การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์

Computer Programming

1. ศึกษาหลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจหลักการทั่วไปเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม และองค์ประกอบของประโยคคำสั่งในภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์
2. เข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของภาษาโปรแกรม เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจการใช้ตัวแปร ค่าคงที่ เครื่องหมายกระทำการ นิพจน์ ฟังก์ชัน และชนิดของข้อมูลต่าง ๆ
3. อธิบายโครงสร้างของประโยคคำสั่ง เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายองค์ประกอบของประโยคคำสั่งในภาษาคอมพิวเตอร์ได้อย่างถูกต้อง
4. เข้าใจโครงสร้างข้อมูลพื้นฐาน เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจการใช้งานโครงสร้างข้อมูลแบบอาร์เรย์และแบบลิสต์
5.เรียนรู้คำสั่งควบคุมการทำงานของโปรแกรม เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจคำสั่งแบบลำดับ การเลือกทำ และการวนซ้ำ รวมถึงการสร้างโปรแกรมย่อย การส่งผ่านค่าภายในโปรแกรม และการจัดการแฟ้มข้อมูล โดยใช้ภาษาโปรแกรมใดภาษาหนึ่ง
6.ฝึกปฏิบัติการเขียนโปรแกรม เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกใช้เครื่องมือในการพัฒนาโปรแกรม และสามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้
7.พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อฝึกให้นักศึกษาคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ตรวจสอบ ทดสอบ และแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1.พัฒนาทักษะการคิดเชิงระบบและการแก้ปัญหา เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีทักษะด้านศาสตร์การคำนวณ สามารถคิดเป็นระบบ และแก้ไขปัญหาด้วยเหตุผล ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้และต่อยอดกับงานด้านอื่น ๆ
2.เสริมสร้างความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
รหัสรายวิชาเดิม :22123102
วิชาบังคับก่อน : ไม่มี
ศึกษาหลักการทั่วไปเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม องค์ประกอบของประโยคคำสั่ง เช่น ตัวแปร ค่าคงที่ เครื่องหมายกระทำการ นิพจน์ ฟังก์ชัน เป็นต้น ชนิดของข้อมูลแบบต่าง ๆ โครงสร้างข้อมูลแบบอาร์เรย์ แบบลิสต์ ศึกษาเกี่ยวกับคำสั่งแบบตามลำดับ เลือกทำ และการวนซ้ำ การสร้างโปรแกรมย่อย การส่งผ่านค่าภายในโปรแกรม การบันทึกและอ่านข้อมูลจากแฟ้มข้อมูล โดยการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง ฝึกปฏิบัติ การใช้เครื่องมือในการพัฒนาโปรแกรม การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การตรวจสอบ ทดสอบ และแก้ไขโปรแกรม
Principle of computer programing. Elements of statement such as variable, constants, operator, expression, function, data type, array, list, sequence statement, selection and repetition. Sub-program, passing parameters, read and write files by using one of programing languages. Practice tools for developing programing, correcting, testing and debug.
3.1 วันพุธ เวลา 15.00 - 16.30 น. ห้อง...GE812......โทร... 081-2680639
3.2 e-mail; pakorns@rmutl.ac.th เวลา 20.00 - 21.00 น. ทุกวัน
1.1  นักศึกษาควรมีจริยธรรมทางวิชาการและวิชาชีพ โดยตระหนักถึงคุณค่าแห่งความซื่อสัตย์สุจริต ความเสียสละ และการยึดมั่นในหลักคุณธรรมจริยธรรมในการเรียนรู้และการประกอบวิชาชีพ
1.2 นักศึกษาควรมีวินัยในการดำเนินชีวิต มีความตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง วิชาชีพ และสังคม โดยสามารถปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมในบริบทของการเรียนและการทำงาน
- ใช้การบรรยายเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของนักศึกษาในฐานะผู้เรียนและผู้ประกอบวิชาชีพในอนาคต
- ยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทางวิชาการ เช่น การคัดลอกงาน การลอกเลียนแบบ เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบเชิงลบทั้งต่อตนเองและสังคม
- ส่งเสริมการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับจริยธรรมในบริบทของการเขียนโปรแกรมและการทำงานร่วมกับผู้อื่น
- ประเมินจากการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ และความรับผิดชอบในการส่งงานตามเวลาที่กำหนด
- ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของนักศึกษาในการปฏิบัติงาน เช่น ความซื่อสัตย์ในการทำแบบฝึกหัด การไม่ลอกเลียนงานผู้อื่น และการมีส่วนร่วมในการทำงานกลุ่ม
- อาจใช้แบบประเมินตนเองหรือแบบประเมินจากเพื่อนร่วมกลุ่ม เพื่อสะท้อนพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมในบริบทการเรียนรู้
เมื่อสิ้นสุดการเรียนรายวิชานี้ นักศึกษาจะมีความรู้และความเข้าใจในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. หลักการพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
เข้าใจแนวคิดและกระบวนการในการพัฒนาโปรแกรม
ตระหนักถึงบทบาทของโปรแกรมเมอร์ในกระบวนการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์
2. องค์ประกอบของภาษาคอมพิวเตอร์
เข้าใจการใช้ตัวแปร ค่าคงที่ เครื่องหมายกระทำการ นิพจน์ และฟังก์ชัน
เข้าใจชนิดของข้อมูล (Data Types) และการแปลงชนิดข้อมูล
3. โครงสร้างของโปรแกรม
เข้าใจคำสั่งควบคุมการทำงานของโปรแกรม ได้แก่ คำสั่งแบบลำดับ การเลือกทำ (Selection) และการวนซ้ำ (Looping)
เข้าใจการสร้างและเรียกใช้โปรแกรมย่อย (Sub-programs) และการส่งผ่านพารามิเตอร์
4. โครงสร้างข้อมูลเบื้องต้น
เข้าใจการใช้งานอาร์เรย์ (Array) และลิสต์ (List) เพื่อจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล
5. การจัดการแฟ้มข้อมูล (File Handling)
มีความรู้ในการอ่านและเขียนข้อมูลจาก/ลงในแฟ้มข้อมูล
เข้าใจการจัดการข้อมูลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม
6. เครื่องมือและสภาพแวดล้อมในการพัฒนาโปรแกรม
รู้จักและสามารถใช้งานเครื่องมือพื้นฐานในการพัฒนาโปรแกรม เช่น Text Editor, IDE, Debugger
เข้าใจขั้นตอนการตรวจสอบ ทดสอบ และแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรม
7. แนวคิดการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking)
พัฒนาทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ การวิเคราะห์ปัญหา และการออกแบบแนวทางแก้ไขด้วยตรรกะและเหตุผล
 
 
- ใช้การบรรยายเพื่ออธิบายหลักการพื้นฐานของการเขียนโปรแกรม องค์ประกอบของภาษาโปรแกรม และโครงสร้างข้อมูลเบื้องต้น
- จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Hands-on Practice) โดยให้นักศึกษาเขียนโปรแกรมจริงผ่านเครื่องมือพัฒนาโปรแกรม (IDE)
- ใช้แบบฝึกหัดและโครงงานขนาดเล็กเพื่อฝึกการคิดวิเคราะห์ การออกแบบโปรแกรม และการแก้ไขข้อผิดพลาด
- ส่งเสริมการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Collaborative Learning) ผ่านการทำงานกลุ่มและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
- ใช้กรณีศึกษาและสถานการณ์จำลองเพื่อฝึกการประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ปัญหาเชิงระบบ
1. การประเมินผลด้านความรู้
- สอบกลางภาคและปลายภาค เพื่อวัดความเข้าใจในหลักการเขียนโปรแกรม โครงสร้างข้อมูล และการใช้คำสั่งต่าง ๆ
- แบบทดสอบย่อยและแบบฝึกหัด เพื่อประเมินความเข้าใจในเนื้อหารายสัปดาห์
2. การประเมินผลด้านทักษะปฏิบัติ
- ประเมินจากการเขียนโปรแกรมจริงในห้องเรียนหรือผ่านระบบออนไลน์
- ประเมินจากโครงงานหรือโปรเจกต์ขนาดเล็กที่นักศึกษาพัฒนาเอง
3. การประเมินผลด้านคุณธรรม จริยธรรม
- ประเมินจากความรับผิดชอบในการส่งงานตรงเวลา
- ประเมินจากความซื่อสัตย์ในการทำแบบฝึกหัดและการสอบ
- สังเกตพฤติกรรมการทำงานร่วมกับผู้อื่น
4. การประเมินผลด้านทักษะการคิดวิเคราะห์
- ประเมินจากการออกแบบโปรแกรม การเลือกใช้โครงสร้างข้อมูล และการแก้ไขข้อผิดพลาด
- ประเมินจากการอธิบายแนวคิดและเหตุผลในการเลือกใช้คำสั่งหรือฟังก์ชันต่าง ๆ
1. นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะองค์ประกอบของปัญหาอย่างเป็นระบบ
2. นักศึกษาสามารถออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ตรรกะและหลักการเขียนโปรแกรม
3. นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่หลากหลาย
4. นักศึกษาสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และแก้ไขข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
1. ใช้การบรรยายร่วมกับการยกตัวอย่างปัญหาและแนวทางการแก้ไข เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในกระบวนการคิดเชิงวิเคราะห์
2. จัดกิจกรรมฝึกปฏิบัติการเขียนโปรแกรมจากโจทย์ที่มีความซับซ้อนในระดับต่าง ๆ เพื่อฝึกการคิดแก้ปัญหา
3. ส่งเสริมการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning) โดยให้นักศึกษาออกแบบและพัฒนาโปรแกรมจากสถานการณ์จำลอง
4. กระตุ้นการคิดวิเคราะห์ผ่านการอภิปรายกลุ่ม การนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหา และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
1. ประเมินจากแบบฝึกหัดและโจทย์ปัญหาที่ให้นักศึกษาออกแบบและเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหา
2. ประเมินจากโครงงานหรือโปรเจกต์ที่นักศึกษาพัฒนา โดยพิจารณาจากความสามารถในการวิเคราะห์ ออกแบบ และแก้ไขปัญหา
3. ใช้การสอบปฏิบัติหรือสอบย่อยที่เน้นการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ความรู้
4. ประเมินจากการนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาและการอธิบายเหตุผลในการเลือกใช้โครงสร้างหรือคำสั่งต่าง ๆ
1. นักศึกษาสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเคารพความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่ม และมีการสื่อสารที่ชัดเจน
2. นักศึกษามีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองในการทำงานกลุ่มและการเรียนรู้ร่วมกัน
3. นักศึกษามีความสามารถในการปรับตัวและร่วมมือกับผู้อื่นในสถานการณ์ที่หลากหลาย
4. นักศึกษามีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของงาน ทั้งในระดับบุคคลและกลุ่ม
1.จัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่ม (Group Work) เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกการทำงานร่วมกันและแบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
2. ส่งเสริมการอภิปรายกลุ่มและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและการฟังอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ใช้โครงงานกลุ่ม (Group Project) ที่ต้องอาศัยความร่วมมือในการวางแผน พัฒนา และนำเสนอผลงานร่วมกัน
4. กระตุ้นให้นักศึกษาประเมินตนเองและเพื่อนร่วมกลุ่มในด้านการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบ
1. ประเมินจากการมีส่วนร่วมในการทำงานกลุ่ม เช่น การแบ่งหน้าที่ การสื่อสาร และการสนับสนุนสมาชิกในทีม
2. ใช้แบบประเมินตนเองและแบบประเมินจากเพื่อนร่วมกลุ่ม เพื่อสะท้อนพฤติกรรมด้านความร่วมมือและความรับผิดชอบ
3. ประเมินจากผลลัพธ์ของโครงงานกลุ่ม โดยพิจารณาทั้งคุณภาพของงานและกระบวนการทำงานร่วมกัน
4. สังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียน เช่น การตรงต่อเวลา การส่งงานตามกำหนด และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมกลุ่ม
1. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข (Numerical Analysis Skills)
นักศึกษาสามารถใช้ตรรกะทางคณิตศาสตร์และการคำนวณเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและแก้ปัญหาทางโปรแกรมมิ่ง
สามารถประยุกต์ใช้สูตรหรืออัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณเชิงตัวเลขในโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง
2. ทักษะการสื่อสาร (Communication Skills)
- นักศึกษาสามารถอธิบายแนวคิด วิธีการเขียนโปรแกรม และผลลัพธ์ของโปรแกรมได้อย่างชัดเจนทั้งในรูปแบบการพูดและการเขียน
- สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนร่วมกลุ่มหรือผู้สอนอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Skills)
- นักศึกษาสามารถใช้เครื่องมือพัฒนาโปรแกรม (IDE, Debugger, Version Control) ได้อย่างเหมาะสม
- สามารถค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งสารสนเทศออนไลน์เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาความรู้เพิ่มเติมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ใช้โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณหรือการประมวลผลข้อมูล เพื่อฝึกการคิดเชิงตัวเลขและการวิเคราะห์ข้อมูล
2. จัดกิจกรรมให้นักศึกษานำเสนอผลงานหรืออธิบายแนวคิดการเขียนโปรแกรมต่อเพื่อนร่วมชั้น
3. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี เช่น การใช้ระบบควบคุมเวอร์ชัน (Git), การค้นคว้าผ่านเว็บไซต์ทางวิชาการ และการใช้เครื่องมือออนไลน์ในการพัฒนาโปรแกรม
4. ใช้การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning) ที่นักศึกษาต้องใช้ทั้งการวิเคราะห์ การสื่อสาร และเทคโนโลยีร่วมกัน
1. ประเมินจากความถูกต้องและประสิทธิภาพของโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณหรือการวิเคราะห์ข้อมูล
2. ประเมินจากการนำเสนอผลงาน การอธิบายแนวคิด และการตอบคำถามในชั้นเรียนหรือในกิจกรรมกลุ่ม
3. ประเมินจากการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในการพัฒนาโปรแกรม เช่น ความสามารถในการใช้ IDE, การจัดการโค้ดด้วย Git หรือการค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้
4. ใช้แบบประเมินตนเองและแบบประเมินจากเพื่อนร่วมกลุ่มเพื่อสะท้อนทักษะการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยี
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1.คุณธรรมจริยธรรม 2.ความรู้ 3.ทักษะทางปัญญา 4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคลและความรับผิดชอบ 5.ทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลขและการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 1.2 1.3 2.1 2.2 2.3 2.8 3.1 3.2 4.4 4.5 4.6 5.1 5.2
1 BSCCS301 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 คุณธรรมจริยะธรรม 1.1 ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรมจริยธรรมเสียสละและซื่อสัตย์สุจริต 1.2 มีวินัยตรงต่อเวลาและความรับผิดชอบต่อตนเองวิชาชีพและสังคม - ประเมินจากการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ และความรับผิดชอบในการส่งงานตามเวลาที่กำหนด - ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของนักศึกษาในการปฏิบัติงาน - อาจใช้แบบประเมินตนเองหรือแบบประเมินจากเพื่อนร่วมกลุ่ม เพื่อสะท้อนพฤติกรรมด้านคุณธรรมจริยธรรมในบริบทการเรียนรู้ 1-15 5%
2 ความรู้ : 2.1 มีความรู้และความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา 2.2 สามารถติดตามความก้าวหน้า ใฝ่รู้ ทางวิชาการและเทคโนโลยีของสาขาวิชาที่ศึกษา -แบบฝึกหัดและแบบทดสอบย่อย -วิธีการถาม-ตอบในชั้นเรียน -การสอบกลางภาคและปลายภาคเรียน - การทดสอบย่อย - การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน - งานที่มอบหมาย 1-15 5%
3 ด้านปัญญา 3.3 สามารถรวบรวมศึกษาวิเคราะห์และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ - การทดสอบย่อย - การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน - งานที่มอบหมาย 4,6,10 10%
4 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 4.4 มีความรับผิดชอบในการกระทำของตนเองและรับผิดชอบงานในกลุ่ม -การสังเกตุ -งานที่มอบหมาย -สอบกลางภาค 9 30%
5 ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.1 มีทักษะในการใช้เครื่องมือที่จำเป็นที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อการทำงานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ประเมินจากผลงานที่ได้ปฏิบัติจริงและหรือจากการทดสอบ 14 20%
6 2.1, 2.2 การสอบปลายภาค 17 30%
วรเชษฐ์ อุทธา. (2564). หลักการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. สืบค้นจาก https://e-book.npru.ac.th
สมชาย ประสิทธิจูตระกูล. (2562). เริ่มเรียนเขียนโปรแกรม ฉบับวาจาจาวา. ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สืบค้นจาก https://www.cp.eng.chula.ac.th/future/textbooks
สมชาย ประสิทธิจูตระกูล. (2562). โครงสร้างข้อมูล ฉบับวาจาจาวา. ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สืบค้นจาก https://www.cp.eng.chula.ac.th/future/textbooks
Excellence Center for Teaching and Learning (SIAM). (2565). สื่อการเรียนรู้รายวิชา 155-102 การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์. สถาบันเทคโนโลยีสยาม. สืบค้นจาก https://ectl.siam.edu
2. เอกสารและข้อมูลสำคัญที่นักศึกษาจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม
…………..ไม่มี
3.1 เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
https://www.w3schools.in/c-programming
3.2 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 
1. การพัฒนาบอร์ดเกมที่ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณและแรงจูงใจในการเรียนวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี

ผู้แต่ง: ธวัช ธรรมบุตร, ประกายวรรณ เชื้อกุล, รัตติกาล แก้วโทน, ปิยพร วงศ์อนุ ปีที่เผยแพร่: 2565 วารสาร: Journal of Information and Learning, ปีที่ 33 ฉบับที่ 3 เนื้อหา: วิจัยการใช้บอร์ดเกมเพื่อส่งเสริมการคิดเชิงคำนวณและแรงจูงใจในการเรียนเขียนโปรแกรม พบว่ามีผลเชิงบวกต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแรงจูงใจของนักศึกษา 1

2. Developing Eighth-Grade Students’ Knowledge of Ability in Basic Programming Using Problem-Based Learning

ผู้แต่ง: อนุชิต พรานกวาง ปีที่เผยแพร่: 2563 งานประชุม: การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต เนื้อหา: ศึกษาผลของการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) ต่อความรู้และความสามารถในการเขียนโปรแกรมของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่ามีการพัฒนาทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ 2

3. ผลของการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณโดยใช้ภาษา Python ที่มีต่อความสามารถในการเขียนโปรแกรม

ผู้แต่ง: ไม่ระบุชื่อในผลการค้นหา แหล่งเผยแพร่: ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์มหาวิทยาลัยศิลปากร เนื้อหา: วิจัยผลของการใช้ภาษา Python ในการเรียนการสอนวิชาวิทยาการคำนวณ พบว่ามีผลต่อความสามารถในการเขียนโปรแกรมและผลงานของนักเรียน 3

 
 
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้มีการจัดทำแบบสอบถามออนไลน์หลังสิ้นสุดการเรียนการสอนทุกภาคการศึกษา เพื่อให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหารายวิชา ความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ และความสามารถในการนำไปใช้จริง ข้อมูลจากการประเมินถูกนำมาวิเคราะห์เชิงสถิติและสรุปเป็นรายงานประจำปี เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการปรับปรุงรายวิชาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน
การประเมินการสอนมุ่งเน้นการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของผู้สอนในการถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยใช้วิธีการหลากหลาย เช่น การสังเกตพฤติกรรมการสอน การประเมินจากเพื่อนร่วมงาน (peer review) การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา และการรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษา การประเมินนี้ช่วยให้ผู้สอนสามารถปรับปรุงเทคนิคการสอนให้เหมาะสมกับบริบทและผู้เรียนมากขึ้น
จากผลการประเมินและข้อเสนอแนะ ได้มีการปรับปรุงเนื้อหารายวิชาให้ทันสมัย เช่น การเพิ่มหัวข้อเกี่ยวกับภาษา Python และการใช้เครื่องมือพัฒนาโปรแกรมแบบโอเพนซอร์ส (เช่น VS Code, GitHub) รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้จากการบรรยายเป็นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ (Hands-on Learning) และการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
มีการจัดตั้งคณะกรรมการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา โดยเปรียบเทียบผลการเรียนกับผลลัพธ์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร (CLOs) ทุกปีการศึกษา การทวนสอบนี้ครอบคลุมการตรวจข้อสอบ การประเมินโครงงาน และการวิเคราะห์คะแนนรวม เพื่อให้มั่นใจว่านักศึกษาได้บรรลุผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานที่กำหนด
มีการจัดประชุมทบทวนรายวิชาทุกสิ้นปีการศึกษา โดยผู้สอนร่วมกับคณะกรรมการวิชาการของคณะ เพื่อพิจารณาผลการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะจากนักศึกษา และผลการทวนสอบ จากนั้นจึงวางแผนปรับปรุงรายวิชาในรอบถัดไป เช่น การปรับโครงสร้างรายวิชา การเพิ่มกิจกรรมเสริมทักษะ และการปรับวิธีการประเมินผลให้หลากหลายและเหมาะสมยิ่งขึ้น