การวางผังโรงงาน

Industrial Plant Layout and Design

เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจหลักการ แนวคิด และกระบวนการในการวางผังโรงงานอย่างเป็นระบบ สามารถวิเคราะห์และออกแบบผังโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงการไหลของวัสดุ การจัดวางเครื่องจักร ทำเลที่ตั้ง และระบบการจัดเก็บ การขนถ่ายวัสดุ ตลอดจนสามารถประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการวางผังโรงงานให้เหมาะสมกับลักษณะของการผลิตในแต่ละรูปแบบ
1. อธิบายแนวคิดพื้นฐานและความสำคัญของการออกแบบและวางผังโรงงานได้
2. วิเคราะห์ลักษณะปัญหาและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการวางผังโรงงาน เช่น ทำเลที่ตั้งโรงงาน ลักษณะผลิตภัณฑ์ และระบบการผลิต
3. จำแนกและเลือกใช้ชนิดของผังโรงงานที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตแต่ละประเภทได้
4. อธิบายและประยุกต์ใช้กระบวนการวางผังโรงงานอย่างเป็นระบบ (Systematic Layout Planning - SLP) ได้
5. ออกแบบผังการไหลของวัสดุและวิเคราะห์การขนถ่ายวัสดุภายในโรงงาน
6. ใช้ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการวางผังโรงงาน
7. แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของเครื่องจักร ทั้งในแนวราบและในระบบคลังสินค้าแบบต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง
8. พัฒนาทักษะการคิดเชิงระบบ การวิเคราะห์ การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีมผ่านกิจกรรมออกแบบและวางผังโรงงาน
 
ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบโรงงานและการวิเคราะห์เบื้องต้นเกี่ยวกับการออกแบบโรงงาน การวางผังโรงงานและลักษณะทั่วไปของปัญหาการออกแบบโรงงาน ทำเลที่ตั้งโรงงานและการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ ชนิดของการวางผังโรงงานและส่วนช่วยการผลิตและการวางผังโรงงานอย่างเป็นระบบ กระบวนการของการวางผังโรงงานอย่างเป็นระบบและการไหลของวัสดุ การจัดการโครงการวางผังโรงงานและระบบการขนถ่ายวัสดุ ปัญหาการวางผังโรงงาน การวางผังโรงงานโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ปัญหาตำแหน่งที่ตั้งเครื่องจักรในแนวราบแบบเล็คติเนีย ปัญหาตำแหน่งที่ตั้งเครื่องจักร การวางผังการจัดเก็บสินค้าแบบไม่ต่อเนื่อง และการวางผังการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าแบบต่อเนื่อง
2
1. แสดงออกซี่งจิตสำนึกสาธารณะ และตระหนักในคุณค่าของคุณธรรมจริยธรรมจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพครู ที่เสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน
2. สามารถจัดการและคิดแล้ปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู
3. แสดงออกซี่งการมีวินัย ขยัน อดทน เสียสละ ตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นแบบอย่างที่ดี
4. เคารพสิทธิและรับฟิงความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและคักดี้ศรีของความเป็นมนุษย์
1. สอดแทรกตัวอย่างให้เห็นหน้าที่ความรับผิดชอบของอาชีพวิศวกร และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากไม่ปฏิบัติตาม
2. สอดแทรกแนวคิดเรื่องระเบียบวินัย เคารพระเบียบ ข้อบังคับ เช่น การตรงต่อเวลา มารยาทการใช้อุปกรณ์ การเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นต้น
3. ปลูกฝังให้ตระหนักถึงความซื่อสัตย์ กำหนดบทลงโทษ และผลกระทบต่อตนเอง สังคม จากพฤติกรรมดังกล่าว
1. พฤติกรรมการเข้าเรียน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา
2. สังเกตพฤติกรรมต่างๆ ของนักศึกษาที่เกิดระหว่างการทดลองใช้วิธีการสอนในข้อข้างต้นว่าเป็นไปตามคาดหมายไว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามที่คาดหมายก็อาจเปลี่ยนสถานการณ์ให้เหมาะสมมากขึ้น
1. มีความรอบรู้ในด้านความรู้ทั่วไป วิชาชีพครู และวิชาชีพเฉพาะ อย่างกว้างขวางลึกซึ้ง และเป็นระบบ
2. สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีในสาขาวิชาชีพเฉพาะรวมทั้งคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าองค์ความรู้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของงานวิจัยเพื่อต่อยอดองค์ความรู้
3. สามารถนำหลักการและทฤษฎีในองค์ความรู้ที่ได้ศึกษาไปบูรณาการข้ามศาสตร์และบูรณาการกับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเหมาะสม
1. บรรยาย อภิปราย การทำงานกลุ่ม การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นหาบทความ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน โดยนำมาสรุปและนำเสนอ
1. ทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค ด้วยข้อสอบที่เน้นการวัดหลักการและทฤษฏี
2. ประเมินจากงานที่มอบหมายให้ไปค้นคว้า
1. มีจินตนาการในการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและแล้ปัญหาที่มีความสลับซับซ้อนในการประยุกต์ความรู้ทางด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อพัฒนานวัตกรรม
2. มีทักษะในการเป็นผู้นำความรู้เพื่อการสืบด้นข้อมูล วินิจฉัย วิเคราะห์และสรุปประเด็นของสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ
1. การมอบให้นักศึกษาทำโครงงานพิเศษ ที่ให้วิเคราะห์และแก้ไขปัญหา แล้วนำเสนอผลงาน
2. อภิปรายกลุ่ม
3. วิเคราะห์กรณีศึกษา ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม
4. การสะท้อนแนวคิดจากการประพฤติ
1. สอบกลางภาคและปลายภาค โดยเน้นข้อสอบที่มีการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือวิเคราะห์แนวคิดในการประยุกต์ใช้
2. วัดผลจากการประเมินผลงานที่มอบหมาย
3.สังเกตพฤติกรรมการแก้ไขปัญหา
1. แสดงออกถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่น และมีวุฒิภาวะทางอารมณ์
2. แสดงออกถึงการมีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามที่สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการแกไขสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม
3. สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมตามบทบาท หน้าที่ การทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือและเอื้อต่อการแกไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
4. สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน และมีจิตสำนึกต่อสังคมด้านการนำความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
1. จัดกิจกรรมกลุ่มในการวิเคราะห์กรณีศึกษา
2. มอบหมายงานรายกลุ่มและรายบุคคล เช่น การค้นคว้าความก้าวล้ำของเทคโนโลยี การนำตัวอย่างการใช้การศึกษางาน หรือ อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา
3. การนำเสนอรายงาน
1. ประเมินจากรายงานที่นำเสนอ พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม
2. ประเมินจากรายงานการศึกษาด้วยตนเอง
1. มีทักษะในการเลือกใช้วิธีการและเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารทั้งที่เป็นตัวเลขเซิงสถิติ คณิตศาสตร์ ภาษาพูดและภาษาเขียน อันมีผลทำให้สามารถเช้าใจองค์ความรู้หรือประเด็นป้ญหาได้อย่างรวดเร็ว
2. สามารถใช้ดุลยพินิจในการสืบด้น วิเคราะห์ ประมวลผล แปลความหมายและประยุกติใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อแกไฃปีญหาอย่างเหมาะสม
3. สามารถสนทนา เขียน และนำเสนอทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง จากเว็บไซต์สื่อการสอน E- Learning และทำรายงานโดยเน้นการนำตัวเลข หรือมีสถิติอ้างอิง จากแหล่งที่มาข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
2. นำเสนอโดยใช้รูปแบบและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
1. ประเมินจากรายงาน และรูปแบบการนำเสนอด้วยสื่อเทคโนโลยี
2. ประเมินจากการมีส่วนร่วมในการอภิปรายและวิธีการอภิปราย
1. แสดงออกถึงการมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ด้านการปฏิบัติงานในวิชาชีพเฉพาะ วิชาชีพครู การบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการที่มีรูปแบบหลากหลายอย่างบูรณาการและสร้างสรรค์
2. แสดงออกถึงการมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอน รวมถึงประยุกต์วิธีการสอนได้อย่างบูรณาการที่เหมาะสมกับเนื้อหาและสภาพของกลุ่มผู้เรียนที่หลากหลายอย่างมีนวัตกรรม
1. นำความรู้ไปใช้สนับสนุนการทำโครงงานของนักศึกษา
2. การออกไปปฏิบัติประสบการณ์วิชาชีพครู ในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง
1. ประเมินจากความสำเร็จของโครงงานนักศึกษา
2. ประเมินจากการออกไปปฏิบัติประสบการณ์วิชาชีพครูของนักศึกษา
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรม 2. ด้านความรู้ 3. ด้านทักษะทางปัญญา 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลขและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ด้านวิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 1.2 1.3 1.4 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 3.1 3.2 3.3 4.1 4.2 4.3 4.4 5.1 5.2 5.3 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5
1 TEDIE925 การวางผังโรงงาน
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 ด้านคุณธรรมจริยธรรม (ตรงต่อเวลา มีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่องานและส่วนรวม) ความรับผิดชอบในการส่งงาน / การทำงานกลุ่ม / การแสดงความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ตลอดภาคเรียน 10
2 ด้านความรู้ (เข้าใจแนวคิด/ทฤษฎีด้านการควบคุมคุณภาพ เครื่องมือ และมาตรฐานคุณภาพ) สอบกลางภาค / สอบปลายภาค (ข้อสอบปรนัยและอัตนัย) 8 / 17 40
3 ด้านทักษะทางปัญญา (คิดวิเคราะห์เหตุผล ใช้เครื่องมือควบคุมคุณภาพในสถานการณ์จริง) - แบบฝึกหัดกรณีศึกษา (การเลือกทำเล, การจัดวางเครื่องจักร) วัดจากวิเคราะห์รายบุคคล/กลุ่ม - งานออกแบบผังโรงงานเบื้องต้น วัดจากการประเมินแบบฝึกหัด - 3 / 12 - 4-7 20
4 ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (ทำงานเป็นทีม แบ่งบทบาทและแสดงความรับผิดชอบในกลุ่ม) การนำเสนอผลงานกลุ่ม (ออกแบบผังโรงงานจำลอง) วัดจากประเมินกลุ่มและรายบุคคล 16 10
5 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (ใช้โปรแกรมหรือเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล) - แบบฝึกใช้ซอฟต์แวร์วางผังโรงงาน วัดจากประเมินรายบุคคล - รายงานผังการจัดเก็บสินค้า วัดจากตรวจรายงาน / ให้คะแนน - 11 - 14 และ 15 20
6 ทักษะด้านวิธีวิทยาการจัดการเรียนรู้ ตรวจแบบและประเมินการวางแผน 9 รวมกับกิจกรรมที่ 2 และ 3
1. การวางผังโรงงาน (Plant Layout) ผู้แต่ง: ผศ.สมชาย เครือวัลย์ สำนักพิมพ์: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2. วิศวกรรมโรงงาน (Plant Engineering) ผู้แต่ง: รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร เกตุปราโมทย์ สำนักพิมพ์: ซีเอ็ดยูเคชั่น

 

 

 

 
1. แผนการสอนรายสัปดาห์
2. เอกสารประกอบการบรรยาย (Lecture Notes / PowerPoint Slides)
3. แบบฝึกหัด / แบบทดสอบ
4. คู่มือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้อง / AutoCAD สำหรับวาดผังโรงงาน / Microsoft Excel / Visio หรือโปรแกรมออกแบบระบบอื่น ๆ สำหรับวางเลย์เอาต์
5. งานกลุ่ม/โครงงานประจำวิชา (Project)
6. เอกสารประกอบการประเมินผล

     

 
1. เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ Industrial Engineering
2. YouTube ช่องเกี่ยวกับการออกแบบโรงงาน หรือ Lean Layout
3. ห้องสมุดมหาวิทยาลัย: ค้นหาหนังสือ/บทความวิชาการที่เกี่ยวข้อง

 

 
1. ดำเนินการประเมินผลรายวิชาจากนักศึกษาโดยใช้ แบบสอบถามความพึงพอใจ ต่อเนื้อหา การสอน สื่อการเรียน และประโยชน์ที่ได้รับจากรายวิชา
2. ใช้แบบสอบถามในช่วง ปลายภาคเรียน (สัปดาห์ที่ 16) ผ่านระบบประเมินออนไลน์หรือแบบกระดาษ
3. เปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอย่างเสรี เพื่อสะท้อนมุมมองที่แท้จริง
4. ผลการประเมินจะนำไปวิเคราะห์เพื่อใช้ในการปรับปรุงรายวิชาในภาคเรียนถัดไป
 
1. ใช้ แบบประเมินการสอนโดยนักศึกษา และ แบบสังเกตการสอนโดยอาจารย์หรือหัวหน้าสาขา
2. มีการจัดประชุมสัมมนาอาจารย์ในภาควิชาเพื่อแลกเปลี่ยนผลการสอน และวิธีการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
3. การใช้ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาเป็นเครื่องมือประเมินอีกส่วนหนึ่ง เพื่อสะท้อนประสิทธิภาพของการถ่ายทอดความรู้
4. มีการตรวจสอบการปฏิบัติตามแผนการสอนรายสัปดาห์ และการส่งมอบผลการประเมินตามกรอบเวลาที่กำหนด
 
1. ปรับปรุงสื่อการสอนให้ทันสมัย เช่น การใช้ซอฟต์แวร์การวางผังโรงงานในรูปแบบ Interactive Simulation
2. เพิ่มกิจกรรมเชิงปฏิบัติ เช่น กรณีศึกษา หรือ โครงงานออกแบบผังโรงงานจริง เพื่อเชื่อมโยงความรู้กับการปฏิบัติ
3. เพิ่มการใช้เทคนิค Active Learning เช่น การเรียนรู้แบบ Problem-Based Learning (PBL) หรือการระดมความคิด (Brainstorming)
4. รับฟังข้อเสนอแนะจากนักศึกษา และใช้ผลการประเมินย้อนหลังเป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน
 
1. ใช้ เกณฑ์ประเมินผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา ตาม Learning Outcomes ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา (TQF)
2. มีการ ทวนสอบ (Verification) ร่วมกับอาจารย์ผู้สอนรายวิชาเดียวกัน หรือผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อประเมินความเหมาะสมของเกณฑ์การวัดผล
3. สุ่มตรวจผลงานนักศึกษา เช่น รายงานโครงงาน การสอบกลางภาค และปลายภาค เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้
4. สรุปผลการทวนสอบ และรายงานต่อหัวหน้าสาขาวิชาเพื่อใช้ในการปรับปรุง
 
1. จัดประชุมอาจารย์ผู้สอนหลังสิ้นสุดภาคเรียน เพื่อสรุปปัญหาและข้อเสนอแนะจากการสอนและจากนักศึกษา
2. วิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาเทียบกับ Learning Outcomes ของรายวิชา
3. วางแผนปรับปรุงในภาคการศึกษาถัดไป เช่น การเปลี่ยนลำดับการสอน การเพิ่มแบบฝึกหัด การปรับปรุงเกณฑ์การประเมิน หรือการเพิ่มสื่อเสริม
4. บันทึกผลการพัฒนาใน รายงานผลการปรับปรุงรายวิชา (Course Portfolio) อย่างเป็นระบบ และส่งต่อให้คณะหรือมหาวิทยาลัยรับทราบ