำงานกลุ่ม รวมถึงการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเพื่อนร่วมทีม
5 การปรับตัวและเปิดใจยอมรับความแตกต่าง: สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นที่มีพื้นฐานความรู้ ทัศนคติ หรือความถนัดที่แตกต่างกันได้
 
1 โครงการกลุ่ม (Group Project): กำหนดให้มีโครงการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความร่วมมือจากหลายฝ่าย เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกฝนการทำงานเป็นทีม การแบ่งงาน และการสื่อสาร
2 การอภิปรายกลุ่ม: จัดกิจกรรมอภิปรายในชั้นเรียนเป็นกลุ่มย่อย เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกการแสดงความคิดเห็น การรับฟังผู้อื่น และการหาข้อสรุปร่วมกัน
3 การนำเสนอผลงานกลุ่ม: ให้นักศึกษาทำงานร่วมกันเพื่อเตรียมการนำเสนอผลงาน โดยทุกคนต้องมีส่วนร่วมและแสดงบทบาทที่ชัดเจน เพื่อฝึกฝนทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน
4 การมอบหมายงานที่มีกำหนดเวลาชัดเจน: กำหนดส่งงานแต่ละชิ้นด้วยกำหนดเวลาที่แน่นอน เพื่อฝึกความรับผิดชอบและการบริหารจัดการเวลาของตนเอง
 
1 การประเมินจากผลงานกลุ่ม: พิจารณาคุณภาพของผลงานที่ทำร่วมกันเป็นทีม เช่น รายงานและผลลัพธ์ของโครงการ เพื่อสะท้อนถึงการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
2 การประเมินโดยเพื่อนร่วมทีม (Peer Assessment): ให้นักศึกษาประเมินผลการทำงานของเพื่อนร่วมทีม เพื่อให้เกิดการประเมินที่มาจากมุมมองที่หลากหลายและสะท้อนถึงความรับผิดชอบของแต่ละคนในกลุ่ม
3 การประเมินการนำเสนอ: พิจารณาจากความชัดเจนในการนำเสนอ ความสามารถในการตอบคำถาม และการทำงานร่วมกันของสมาชิกในกลุ่มขณะนำเสนอ
4 การสังเกตพฤติกรรม: สังเกตพฤติกรรมระหว่างการทำกิจกรรมกลุ่ม การอภิปราย และการทำงานในห้องเรียน เพื่อประเมินการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบของนักศึกษาแต่ละคน
 
1 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข: สามารถนำข้อมูลเชิงปริมาณมา วิเคราะห์และสรุปผล เพื่อนำเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิที่เข้าใจง่ายและถูกต้อง
2 ทักษะการสื่อสาร: สามารถ สื่อสารแนวคิดและข้อมูล ที่ซับซ้อนผ่านการออกแบบกราฟิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการนำเสนอด้วยวาจาและการสื่อสารด้วยภาพ
3 ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ: สามารถใช้ ซอฟต์แวร์และเครื่องมือ สำหรับการออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอได้อย่างคล่องแคล่วและสร้างสรรค์
 
1 การสอนเชิงปฏิบัติการ: มอบหมายให้ทำกิจกรรมที่ต้องใช้ข้อมูลจริง เช่น การนำข้อมูลสถิติมาสร้างเป็น Infographic หรือ Data Visualization
2 การนำเสนอผลงาน: ให้นักศึกษา นำเสนอแนวคิด และขั้นตอนการทำงานของโปรเจกต์ต่อหน้าชั้นเรียน เพื่อฝึกฝนทักษะการสื่อสารและตอบคำถาม
3 การใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้: ใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้และโปรแกรมออกแบบต่างๆ ในการทำงานร่วมกัน รวมถึงการใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์เพื่อค้นคว้าและพัฒนาผลงาน
 
1 การประเมินจากผลงาน: พิจารณาความสามารถในการ แปลงข้อมูลเชิงตัวเลขให้เป็นภาพ ในโครงงานนำเสนอ (Project Final)
2 การประเมินการนำเสนอ: ให้คะแนนจากการ นำเสนอผลงาน ทั้งในด้านเนื้อหา ความน่าสนใจ และความชัดเจนในการสื่อสารแนวคิดการออกแบบ
3 การประเมินจากรายงาน: ตรวจสอบรายงานหรือเอกสารประกอบการออกแบบที่แสดงถึง กระบวนการคิด การวิเคราะห์ข้อมูล และการเลือกใช้เทคโนโลยีของนักศึกษา
 
1 ทักษะการใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์: สามารถใช้โปรแกรมหรือภาษาโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างเชี่ยวชาญ เช่น การใช้เครื่องมือ ETL ในการดึงข้อมูล การใช้เครื่องมือ BI ในการสร้างแดชบอร์ด และการใช้ภาษาโปรแกรม (Python, R) เพื่อสร้างโมเดลเหมืองข้อมูล
2 ทักษะการออกแบบและพัฒนา: สามารถออกแบบโครงสร้างคลังข้อมูล (Dimensional Modeling) และพัฒนากระบวนการ ETL ได้อย่างเป็นระบบ
3 ทักษะการปฏิบัติงานในโครงการ: สามารถนำความรู้และทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในการทำโครงการจริงได้ ตั้งแต่การตั้งโจทย์ การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และการนำเสนอผลลัพธ์
4 ทักษะการทำงานในสภาพแวดล้อมจริง: สามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น ข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพ หรือปัญหาด้านประสิทธิภาพของระบบ
 
1 การฝึกปฏิบัติในห้องแล็บ: จัดให้นักศึกษาได้ใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์จริงเพื่อทำแบบฝึกหัดที่หลากหลาย เช่น การสร้าง Star Schema, การเขียนสคริปต์เพื่อทำความสะอาดข้อมูล หรือการสร้างโมเดลจำแนกประเภท (Classification Model)
2 โครงการกลุ่ม (Project-Based Learning): กำหนดให้มีโครงการที่นักศึกษาต้องทำตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งอาจเป็นการสร้างคลังข้อมูลขนาดเล็ก หรือการแก้ปัญหาธุรกิจโดยใช้เทคนิคเหมืองข้อมูล เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการปฏิบัติงานในทุกขั้นตอน
3 การจำลองสถานการณ์ (Simulation): จัดกิจกรรมที่จำลองสถานการณ์จริงที่อาจเกิดขึ้นในโลกการทำงาน เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและตัดสินใจภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อน
4 การนำเสนอผลงาน: ให้นักศึกษาได้นำเสนอผลงานที่ได้จากการปฏิบัติ เพื่อฝึกทักษะการสื่อสารและอธิบายขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน
 
1 การประเมินจากงานในห้องแล็บ: ตรวจสอบผลงานที่ได้จากการทำแบบฝึกหัดในห้องแล็บ เพื่อประเมินความสามารถในการใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์
2 การประเมินจากผลงานโครงการ: พิจารณาจากคุณภาพของผลงานโครงการ ไม่ว่าจะเป็นฐานข้อมูลที่สร้างขึ้น, โค้ดที่เขียน, หรือรายงานผลการวิเคราะห์ เพื่อประเมินความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้
3 การสอบปฏิบัติ (Practical Exam): อาจมีการสอบที่ให้นักศึกษาแก้โจทย์ปัญหาเชิงปฏิบัติโดยใช้คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง
4 การประเมินการนำเสนอผลงาน: ให้คะแนนจากการนำเสนอโครงการ โดยพิจารณาจากความชัดเจนในการอธิบายขั้นตอนการทำงานและทักษะการใช้เครื่องมือประกอบการนำเสนอ
 
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 ทดสอบย่อย 1 ทดสอบย่อย 2 สอบกลางภาคเรียน สอบปลายภาคเรียน แบบทดสอบ Google Form 4 8 9 17 10% 10% 25% 25%
2 การทำงานกลุ่มและผลงาน วิเคราะห์กรณีศึกษาค้นคว้า การนำเสนอ รายงาน ตลอดภาคการศึกษา 20%
3 เข้าชั้นเรียน การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ ตลอดภาคการศึกษา 10%
1 "การนำเสนอให้ได้ผลด้วย PowerPoint" (และตำราที่คล้ายกัน): หนังสือประเภทนี้จะอธิบายตั้งแต่การใช้งานเครื่องมือพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคขั้นสูงในการสร้างสไลด์ การใส่แอนิเมชัน และการออกแบบ Layout
2 "การออกแบบ Infographics": เป็นตำราที่เน้นการแปลงข้อมูลที่ซับซ้อนให้เป็นภาพที่เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับการเรียนรู้เทคนิคการเล่าเรื่องด้วยข้อมูล
3 "สื่อสารด้วยภาพ" โดย ศ.เกียรติคุณ ดร. กุสุมา รักษมณี (และตำราที่คล้ายกัน): เป็นตำราที่ช่วยให้เข้าใจหลักการทางทฤษฎีของการสื่อสารด้วยภาพ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการออกแบบกราฟิก
4 "slide:ology: The Art and Science of Creating Great Presentations" โดย Nancy Duarte: หนังสือเล่มนี้ถือเป็นตำราคลาสสิกที่สอนตั้งแต่แนวคิดการนำเสนอที่ทรงพลัง การจัดโครงสร้างเนื้อหา ไปจนถึงการออกแบบสไลด์ที่สวยงามและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ .
5 "Presentation Zen: Simple Ideas on Presentation Design and Delivery" โดย Garr Reynolds: เน้นแนวคิดแบบมินิมัลลิสต์และการใช้ภาพที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เพื่อสร้างการนำเสนอที่น่าจดจำและเข้าถึงผู้ฟังได้
6 "The Non-Designer's Design Book" โดย Robin Williams: เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านการออกแบบมาก่อน โดยจะอธิบายหลักการออกแบบพื้นฐาน 4 ข้อที่สำคัญ (CRAP: Contrast, Repetition, Alignment, Proximity) ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทันที
 
1 เอกสารประกอบการสอนจากมหาวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยหลายแห่งมักเผยแพร่เอกสารประกอบการสอน (สไลด์, เอกสาร PDF) สำหรับวิชา การออกแบบกราฟิก หรือ การนำเสนอ บนเว็บไซต์ของภาควิชา ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพ
2 บทเรียนออนไลน์จากแพลตฟอร์มอย่าง Canva และ Adobe: แพลตฟอร์มเหล่านี้มักมีบทเรียนและบทความเกี่ยวกับเทคนิคการออกแบบที่ใช้งานได้จริง รวมถึงการใช้เครื่องมือต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มของตนเอง
3 วิดีโอจาก TED Talks และ YouTube: การชมวิดีโอการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ จะช่วยให้เห็นตัวอย่างจริงของการประยุกต์ใช้หลักการออกแบบเพื่อสร้างการนำเสนอที่น่าสนใจได้
 
1 แบบประเมินรายวิชาออนไลน์: ให้นักศึกษาทำแบบสำรวจเมื่อสิ้นสุดภาคเรียนเพื่อประเมินความพึงพอใจต่อเนื้อหา การจัดกิจกรรม และประโยชน์ของรายวิชา
2 การอภิปรายกลุ่มย่อย: จัดเวลาในช่วงกลางภาคเรียนเพื่อให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นต่อปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการเรียนการสอน
3 การประเมินจากผลงาน: ประเมินจากผลงานของนักศึกษา เช่น โครงงานนำเสนอ (Project Final) ซึ่งจะสะท้อนถึงการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงตามวัตถุประสงค์ของรายวิชา
4 ช่องทางการสื่อสารแบบไม่เป็นทางการ: เปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางต่างๆ เช่น กล่องข้อเสนอแนะ หรือการพูดคุยกับผู้สอนโดยตรง
 
1 การประเมินโดยนักศึกษา: ใช้แบบประเมินผู้สอนที่สอดคล้องกับหัวข้อและรูปแบบการสอนของรายวิชา เพื่อให้นักศึกษาได้ให้คะแนนและแสดงความคิดเห็นต่อการถ่ายทอดความรู้ การจัดกิจกรรม และการให้คำแนะนำของผู้สอน
2 การประเมินโดยเพื่อนร่วมงาน (Peer Review): เชิญอาจารย์ในสาขาเดียวกันหรือผู้เชี่ยวชาญร่วมสังเกตการณ์การสอนในบางช่วง เพื่อให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการสอน
3 การประเมินตนเอง (Self-Assessment): ผู้สอนทำการทบทวนและประเมินการสอนของตนเองในแต่ละสัปดาห์ เช่น การประเมินว่าเนื้อหาที่สอนมีความเหมาะสมหรือไม่ และควรปรับปรุงส่วนใดบ้างในการสอนครั้งถัดไป
 
1 ปรับปรุงเนื้อหาและสื่อการสอน: จากผลประเมินของนักศึกษา ผู้สอนจะนำข้อมูลมาปรับปรุงสื่อการสอนให้ทันสมัยและน่าสนใจมากขึ้น เช่น การเพิ่มตัวอย่างงานนำเสนอที่หลากหลายหรือการใช้เทคนิคใหม่ๆ
2 เปลี่ยนแปลงกิจกรรมในชั้นเรียน: ปรับปรุงกิจกรรมให้มีความท้าทายและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักศึกษามากขึ้น เช่น การเปลี่ยนจากบรรยายเป็นการลงมือปฏิบัติมากขึ้น
3 พัฒนาทักษะของผู้สอน: ผู้สอนเข้าร่วมอบรมหรือสัมมนาที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบกราฟิกเพื่อการนำเสนอ หรือการพัฒนาเทคนิคการสอนใหม่ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในรายวิชา
 
1 ให้คะแนนผลงานของนักศึกษาในโครงการสุดท้าย
2 การทวนสอบโดยคณะกรรมการ: จัดตั้งคณะกรรมการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา โดยการสุ่มตรวจสอบผลงานและการให้คะแนนจากอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้มั่นใจว่าการวัดผลมีความยุติธรรมและเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้
3 การสร้างเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน (Rubrics): ผู้สอนจัดทำ Rubrics หรือเกณฑ์การให้คะแนนที่ชัดเจนสำหรับทุกงานและโครงการ เพื่อเป็นแนวทางให้นักศึกษาทราบว่าควรพัฒนาส่วนใดเพื่อให้ผลงานมีคุณภาพตามมาตรฐาน
 
1 วิเคราะห์ผลประเมิน: ผู้สอนและคณะกรรมการรายวิชาจะนำข้อมูลทั้งหมดจากแบบประเมินและผลการทวนสอบมาวิเคราะห์ เพื่อระบุจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุง
2 จัดทำรายงานการปรับปรุง: จัดทำรายงานสรุปผลการประเมินและแนวทางการปรับปรุงรายวิชา เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการสอนสำหรับภาคเรียนถัดไป
3 ปรับปรุงแผนการสอน: วางแผนการสอนและกิจกรรมใหม่โดยพิจารณาจากผลการทบทวน เพื่อให้รายวิชามีความทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาและอุตสาหกรรมในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น