เคมีอาหารเบื้องต้น

Basic Food Chemistry

เพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจในเนื้อหาวิชา สามารถประยุกต์ใช้ได้ เพื่อให้มีทักษะด้านการใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ เครื่องมือวิเคราะห์และสามารถนำความรู้และทักษะที่ได้จากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำวิจัยและปัญหาพิเศษได้ 
ปรับปรุงเนื้อหา เพื่อให้เนื้อหาทันสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับโครงสร้างและหลักการวิเคราะห์ทางเคมีของน้ำ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน เกลือแร่ รงควัตถุ กลิ่นรสอาหาร ระบบอิมัลชันและคอลลอยด์ตลอดจนกลไกของปฏิกิริยาเคมีที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและชีวเคมีขององค์ประกอบของอาหารและการแปรรูป
จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 
1) มีจิตสำนึกและตระหนักในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชี 2) แสดงออกอย่างสม่ำเสมอถึงความซื่อสัตย์สุจริต 3) มีวินัยและความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม 4) เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ขององค์กรและสังคม 5) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 
- การสอนแบบกรณีศึกษา (Case Studies) - การสอบแบบ Problem Based Learning - การสอนแบบบรรยาย
- โครงการรายกลุ่มและรายบุคคล - การสังเกต ระหว่างจัดการเรียนการสอน - การนำเสนองาน
1) มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาที่ศึกษา 2) มีความรู้ในสาขาวิชาอื่น ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์  การบริหารจัดการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถบูรณาการความรู้ในที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 3) สามารถติตามความก้าวหน้าทางวิชาการ รวมถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาและต่อยอดองค์ความรู้ และมีความรู้ในแนวกว้างของสาขาวิชาที่ศึกษาเพื่อให้เล็ง เห็นการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ๆ  4) รู้กฎ ระเบียบ ข้อกำหนดทางเทคนิครวมถึงการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
- กระบวนการสืบค้น (inquiry process)  - การสอนแบบการตั้งคำถาม (Questioning)  - การสอนแบบจัดการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยี (Technology Related Instruction)  - การสอนแบบกรณีศึกษา (Case studies) - การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory learning) - การสอนแบบบรรยาย - การสอนแบบบรรยายเชิงอภิปราย - การสอนแบบบรรยายเชิงปฏิบัติ - การสอนในห้องปฏิบัติการ
- โครงการรายกลุ่มและรายบุคคล - การสังเกต ระหว่างจัดการเรียนการสอน - การทดสอบอัตนัย  - การสอบปฏิบัติ
1 มีความสามารถในการค้นหา ข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจและประเมินข้อมูล สารสนเทศ แนวคิดและหลักฐานใหม่ ๆ จาก แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และใช้ข้อสรุปที่ได้ ในการแก้ไขปัญหา หรืองานอื่น ๆ โดยไม่ต้อง อาศัยค่าแนะนำา 2 สามารถคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ในการวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อน และเสนอ แนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ 3 สามารถใช้ทักษะและความเข้าใจ ใน บริบททางวิชาชีพและวิชาการ เช่น การตรวจวิเคราะห์ การควบคุมและประกันคุณภาพ การวิจัยและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 4 มีทักษะในภาคปฏิบัติที่ได้รับการฝึกฝน ตามเนื้อหาสาระสำคัญของสาขาวิชา
- กระบวนการสืบค้น (inquiry process)  - การสอนแบบการตั้งคำถาม (Questioning)  - การสอนแบบจัดการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยี (Technology Related Instruction)  - การสอนแบบกรณีศึกษา (Case studies) - การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory learning) - การสอนแบบบรรยาย - การสอนแบบบรรยายเชิงอภิปราย - การสอนแบบบรรยายเชิงปฏิบัติ - การสอนในห้องปฏิบัติการ
- โครงการรายกลุ่มและรายบุคคล - การสังเกต ระหว่างจัดการเรียนการสอน - การทดสอบอัตนัย  - การสอบปฏิบัติ
1 มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับ มอบหมายทั้งของตนเองและรับผิดชอบงาน ในกลุ่ม 2 สามารถปรับตัวทำงานร่วมกับผู้อื่น ทั้งในฐานะผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มได้อย่า มีประสิทธิภาพ 3 วางตัวและแสดงความคิดเห็นได้ เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่และความ รับผิดชอบ 4 สามารถวางแผนและรับผิดชอบกา พัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเองและทาง วิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
- การเรียนแบบแก้ปัญหา (Problem-solving) - การสอนแบบจัดการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยี (Technology Related Instruction)  - การสอนแบบการอภิปรายกลุ่มใหญ่ (Whole-Class Discussion)  - การสอนโดยใช้เทคนิคการระดมพลังสมอง (ฺBrainstorming) 
- โครงการกลุ่ม - การนำเสนองาน
1 สามารถระบุและนำเทคนิคทางสถิติ หรือคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการ วิเคราะห์แปลความหมายและเสนอแนวทาง ในการแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ 2 สามารถสรุปประเด็นและสื่อสาร ทั้ง การพูดและการเขียน รู้จักการเลือกใช้ รูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับ เรียงและผู้ฟังที่ต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3 สามารถระบุ เข้าถึง และคัดเลือก แหล่งข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญ ของวิชา นั้น ๆ จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ 4 มีวิจารณญานในการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสม และ ใช้อย่างสม่ำเสมอเพื่อการรวบรวมข้อมูล แปลความหมายและสื่อสารข้อมูลข่าวสาร และแนวความคิด 5 สามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บ ข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ุ6 สามารถติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมและสถานการณ์โลก โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 7 สามารถใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน และภาษาอังกฤษ ในระดับใช้งานได้อย่างเหมาะสม
- กระบวนการสืบค้น (Inquiry Process)  - การจัดการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยี (Technology - Related Instruction) - การสอนแบบสาธิต
- โครงการรายกลุ่มและรายบุคคล - การสังเกต ระหว่างจัดการเรียนการสอน - การนำเสนองาน
1 มีทักษะในการบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ  อุปกรณ์และวิธีการรวมถึงความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ 
ฝึกปฏิบัติการในห้องทดลอง
- การทำข้อสอบปรนัย/อัตนัย - สอบปฏิบัติ
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. คุณธรรม จริยธรรม 2.ความรู้ 3.ทักษะทางปัญญา 4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคลและความรับผิดชอบ 5.ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6.ด้านทักษะพิสัย
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 มีจิตสำนึกและตระหนักในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ 1.2 แสดงออกอย่างสม่ำเสมอถึงความซื่อสัตย์สุจริต 1.3 มีวินัยและความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม 1.4 เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม 1.5 เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 2.1 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาที่ศึกษา 2.2 มีความรู้ในสาขาวิชาอื่น ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การบริหารจัดการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถบูรณาการความรู้ในที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2.3 สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ รวมถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาและต่อยอดองค์ความรู้ และมีความรู้ในแนวกว้างของสาขาวิชาที่ศึกษาเพื่อให้เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ ๆ 2.4 รู้กฎระเบียบ ข้อกำหนดทางเทคนิค รวมถึงการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป 3.1 มีความสามารถในการค้นหาข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจและประเมินข้อมูลสารสนเทศ แนวคิดและหลักฐานใหม่ ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และใช้ข้อสรุปที่ได้ในการแก้ไขปัญหา หรืองานอื่น ๆ โดยไม่ต้องอาศัยคำแนะนำ 3.2 สามารถคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ในการวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อน และเสนอแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ 3.3 สามารถใช้ทักษะและความเข้าใจ ในบริบททางวิชาชีพและวิชาการ เช่น การตรวจวิเคราะห์อาหาร การควบคุมและประกันคุณภาพ การวิจัย และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 3.4 มีทักษะในภาคปฏิบัติที่ได้รับการฝึกฝน ตามเนื้อหาสาระสำคัญของสาขาวิชา 4.1 มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายทั้งของตนเองเเละรับผิดชอบงานในกลุ่ม 4.2 สามารถปรับตัวทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.3 วางตัวและแสดงความคิดเห็นได้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ 4.4 สามารถวางแผนและรับผิดชอบการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเองและทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง 5.1 สามารถระบุและนำเทคนิคทางสถิติหรือคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการวิเคราะห์แปลความหมายและเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ 5.2 สามารถสรุปประเด็นและสื่อสาร ทั้งการพูดและการเขียน รู้จักการเลือกใช้รูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับเรื่องและผู้ฟังที่ต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5.3 สามารถระบุ เข้าถึง และคัดเลือกแหล่งข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของวิชา นั้น ๆ จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศทั้งในระดับชาติและนานาชาติ 5.4 มีวิจารณญานในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสม และใช้อย่างสม่ำเสมอเพื่อการรวบรวมข้อมูล แปลความหมายและสื่อสารข้อมูลข่าวสารและแนวความคิด 5.5 สามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม 5.6 สามารถติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมและสถานการณ์โลก โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 5.7 สามารถใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน และภาษาอังกฤษในระดับใช้งานได้อย่างเหมาะสม 6.1 มีทักษะในการบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการรวมถึงความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
1 BSCFT016 เคมีอาหารเบื้องต้น
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
ไม่มีข้อมูล
1) นิธิยา รัตนาปนนท์, 2545. เคมีอาหาร, กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์
2) รัชนี ตัณฑะพานิชกุล, 2535. เคมีอาหาร ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัย รามคําแหง, กรุงเทพฯ
1) นิธิยา รัตนาปนนท์, 2544. วิทยาศาสตร์การอาหารของไขมันและน้ำมัน, ภาควิชาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีการอาหาร, คณะอุตสาหกรรมเกษตร, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, เชียงใหม่
2) ณรงค์ นิยมวิทย์, 2538. องค์ประกอบและการเปลี่ยนแปลงทางแต่มีกายภาพของอาหาร. กรุงเทพมหานคร: ฟอร์แมททริ้นติ้ง
3) BelitzHD., GroschW., SchieberleP2009Food Chemistry. 4 thSpringer-Verlag Berlin Heidelberg, Germany.
4) FennemmaOR. 1996. Food Chemistry3rd ed. New York: Marcel Dekker
อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา และอาจารย์ผู้สอนจัดได้ชี้แจงแบบประเมินทางออนไลน์ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาทุกคนประเมินประสิทธิผลของรายวิชา หลังจากที่ได้ศึกษารายวิชา ครบ 15 สัปดาห์ โดยให้นักศึกษาประเมินหลังจากการสอบปลายภาค ว่านักศึกษาได้รับความรู้ ความเข้าใจ การนำไปใช้ประโยชน์ ที่นักศึกษาได้รับ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะจากนักศึกษา เพื่อการปรับปรุงรายวิชา  แก้ไข
อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชา และอาจารย์ผู้สอน ร่วมกันประเมินการสอน โดยประเมินจากนักศึกษา สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน อาจารย์ผู้สอน และสภาพแวดล้อมระหว่างการเรียนการสอน โดยประเมินจากกระบวนการสอน ผลที่เกิดกับนักศึกษา หลังจากสอบปลายภาค 
การสอนถูกปรับปรุงโดยนำข้อมูลจากการประเมินประสิทธิผลของรายวิชาและการประเมินการสอน ข้อมูลที่นักศึกษาประเมิน ข้อมูลหรือความรู้ที่ได้จากงานวิจัยข้อมูลจากการฝึกอบรมต่างๆ ข้อมูลจาก มคอ.5 จากปีการศึกษาที่ผ่านมา หรือคำแนะนำจากอาจารย์ผู้ที่มีประสบการณ์การสอนรายวิชา มาปรับปรุงเนื้อหาภาคทฤษฎี บทปฏิบัติการ และวิธีการสอนให้เหมาะสมกับนักศึกษาให้ดียิ่งขึ้น
คณะกรรมการประเมินข้อสอบและความเหมาะสมของการให้คะแนนและระดับขั้นคะแนน
อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาและอาจารย์ผู้สอนรวบรวมผลการประเมินการจากนักศึกษา คะแนนสอบของนักศึกษา สังเกตพฤติกรรมของนักศึกษา และปัญหาที่นักศึกษาเข้าปรึกษากับอาจารย์ โดยอาจารย์ผู้สอนนำข้อมูลดังกล่าวเข้าขอคำปรึกษาภายในที่ประชุมกับอาจารย์ประจำหลักสูตรท่านอื่นๆ เพื่อร่วมกันแนะนำแนวทาง วิเคราะห์ปัญหา และแก้ปัญหา อีกทั้งยังนำข้อมูลดังกล่าวไปทบทวนเนื้อหาที่สอนและกลยุทธ์การสอนที่ใช้  หากมีการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการจะนำเสนอในที่ประชุมภาควิชาฯ เพื่อพิจารณาต่อไป