การจัดการโมเดลทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
Business Model Management in the Digital Era
มีความเข้าใจในแนวคิดเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจ การสร้างโมเดลธุรกิจ การพัฒนาโมเดลธุรกิจ ความหมายของโมเดลธุรกิจดิจิทัล โมเดลธุรกิจดิจิทัลแบบไฮบริด นวัตกรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัล และสามารถประยุกต์ใช้กรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจในปัจจุบัน
เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจ ให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจในการนำความรู้ไปใช้ในการประกอบธุรกิจได้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้ทันต่อสถานการณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวคิดเกี่ยวกับโมเดลธุรกิจ การสร้างโมเดลธุรกิจ การพัฒนาโมเดลธุรกิจ ความหมายของโมเดลธุรกิจดิจิทัล โมเดลธุรกิจดิจิทัลแบบไฮบริด นวัตกรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัล กรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับโมเดลธุรกิจในปัจจุบันที่น่าสนใจ Concepts of business models; creation of business models; development of business models; definition of digital business models; hybrid digital business models; innovation of digital business models; case studies of interesting current business mod
อาจารย์ประจำรายวิชา ประกาศเวลาให้คำปรึกษาผ่านเว็บไซต์คณะ - อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์(เฉพาะรายที่ต้องการ)
1.1 คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา
ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม นักศึกษาต้องมีคุณธรรมจริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างราบรื่นและประพฤติตนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมอาจารย์ที่สอนในแต่ละรายวิชาต้องส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อมกับวิทยาการต่างๆ ดังนี้ 1.1.1 ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต 1.1.2 มีวินัย ตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม 1.1.3 มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นหมู่คณะ สามารถแก้ไขข้อขัดแย้งตามลำดับความสำคัญเคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ 1.1.4 สามารถวิเคราะห์และประเมินผลกระทบจากการใช้ความรู้ทางต่างๆ ต่อบุคคล องค์กร สังคมและสิ่งแวดล้อม 1.1.5 มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพและมีความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพรวมถึงเข้าใจถึงบริบททางสังคมของวิชาชีพ
ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม นักศึกษาต้องมีคุณธรรมจริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างราบรื่นและประพฤติตนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมอาจารย์ที่สอนในแต่ละรายวิชาต้องส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อมกับวิทยาการต่างๆ ดังนี้ 1.1.1 ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต 1.1.2 มีวินัย ตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม 1.1.3 มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นหมู่คณะ สามารถแก้ไขข้อขัดแย้งตามลำดับความสำคัญเคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ 1.1.4 สามารถวิเคราะห์และประเมินผลกระทบจากการใช้ความรู้ทางต่างๆ ต่อบุคคล องค์กร สังคมและสิ่งแวดล้อม 1.1.5 มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพและมีความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพรวมถึงเข้าใจถึงบริบททางสังคมของวิชาชีพ
1.2 วิธีการสอน
1.2.1 เน้นให้นักศึกษามีความรับผิดชอบโดยในการเน้นการทำงานกลุ่ม โดยฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม 1.2.2 เน้นกิจกรรมในห้องเรียนและมอบหมายงานให้นักศึกษา โดยสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในฐานะการเป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ดี ให้มีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการลอกผลงานของผู้อื่น
1.2.1 เน้นให้นักศึกษามีความรับผิดชอบโดยในการเน้นการทำงานกลุ่ม โดยฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม 1.2.2 เน้นกิจกรรมในห้องเรียนและมอบหมายงานให้นักศึกษา โดยสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในฐานะการเป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ดี ให้มีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการลอกผลงานของผู้อื่น
1.3 วิธีการประเมินผล
1.3.1 ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมและงานที่ได้รับมอบหมายทั้งในรูปแบบงานกลุ่มและงานส่วนตัว 1.3.2 ปริมาณการกระทำทุจริตในการสอบและความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานที่ได้รับ มอบหมาย 1.3.3 ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
1.3.1 ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมและงานที่ได้รับมอบหมายทั้งในรูปแบบงานกลุ่มและงานส่วนตัว 1.3.2 ปริมาณการกระทำทุจริตในการสอบและความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานที่ได้รับ มอบหมาย 1.3.3 ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
2.1 ความรู้ที่ต้องได้รับ
2.1.1 มีความรู้และความเข้าใจโมเดลทางธุรกิจ การสร้างโมเดลธุรกิจ การพัฒนาโมเดลธุรกิจในยุคดิจิทัล 2.1.2 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาและประเมินโอกาสในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล 2.1.3 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในรูปแบบธุรกิจใหม่ โมเดลธุรกิจดิจิทัลแบบไฮบริด นวัตกรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัล 2.1.4 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษากับการพัฒนาโมเดลธุรกิจในยุคดิจิทัลได้ 2.1.5 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับจริยธรรมของการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ 2.1.5 สามารถใช้ความรู้และทักษะในสาขาวิชาของตน ในการประยุกต์แก้ไขปัญหาในงานจริงได้
2.1.1 มีความรู้และความเข้าใจโมเดลทางธุรกิจ การสร้างโมเดลธุรกิจ การพัฒนาโมเดลธุรกิจในยุคดิจิทัล 2.1.2 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาและประเมินโอกาสในการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล 2.1.3 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในรูปแบบธุรกิจใหม่ โมเดลธุรกิจดิจิทัลแบบไฮบริด นวัตกรรมโมเดลธุรกิจดิจิทัล 2.1.4 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษากับการพัฒนาโมเดลธุรกิจในยุคดิจิทัลได้ 2.1.5 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับจริยธรรมของการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ 2.1.5 สามารถใช้ความรู้และทักษะในสาขาวิชาของตน ในการประยุกต์แก้ไขปัญหาในงานจริงได้
2.2 วิธีการสอน
รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิดโดย ฝึกการคิดวิเคราะห์วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ด้านความรู้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ให้เป็นแหล่งความรู้สำหรับการค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการ เช่น ทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ ให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจ จัดการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experimental Instruction) การศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ข้อเท็จจริง โดยเชื่อมโยงความอยากรู้ อยากเห็น อยากเรียนรู้ของผู้เรียนจากประสบการณ์เดิม สู่การค้นคว้า แสวงหาความรู้ใหม่ หรือแนวคิด ทฤษฎีใหม่ การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในลักษณะที่เป็นองค์รวม และสามารถนำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในการประกอบธุรกิจในอนาคตได้
รูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลางให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความคิดโดย ฝึกการคิดวิเคราะห์วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ด้านความรู้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ให้เป็นแหล่งความรู้สำหรับการค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการ เช่น ทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ ให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจ จัดการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experimental Instruction) การศึกษาแนวคิด ทฤษฎี ข้อเท็จจริง โดยเชื่อมโยงความอยากรู้ อยากเห็น อยากเรียนรู้ของผู้เรียนจากประสบการณ์เดิม สู่การค้นคว้า แสวงหาความรู้ใหม่ หรือแนวคิด ทฤษฎีใหม่ การเรียนรู้แบบบูรณาการ เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในลักษณะที่เป็นองค์รวม และสามารถนำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในการประกอบธุรกิจในอนาคตได้
2.3 วิธีการประเมินผล
2.3.1 ทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค ด้วยข้อสอบที่เน้นการวัดหลักการและทฤษฏี 2.3.2 โมเดลธุรกิจดิจิทัล 2.3.3 รายงานที่ได้รับมอบหมาย
2.3.1 ทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค ด้วยข้อสอบที่เน้นการวัดหลักการและทฤษฏี 2.3.2 โมเดลธุรกิจดิจิทัล 2.3.3 รายงานที่ได้รับมอบหมาย
3.1 ทักษะทางปัญญา ที่ต้องพัฒนา
3.1 ผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญา 3.1.1 คิดอย่างมีวิจารณญาณที่ดีและอย่างเป็นระบบ 3.1.2 สามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และ สรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ 3.1.3 สามารถคิดวิเคราะห์วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ด้านความรู้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ให้เป็นแหล่งความรู้สำหรับการค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการ เช่น ทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ และนำความรู้ช่วยเหลือชุมชนได้ 3.1.4 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษากับแผนการพัฒนาโมเดลธุรกิจในยุคดิจิทัลได้ 3.1.5 สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตนเองเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ
3.1 ผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญา 3.1.1 คิดอย่างมีวิจารณญาณที่ดีและอย่างเป็นระบบ 3.1.2 สามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และ สรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ 3.1.3 สามารถคิดวิเคราะห์วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ด้านความรู้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จัดระบบเครือข่ายการเรียนรู้ให้เป็นแหล่งความรู้สำหรับการค้นคว้าหาความรู้ทุก ๆ ด้านที่ผู้เรียนต้องการ เช่น ทรัพยากรท้องถิ่น ภูมิปัญญาชาวบ้าน และหน่วยงานต่างๆ และนำความรู้ช่วยเหลือชุมชนได้ 3.1.4 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษากับแผนการพัฒนาโมเดลธุรกิจในยุคดิจิทัลได้ 3.1.5 สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตนเองเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ
3.2 วิธีการสอน
3.2.1 มอบหมาย Case Study ให้นักศึกษาคิด วิเคราะห์แนวทางการพัฒนาโมเดลธุรกิจ 3.2.2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อออกแบบ พัฒนาโมเดลธุรกิจ และจัดทำเขียนแผนธุรกิจในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
3.2.1 มอบหมาย Case Study ให้นักศึกษาคิด วิเคราะห์แนวทางการพัฒนาโมเดลธุรกิจ 3.2.2 การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เพื่อออกแบบ พัฒนาโมเดลธุรกิจ และจัดทำเขียนแผนธุรกิจในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
3.3 วิธีการประเมินผล
3.3.1 ประเมินจากวิเคราะห์ และแนวทางการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่เหมาะสม 3.3.2 ประเมินจากการทดสอบภาคปฏิบัติรายบุคคลท้ายภาคเรียน 3.3.3 ประเมินจากการจัดทำโมเดลธุรกิจ แผนธุรกิจ และความเป็นไปได้ของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่จัดทำ
3.3.1 ประเมินจากวิเคราะห์ และแนวทางการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจที่เหมาะสม 3.3.2 ประเมินจากการทดสอบภาคปฏิบัติรายบุคคลท้ายภาคเรียน 3.3.3 ประเมินจากการจัดทำโมเดลธุรกิจ แผนธุรกิจ และความเป็นไปได้ของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่จัดทำ
4.1 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ที่ต้องพัฒนา
4.1.1 สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลาย และสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ความรู้ในสาขาวิชาชีพมาสื่อสารต่อสังคมได้ในประเด็นที่เหมาะสม 4.1.2 สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ในกลุ่มทั้งในบทบาทผู้นำและผู้ร่วมทีมทำงาน 4.1.3 สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเอง และสอดคล้องกับทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง 4.1.4 รู้จักบทบาท หน้าที่ และมีความรับผิดชอบในการทำงานตามที่มอบหมาย ทั้งงานบุคคลและงานกลุ่ม สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ 4.1.5 สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการทำงาน และการรักษาสภาพแวดล้อมต่อสังคม
4.1.1 สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลาย และสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ความรู้ในสาขาวิชาชีพมาสื่อสารต่อสังคมได้ในประเด็นที่เหมาะสม 4.1.2 สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่าง ๆ ในกลุ่มทั้งในบทบาทผู้นำและผู้ร่วมทีมทำงาน 4.1.3 สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเอง และสอดคล้องกับทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง 4.1.4 รู้จักบทบาท หน้าที่ และมีความรับผิดชอบในการทำงานตามที่มอบหมาย ทั้งงานบุคคลและงานกลุ่ม สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ 4.1.5 สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ มีจิตสำนึกความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการทำงาน และการรักษาสภาพแวดล้อมต่อสังคม
4.2 วิธีการสอน
4.2.1 การลงมือทำปฏิบัติการรายกลุ่ม 4.2.2 มอบหมายงานกลุ่มในการแก้ไขโจทย์ปัญหาจากสถานประกอบการ
4.2.1 การลงมือทำปฏิบัติการรายกลุ่ม 4.2.2 มอบหมายงานกลุ่มในการแก้ไขโจทย์ปัญหาจากสถานประกอบการ
4.3 วิธีการประเมินผล
4.3.1 ปฏิบัติการรายกลุ่มประเมินจากสมุดบันทึกผลปฏิบัติการ รวมถึง พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม 4.3.2 ประเมินจากการบรรลุผลการแก้ไขโจทย์ปัญหา (การนำเสนอผลงาน)
4.3.1 ปฏิบัติการรายกลุ่มประเมินจากสมุดบันทึกผลปฏิบัติการ รวมถึง พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม 4.3.2 ประเมินจากการบรรลุผลการแก้ไขโจทย์ปัญหา (การนำเสนอผลงาน)
5.1 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องพัฒนา
5.1.1 สามารถใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์ ตลอดจนทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพได้เป็นอย่างดี 5.1.2 มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ ต่อการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างสร้างสรรค์ 5.1.3 สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ต่อวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง 5.1.4 มีทักษะในการสื่อสารข้อมูลทั้งทางการพูด การเขียน และการสื่อความหมายโดยใช้สัญลักษณ์ 5.1.5 สามารถนำเสนอผลงานโดยใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีสื่อสารทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม
5.1.1 สามารถใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์ ตลอดจนทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพได้เป็นอย่างดี 5.1.2 มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ ต่อการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างสร้างสรรค์ 5.1.3 สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ต่อวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง 5.1.4 มีทักษะในการสื่อสารข้อมูลทั้งทางการพูด การเขียน และการสื่อความหมายโดยใช้สัญลักษณ์ 5.1.5 สามารถนำเสนอผลงานโดยใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีสื่อสารทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการในวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม
5.2 วิธีการสอน
5.2.1 มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลในขณะจัดการเรียนการสอนด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ยกตัวอย่างเช่น การค้นคว้าหาข้อมูลสถิติแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อวางแผนการพัฒนาโมเดลทางธุรกิจและวางแผนทางการตลาดให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เป็นต้น 5.2.2 ในการสอนภาคทฤษฎีให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันเอกสาร การแบ่งงานที่เหมาะสม การจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ 5.2.3 ฝึกการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการค้นหาหรือบทความงานวิจัยเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโมเดลทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
5.2.1 มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลในขณะจัดการเรียนการสอนด้วยตนเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ยกตัวอย่างเช่น การค้นคว้าหาข้อมูลสถิติแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในปัจจุบัน เพื่อวางแผนการพัฒนาโมเดลทางธุรกิจและวางแผนทางการตลาดให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เป็นต้น 5.2.2 ในการสอนภาคทฤษฎีให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแบ่งปันเอกสาร การแบ่งงานที่เหมาะสม การจัดกิจกรรมการเรียนแบบร่วมมือ 5.2.3 ฝึกการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการค้นหาหรือบทความงานวิจัยเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโมเดลทางธุรกิจในยุคดิจิทัล
5.3 วิธีการประเมินผล
5.3.1 งานที่มอบหมายให้ค้นคว้าข้อมูล 5.3.2 การนำเสนองานในรูปแบบต่างๆ
5.3.1 งานที่มอบหมายให้ค้นคว้าข้อมูล 5.3.2 การนำเสนองานในรูปแบบต่างๆ
6.1 ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย
การเป็นดำเนินงานทางธุรกิจในยุคดิจิทัล ต้องแสวงหาโอกาส คือจะต้องเป็นผู้มองเห็นโอกาสและหาช่องทางทางธุรกิจได้ตลอดเวลา แม้จะตกอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องเป็นนักเสี่ยง ต้องกล้าได้กล้าเสีย พร้อมที่จะดำเนินการทันทีเมื่อมองเห็นโอกาส เป็นคนมีความคิดริเริ่ม หรือสร้างสรรค์ ในการผลิตสินค้าหรือบริการใหม่ ออกสู่ตลาดที่มีสภาพการแข่งขันสูง ต้องเป็นคนที่ใฝ่รู้อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถปรับตัวได้เสมอ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทำให้ธุรกิจมีทิศทางที่ชัดเจนไม่เดินทางออกนอกลู่นอกทาง สามารถมุ่งไปสู่อนาคตด้วยเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ต้องมีเครือข่ายดี เพื่อที่จะทำให้ได้ประโยชน์ทั้งด้านข้อมูล และการได้รับความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ดังนั้นในการเรียนการสอนจึงต้องให้ความสำคัญเน้นไปที่การสร้างทักษะคุณสมบัติและทักษะที่ดีสำหรับการดำเนินงานทางธุรกิจ ดังข้อต่อไปนี้ 6.1.1 มีทักษะวิชาชีพในการปฏิบัติงานตามสมรรถนะวิชาชีพที่สถานประกอบการต้องการ 6.1.2 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถบูรณาการความรู้ที่เรียนมาเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 6.1.3 มีความจรรยาบรรณตามมาตรฐานวิชาชีพของตนเอง
การเป็นดำเนินงานทางธุรกิจในยุคดิจิทัล ต้องแสวงหาโอกาส คือจะต้องเป็นผู้มองเห็นโอกาสและหาช่องทางทางธุรกิจได้ตลอดเวลา แม้จะตกอยู่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ต้องเป็นนักเสี่ยง ต้องกล้าได้กล้าเสีย พร้อมที่จะดำเนินการทันทีเมื่อมองเห็นโอกาส เป็นคนมีความคิดริเริ่ม หรือสร้างสรรค์ ในการผลิตสินค้าหรือบริการใหม่ ออกสู่ตลาดที่มีสภาพการแข่งขันสูง ต้องเป็นคนที่ใฝ่รู้อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถปรับตัวได้เสมอ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทำให้ธุรกิจมีทิศทางที่ชัดเจนไม่เดินทางออกนอกลู่นอกทาง สามารถมุ่งไปสู่อนาคตด้วยเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ต้องมีเครือข่ายดี เพื่อที่จะทำให้ได้ประโยชน์ทั้งด้านข้อมูล และการได้รับความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ดังนั้นในการเรียนการสอนจึงต้องให้ความสำคัญเน้นไปที่การสร้างทักษะคุณสมบัติและทักษะที่ดีสำหรับการดำเนินงานทางธุรกิจ ดังข้อต่อไปนี้ 6.1.1 มีทักษะวิชาชีพในการปฏิบัติงานตามสมรรถนะวิชาชีพที่สถานประกอบการต้องการ 6.1.2 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และสามารถบูรณาการความรู้ที่เรียนมาเพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 6.1.3 มีความจรรยาบรรณตามมาตรฐานวิชาชีพของตนเอง
6.2 วิธีการสอน
6.2.1 นักศึกษาได้ลงมือฝึกทักษะปฏิบัติที่สอดคล้องกับเนื้อหาทฤษฎีในทุกคาบเรียน 6.2.2 ฝึกให้นักศึกษาได้คิด วิเคราะห์ ธุรกิจต้นแบบ 6.2.3 นักศึกษาได้คิด วิเคราะห์ธุรกิจใหม่ และวางแผนได้ด้วยตนเอง
6.2.1 นักศึกษาได้ลงมือฝึกทักษะปฏิบัติที่สอดคล้องกับเนื้อหาทฤษฎีในทุกคาบเรียน 6.2.2 ฝึกให้นักศึกษาได้คิด วิเคราะห์ ธุรกิจต้นแบบ 6.2.3 นักศึกษาได้คิด วิเคราะห์ธุรกิจใหม่ และวางแผนได้ด้วยตนเอง
6.3 วิธีการประเมินผล
6.3.1 ประเมินประสิทธิภาพในทักษะปฏิบัติ ความถูกต้องและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ โดยมีการทดสอบภาคปฏิบัติรายบุคคลท้ายภาคการศึกษา 6.3.2 ประเมินจากการนำเสนอกระบวนการได้มาซึ่งการแก้ไขโจทย์ปัญหา 6.3.3 ประเมินจากความเป็นไปได้ของการจัดทำโมเดลธุรกิจและแผนธุรกิจในยุคดิจิทัล
6.3.1 ประเมินประสิทธิภาพในทักษะปฏิบัติ ความถูกต้องและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ โดยมีการทดสอบภาคปฏิบัติรายบุคคลท้ายภาคการศึกษา 6.3.2 ประเมินจากการนำเสนอกระบวนการได้มาซึ่งการแก้ไขโจทย์ปัญหา 6.3.3 ประเมินจากความเป็นไปได้ของการจัดทำโมเดลธุรกิจและแผนธุรกิจในยุคดิจิทัล
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | ด้านความรู้ (ทดสอบภาคทฤษฎี) | ทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค | สัปดาห์ที่ 9 และสัปดาห์ที่ 17 | 55 |
2 | ด้านคุณธรรม จริบธรรม | การเข้าชั้นเรียน / การส่งงานตามที่ได้รับมอบหมาย | ทุกสัปดาห์ | 5 |
3 | ด้านทักษะทางปัญญา | โมเดลธุรกิจ แผนธุรกิจ | สัปดาห์ที่ 6-8, 15, 16 | 20 |
4 | ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ | รายงาน | สัปดาห์ที่ 1 - 16 | 5 |
5 | ด้านทักษะวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ | งานกลุ่ม (Case Study) | สัปดาห์ที่ 4-5 , สัปดาห์ที่ 13 -14 | 10 |
6 | ด้านทักษะพิสัย | ทักษะการปฏิบัติ | สัปดาห์ที่ 1 - 16 | 5 |
ธนพงศ์พรรณ ธัญญรัตตกุล. (2564). Digital Transformation Canvas โมเดลทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตครั้งใหม่ ฉบับปรับปรุงใหม่ ปี 2022. สำนักพิมพ์วิช กรุงเทพมหานคร. 288 หน้า กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล.ม.ป.ป. การเป็นผู้ประกอบการและการสร้างธุรกิจใหม่. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ ซีเอ็ดยูเคชั่น, บมจ.352 หน้า
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้ 1.1 การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เพื่อทบทวนผลการเรียนรู้หลังคาบเรียน แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชาเป็นรายบุคคลโดยนักศึกษา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอนได้มีกลยุทธ์ ดังนี้ 2.1 ผลการเรียนของนักศึกษา และการทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้ สัมมนาแลกเปลี่ยนการจัดการเรียนการสอนระหว่างผู้เรียนและผู้สอน
ระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจาก การเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้ 4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์ท่านอื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร 4.2 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชาตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษาโดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมินและทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชาได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้ 5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4 5.2 เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ