คณิตศาสตร์สำหรับวิศวกรเครื่องกลประยุกต์

Applied mathematics for Mechanical Engineering

สามารถแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์สามัญอันดับหนึ่งได้ สามารถแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้นอันดับ n และสมการเชิงอนุพันธ์ไม่เชิงเส้นได้ สามารถแก้ปัญหาระบบสมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้นได้ เข้าใจและหาผลการแปลงลาปลาซได้ รู้จักอนุกรมฟูเรียร์ และแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยเบื้องต้นได้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในวิชาชีพ และเป็นพื้นฐานในการศึกษาต่อไป
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้พื้นฐาน เป็นการเตรียมความพร้อมด้านปัญญาในการนำความรู้ ความเข้าใจในเรื่อง สมการเชิงอนุพันธ์สามัญอันดับหนึ่งได้ สมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้นอันดับ n สมการเชิงอนุพันธ์ไม่เชิงเส้น ระบบสมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้น ผลการแปลงลาปลาซ อนุกรมฟูเรียร์ สมการเชิงอนุพันธ์ย่อยเบื้องต้น และนำไปสู่การแก้ปัญหาเบื้องต้นของปัญหาในทางวิศวกรรมศาสตร์ และยังเป็นพื้นฐานการเรียนในวิชาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ศึกษาเกี่ยวกับ สมการเชิงอนุพันธ์สามัญอันดับหนึ่ง สมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้นอันดับ n สมการเชิงอนุพันธุ์เชิงเส้นแบบเอกพันธ์ที่มีสัมประสิทธิ์เป็นค่าคงตัว และสมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้นแบบไม่เอกพันธุ์ที่มีสัมประสิทธิ์เป็นค่าคงตัว สมการเชิงอนุพันธ์ไม่เชิงเส้น ระบบสมการเชิงอนุพันธ์เชิงเส้น ผลการแปลงลาปลาซ อนุกรมฟูเรียร์ และสมการเชิงอนุพันธ์ย่อยเบื้องต้น และการประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางคณิตศาสตร์
2
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 การเข้าชั้นเรียน การตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบในการส่งงาน การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 1-16 10%
2 การทดสอบย่อย 4, 12 25%
3 การสอบกลางภาค 8 25%
4 การนำเสนองาน รายงาน หรือ แบบฝึกหัด 3, 6, 11, 14 10%
5 การสอบปลายภาค 17 30%
เอกสารประกอบการสอนรายวิชา Applied Mathematics for Mechanical Engineering, ENGME192, 2566. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่
1. ศรีบุตร แววเจริญ, ชนศักดิ์ บ่ายเที่ยง.  สมการเชิงอนุพันธ์ 2 และการแปลงลาปลาซ, กรุงเทพฯ, วงตะวัน จำกัด, 2543

2. จูลิน ลิคะสิริ, ธีรนุช บันนาค. สมการเชิงอนุพันธ์สำหรับวิศวกร, เชียงใหม่, ห้างหุ้นส่วนจำกัด จรัสธุรกิจการพิมพ์, 2552
3. D. Zill, M. Cullen., Differential Equations with Boundary Value Problems. 7th edition. CA: Brooks Cole, 2009.
4. John Polking, Albert Boggess, David Arnold., Differential Equations with Boundary Value Problems. New Jersey: Pearson education, Inc., 2002.      
5. Kreyszig, Erwin. Advance Engineering Mathematics. 10th edition. New York: John Wiley andSons. Inc., 2011.
6. R. Kent Nagle, Edward B. Saff, Arthur David Snider., Fundamental of Differential Equations and Boundary Value Problems. 4th edition, Pearson education, Inc., 2004.
การประเมินประสิทธิผลในรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้  
1. การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
2. การสังเกตการณ์จากพฤติกรรมของผู้เรียน
3. แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
4. ขอเสนอแนะผ่านช่องทางออนไลน์ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน โดย
1. การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมการสอน
2. ผลการสอบและการทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน โดย

สัมมนาการจัดการเรียนการสอนการวิจัยในชั้นเรียน  และการวิจัยนอกชั้นเรียน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
 
1. การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น
2. มีการตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงกาสอน และรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
 
1. ปรับปรุงเนื้อหารายวิชาทุกปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
2. เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอนทุกปีการศึกษา เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยในชั้นเรียนของอาจารย์ผู้สอน