การออกแบบโรงงานอุตสาหกรรม
Industrial Plant Design
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐาน องค์ประกอบ ประโยชน์การจัดวางผังโรงงาน รวมถึงสามารถวิเคราะห์และเลือกสถานที่ตั้งโรงงานได้
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ในการจัดวางผังโรงงานที่ถูกต้อง สามารถมีความรู้ในการเลือกวิเคราะห์และเลือกสถานที่ตั้งโรงงานได้ สามารถปรับปรุงและแก้ไขผังโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิต สามารถออกแบบสถานที่ทา งานให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีเอื้อต่อการทำงาน สามารถออกแบบส่วนประกอบในเรื่องของคลังสินค้าและระบบการส่งสินค้าที่ดีออกแบบและเลือกใช้อุปกรณ์ขนถ่ายลำเลียงที่มีประโยชน์ในงานอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตในการทำงาน
ศึกษาหลักในการออกแบบและปรับปรุงโรงงานอุตสาหกรรม ศึกษาเทคนิคการออกแบบผลิตภัณฑ์การออกแบบกระบวนการผลิต การวิเคราะห์ความต้องการเครื่องจักรที่สอดคล้องกับกระบวนการผลิตและปริมาณการผลิต ลักษณะของการจัดผังโรงงานในแบบต่าง ๆ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางด้านการไหลของงานตลอดจนการวางแผนการจัดอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสนับสนุนงานด้านการผลิตและกาลังคนการวิเคราะห์ทำเลที่ตั้ง การวิเคราะห์และเลือกใช้อุปกรณ์ ขนถ่ายลำเลียงวัสดุ หลักการออกแบบโรงงานเบื้องต้นเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม การออกแบบคลังพัสดุและระบบโลจิสติกเบื้องต้น การวิเคราะห์และตัดสินใจในการวางผังโรงงานอุตสาหกรรม กฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับโรงงานอุตสาหกรรมตลอดจนการประยุกต์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์และออกแบบผังโรงงาน ตลอดจนการศึกษาดูงานในสถานประกอบการจริง
- อาจารย์ประจำรายวิชา ประกาศเวลาให้คำปรึกษาผ่าน Facebook ,Line
- อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์(เฉพาะรายที่ต้องการ)
- อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์(เฉพาะรายที่ต้องการ)
นักศึกษาต้องมีคุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างราบรื่น และประพฤติตนโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ มีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม
1.1.4 เคารพสิทธิในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษามีการพัฒนาจริยธรรมและจรรยาวิชาชีพผ่านทางการเรียนการสอนของรายวิชาในหลักสูตร ซึงอาจารย์ผู้สอนสามารถสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวข้องกับจรรยาวิชาชีพ และสามารถจัดให้มีการวัดผลแบบมาตรฐานในด้านคุณธรรม จริยธรรมทุกภาคการศึกษาด้วยการสังเกตพฤติกรรมระหว่างการทำกิจกรรมและมีการกำหนดคะแนนในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของคะแนนจิตพิสัยในชั้นเรียน
มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ มีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม
1.1.4 เคารพสิทธิในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
นอกจากนั้นยังมีการส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษามีการพัฒนาจริยธรรมและจรรยาวิชาชีพผ่านทางการเรียนการสอนของรายวิชาในหลักสูตร ซึงอาจารย์ผู้สอนสามารถสอดแทรกเนื้อหาเกี่ยวข้องกับจรรยาวิชาชีพ และสามารถจัดให้มีการวัดผลแบบมาตรฐานในด้านคุณธรรม จริยธรรมทุกภาคการศึกษาด้วยการสังเกตพฤติกรรมระหว่างการทำกิจกรรมและมีการกำหนดคะแนนในเรื่องคุณธรรม จริยธรรมให้เป็นส่วนหนึ่งของคะแนนจิตพิสัยในชั้นเรียน
กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กรเพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักศึกษาที่ระเบียบวินัยโดยเน้นการเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลา ตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้ผู้สอนต้องสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในรายวิชา และส่งเสริมให้นักศึกษามีจิตสาธารณะสนับสนุนให้นักศึกษาเข้าร่วมในการบริการวิชาการและวิชาชีพแก่สังคม ปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยกย่องและเชิดชูนักศึกษาที่ทำความดีและเสียสละ
ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของนักศึกษาและการปฏิบัติตนในด้านต่างๆได้แก่
1.3.1 ประเมินจากการตรงเวลาของนักศึกษาในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนด ระยะเวลาที่มอบหมายและการร่วมกิจกรรม
1.3.2 ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริม หลักสูตร
1.3.3 ประเมินการกระทำทุจริตในการสอบ
1.3.4 ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
1.3.1 ประเมินจากการตรงเวลาของนักศึกษาในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนด ระยะเวลาที่มอบหมายและการร่วมกิจกรรม
1.3.2 ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริม หลักสูตร
1.3.3 ประเมินการกระทำทุจริตในการสอบ
1.3.4 ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
นักศึกษาต้องมีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาสารถของรายวิชาที่ศึกษาประกอบไปกันขึ้นเป็นองค์ความรู้ที่จะพัฒนาความสามารถและทักษะอันเป็นสิ่งที่นักศึกษาต้องรู้และเข้าใจ ดังนั้นมาตรฐานความรู้ยังครอบคลุมดังนี้
2.1.1 มีความรู้ความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีพื้นฐานด้านการศึกษางานและสามารถนำไป วางแผนแก้ปัญหาได้
2.1.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการศึกษางานได้
2.1.3 สามารถบูรณาการความรู้ที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
2.1.1 มีความรู้ความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีพื้นฐานด้านการศึกษางานและสามารถนำไป วางแผนแก้ปัญหาได้
2.1.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการศึกษางานได้
2.1.3 สามารถบูรณาการความรู้ที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่หลากหลายโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในการบูรณาการการเรียนการสอนกับการทำงาน (Work Integrated Leaning) โดยเน้นหลักการทางทฤษฎี และประยุกต์ใช้ความรู้ในทางปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริงและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี จัดให้มีการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงโดยการศึกษาดูงาน หรือเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาเป็นวิทยากรพิเศษเฉพาะเรื่อง ทั้งนี้ให้เป็นไปตามลักษณะของรายวิชา และเนื้อหาสาระของรายวิชานั้นๆ
การทดสอบผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานนี้สามารถทำได้โดยการใช้ข้อสอบวัดผลในรายวิชาที่เรียน การทดสอบภาคทฤษฏีตลอดระยะเวลาของหลักสูตร ดังนี้
2.3.1 ทดสอบย่อย
2.3.2 สอบกลางภาคเรียนและสอบปลายภาคเรียน
2.3.3 ประเมินผลจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำ
2.3.4 ประเมินผลจากโครงงานที่นำเสนอ
2.3.5 ประเมินผลจากการนำเสนอรายงานหน้าชั้นเรียน
2.3.1 ทดสอบย่อย
2.3.2 สอบกลางภาคเรียนและสอบปลายภาคเรียน
2.3.3 ประเมินผลจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำ
2.3.4 ประเมินผลจากโครงงานที่นำเสนอ
2.3.5 ประเมินผลจากการนำเสนอรายงานหน้าชั้นเรียน
นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองและประกอบวิชาชีพโดยพึ่งพาตนเองได้เมื่อจบการศึกษา ดังนั้นนักศึกษาต้องได้รับการพัฒนาทักษะปัญญาความรู้กับคุณธรรมและจริยธรรมและความรู้ด้านวิชาชีพ โดยกระบวนการเรียนการสอนต้องเน้นให้นักศึกษารู้จักคิดหาเหตุผล เข้าใจที่มาและสาเหตุของปัญหา แนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเองโดยมีการสอนทั้งภาคทฤษฏี นักศึกษาที่ผ่านกระบวนการเรียนการสอนด้วยวิธีดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติดังนี้
3.1.1 มีทักษะการปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ด้านวิชาการ และวิชาชีพ
3.1.2 มีทักษะในการนำความรู้มาคิดใช้อย่างเป็นระบบ
3.1.1 มีทักษะการปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ด้านวิชาการ และวิชาชีพ
3.1.2 มีทักษะในการนำความรู้มาคิดใช้อย่างเป็นระบบ
ใช้การเรียนการสอนที่หลากหลายโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และการบูรณาการการเรียนการสอนกับการทำงาน (Work Integrated Leaning) ดังนี้
3.2.1 ให้นักศึกษาทำงานที่มอบหมายเกี่ยวกับงานที่ส่งเสริมความคิด วิเคราะห์และ สังเคราะห์
3.2.2 การศึกษาค้นคว้า และรายงานทางเอกสารและรายงานหน้าชั้นเรียน
3.2.1 ให้นักศึกษาทำงานที่มอบหมายเกี่ยวกับงานที่ส่งเสริมความคิด วิเคราะห์และ สังเคราะห์
3.2.2 การศึกษาค้นคว้า และรายงานทางเอกสารและรายงานหน้าชั้นเรียน
การวัดและประเมินใช้แนวข้อสอบที่ให้นักศึกษาได้อธิบายแนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาโดยประยุกต์ความรู้ที่เรียนมา หรือให้นักศึกษาเลือกใช้วิชาชีพที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่กำหนดให้ตามสภาพจริงจากผลงาน โครงงาน ดังนี้
3.3.1 ประเมินผลจากงานที่มอบหมาย
3.3.2 การนำเสนอหน้าชั้นเรียน
3.3.3 ประเมินผลจากรายงานผลการดำเนินงานและแก้ปัญหา
3.3.1 ประเมินผลจากงานที่มอบหมาย
3.3.2 การนำเสนอหน้าชั้นเรียน
3.3.3 ประเมินผลจากรายงานผลการดำเนินงานและแก้ปัญหา
นักศึกษาต้องออกไปประกอบอาชีพซึ่งส่วนใหญ่ต้องทำงานที่มาจากหลายที่มีความแตกต่างทางด้านความคิด วัฒนธรรม สถาบันการศึกษา และเชื้อชาติซึ่งอาจเป็นผู้บังคับบัญชา ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับกลุ่มคนต่างๆดังนั้นผู้สอนต้องแนะนำการวางตัว มารยาการเข้าสังคม และทักษะที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ดังนี้
4.1.1 สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและสมาชิกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.1.2 มีความรับผิดชอบในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
4.1.3 มีความเป็นกัลยาณมิตรกับผู้เรียน เพื่อนร่วมงาน ผู้ปกครอง ผู้บริหารและชุมชน
4.1.1 สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและสมาชิกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.1.2 มีความรับผิดชอบในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
4.1.3 มีความเป็นกัลยาณมิตรกับผู้เรียน เพื่อนร่วมงาน ผู้ปกครอง ผู้บริหารและชุมชน
ดำเนินการสอนโดยการจัดกิจกรรมกลุ่ม การทำงานที่ต้องประสานงานกับผู้อื่นหรือค้นคว้าข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในงาน อาชีพ โดยมีความคาดหวังในผลการเรียนรู้ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความสามารถในการรับผิดชอบ ดังนี้
4.2.1 สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
4.2.2 มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
4.2.3 ส่งเสริมให้นักศึกษากล้าแสดงออกและเสนอความคิดเห็นโดยการจัดอภิปรายและ เสวนางานที่ได้รับมอบหมายให้ค้นคว้า
4.2.1 สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
4.2.2 มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
4.2.3 ส่งเสริมให้นักศึกษากล้าแสดงออกและเสนอความคิดเห็นโดยการจัดอภิปรายและ เสวนางานที่ได้รับมอบหมายให้ค้นคว้า
การวัดและประเมินผลทำได้โดยการสังเกตจากพฤติกรรมของนักศึกษาในการทำกิจกรรมกลุ่ม ทั้งในและนอกชั้นเรียน เช่น
4.3.1 ประเมินจากรายงานหน้าชั้นเรียนโดยอาจารย์และนักศึกษา
4.3.2 ประเมินจากพฤติกรรมภาวการณ์เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
4.3.3 ประเมินผลจากแบบประเมินตนเองและกิจกรรมกลุ่ม
4.3.4 ประเมินผลอภิปรายและเสวนา
4.3.1 ประเมินจากรายงานหน้าชั้นเรียนโดยอาจารย์และนักศึกษา
4.3.2 ประเมินจากพฤติกรรมภาวการณ์เป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี
4.3.3 ประเมินผลจากแบบประเมินตนเองและกิจกรรมกลุ่ม
4.3.4 ประเมินผลอภิปรายและเสวนา
ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพนักศึกษาต้องมีความรู้และมีทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน การติดต่อสื่อสารและการพัฒนาตนเองดังนั้นนักศึกษาจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีไปพร้อมกับคุณธรรม จริยธรรมและความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชาชีพ ด้วยเหตุนี้ผู้สอนต้องใช้เทคโนโลยีในการสอนเพื่อฝึกให้นักศึกษามีคุณสมบัติดังนี้
5.1.1 สามารถใช้เทคนิคทางคณิตศาสตร์หรือสถิติที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการวิเคราะห์และแปลความหมายรวมทั้งเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
5.1.2 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเหมาะสม
5.1.3 มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นฐานข้อมูลสารสนเทศ
5.1.1 สามารถใช้เทคนิคทางคณิตศาสตร์หรือสถิติที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการวิเคราะห์และแปลความหมายรวมทั้งเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์
5.1.2 สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเหมาะสม
5.1.3 มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นฐานข้อมูลสารสนเทศ
ดำเนินการสอนด้วยกิจกรรมที่นักศึกษาต้องติดต่อสื่อสาร ค้นคว้าข้อมูลและนำเสนอผลจากการค้นคว้าโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเกิดทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้สารสนเทศ ดังนี้
5.2.1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร
5.2.2 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการหาข้อมูล
5.2.3 การใช้ศักยภาพทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองานที่ ได้รับมอบหมาย
5.2.1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร
5.2.2 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการหาข้อมูล
5.2.3 การใช้ศักยภาพทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนองานที่ ได้รับมอบหมาย
การวัดการประเมินผลตามสภาพจริงจากผลงาน และการปฏิบัติของนักศึกษาดังนี้
5.3.1 สังเกตพฤติกรรมนักศึกษาด้านความมีเหตุผลการบันทึกเป็นระยะ
5.3.2 ประเมินจากผลงานและการนำเสนอผลงาน
5.3.1 สังเกตพฤติกรรมนักศึกษาด้านความมีเหตุผลการบันทึกเป็นระยะ
5.3.2 ประเมินจากผลงานและการนำเสนอผลงาน
การทำงานในสถานประกอบการ หรือการประกอบอาชีพอิสระนั้นไม่ได้ใช้แค่หลักทฤษฏี แต่ส่วนใหญ่จะเน้นทักษะทางการปฏิบัติ การใช้ทักษะในการวางแผน การออกแบบ การทดสอบ และการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งมีความสำคัญมากในการทำงาน อีกทั้งยังจำเป็นในการพัฒนาตนเอง ดังนั้นการเรียนการสอนจึงให้ความสำคัญเน้นไปที่การสร้างทักษะการปฏิบัติงานด้านอุตสาหกรรมศาสตร์ ดังนี้
6.1.1 สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องมีคุณภาพ
6.1.2 มีทักษะในการบริหารจัดการด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
6.1.3 มีทักษะในการทำงานเป็นกลุ่ม มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบและความร่วมมือกันเป็น อย่างดี
6.1.1 สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องมีคุณภาพ
6.1.2 มีทักษะในการบริหารจัดการด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ
6.1.3 มีทักษะในการทำงานเป็นกลุ่ม มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบและความร่วมมือกันเป็น อย่างดี
6.2.1 สร้างทักษะในการปฏิบัติงาน
6.2.2 สาธิตการปฏิบัติงานโดยผู้เชี่ยวชาญ
6.2.3 สนับสนุนการเข้าประกวดทักษะทางด้านปฏิบัติ
6.2.4 สนับสนุนการทำโครงงาน
6.2.2 สาธิตการปฏิบัติงานโดยผู้เชี่ยวชาญ
6.2.3 สนับสนุนการเข้าประกวดทักษะทางด้านปฏิบัติ
6.2.4 สนับสนุนการทำโครงงาน
6.3.1 สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติงานและจดบันทึก
6.3.2 พิจารณาผลการปฏิบัติงานและงานที่ได้รับมอบหมาย
6.3.3 สังเกตพฤติกรรมการแสดงออกด้านเจตคติ
6.3.2 พิจารณาผลการปฏิบัติงานและงานที่ได้รับมอบหมาย
6.3.3 สังเกตพฤติกรรมการแสดงออกด้านเจตคติ
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา | 1.คุณธรรม จริยธรรม | 2.ความรู้ | 3.ทักษะทางปัญญา | 4.ทักษะความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลและ ความรับผิดชอบ | 5.ทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลขและการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รหัสวิชา | ชื่อวิชา | 2 | 4 | 2 | 4 | 2 | 3 | 4 | 2 | 4 | 1 | 2 | 5 |
1 | ENGIE120 | การออกแบบโรงงานอุตสาหกรรม |
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | 1.1,1.6, 1.7, 2.1, 2.4 – 2.6, 3.2 | สอบกลางภาค สอบปลายภาค | 8 17 | 35% 35% |
2 | 1.1,1.6, 1.7,2.1, 2.4 – 2.6, 3.2,4.1 – 4.6,5.3-5.4 | รายงานการวางผังโรงงาน | ตลอดภาค การศึกษา | 20% |
3 | 1.3.1,1.3.2, 2.3.4,2.3.5, 3.3.1,3.3.2 ,3.3.3,4.3.1,4.3.3 | การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน | ตลอดภาค การศึกษา | 10% |
ชัยวัฒน์ กิตติเดชา.การออกแบบโรงงานอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา, 2560
สมศักดิ์ ตรีสัตย์. การออกแบบและวางผังโรงงาน (Plant Layout and Design). พิมพ์ครั้งที่ 12.กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น), 2542.
ประจวบ กล่อมจิตร. การออกแบบโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัย. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2555
James A. Tompkins, John A. White, Yavuz A. Bozer, J.M.A. Tanchoco, Facility Planning 3rd edition, JOHN WILEY &SONS, 2010.
Richard L., Leon F., John A., Facility Layout and Location: An Analytical Approach second edition.
สมศักดิ์ ตรีสัตย์. การออกแบบและวางผังโรงงาน (Plant Layout and Design). พิมพ์ครั้งที่ 12.กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น), 2542.
ประจวบ กล่อมจิตร. การออกแบบโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตและความปลอดภัย. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2555
James A. Tompkins, John A. White, Yavuz A. Bozer, J.M.A. Tanchoco, Facility Planning 3rd edition, JOHN WILEY &SONS, 2010.
Richard L., Leon F., John A., Facility Layout and Location: An Analytical Approach second edition.
เว็บไซต์ ที่เกี่ยวกับงานวิจัยทางด้านกานออกแบบผังโรงงาน
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้
การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา ข้อเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา
การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา ข้อเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้
2.1 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.2 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
2.1 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.2 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้
3.1 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
3.1 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการ ทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
4.1 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
4.1 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุกๆ 1 ปี หรือทุกๆ 3 ปี ตามมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา
5.2 เชิญวิทยากรจากภายนอก เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของวิทยากรหรืออุตสาหกรรมต่างๆ
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุกๆ 1 ปี หรือทุกๆ 3 ปี ตามมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา
5.2 เชิญวิทยากรจากภายนอก เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของวิทยากรหรืออุตสาหกรรมต่างๆ