ธุรกิจของฝากและของที่ระลึก

Souvenir Business

1.1 ความหมาย คุณลักษณะ
1.2 ประเภท และการพัฒนาการจัดการธุรกิจของฝากและของที่ระลึก
1.3 ความสัมพันธ์ระหว่างของฝากกับของที่ระลึก
1.4 ธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค
1.5 การส่งเสริมการตลาด  
2.1 การประชาสัมพันธ์
2.2 การศึกษาดูงานและ/หรือฝึกปฏิบัตินอกสถานที่
ความหมาย คุณลักษณะ ประเภท และการพัฒนาการจัดการธุรกิจของฝากและของที่ระลึก ความสัมพันธ์ระหว่างของฝากกับของที่ระลึก ธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค การส่งเสริมการตลาด การประชาสัมพันธ์ การศึกษาดูงานและ/หรือฝึกปฏิบัตินอกสถานที่
A study of meaning, features, types and souvenir business development; the relationship between gifts and souvenir; tourism business in micro and macro level; market promotion; public relations; and activities observation and / or practice in the real situation
3.1 ทุก วันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ เวลา 16.00 - 17.00 น.
3.2 E-mail: kae_kanokporn@rmutl.ac.th
1.1.1) มีความซื่อสัตย์ สุจริต และสามารถจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ที่ได้รับกับจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
1.1.2) มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ และแสดงออกซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
1.1.3) มีความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นสมาชิกที่ดี และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อการพัฒนา มีภาวะผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น
1.1.4) มีวินัยในการทำงาน และปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับขององค์กรและสังคม
1.2.1) กำหนดให้มีวิชาจรรยาบรรณโดยเฉพาะและทำรายงาน
1.2.2) สอนคุณธรรม จริยธรรม สอดแทรกในบทเรียนวิชาเฉพาะ
1.2.3) สอนโดยใช้กรณีศึกษาและอภิปรายร่วมกัน
1.2.4) สอนโดยการอ้างอิงประมวลกฎหมาย (Ethic Code) ที่เกี่ยวกับจรรยาบรรณ
1.2.5) การบรรยายพิเศษโดยผู้มีประสบการณ์หรือพระในศาสนาต่าง ๆ
1.2.6) การแสดงออกอันเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้สอน
1.3.1) ผลการสอบในวิชาคุณธรรม จริยธรรมโดยตรง จรรยาบรรณวิชาชีพ และกฎหมาย
1.3.2) สังเกตการแสดงพฤติกรรมระหว่างผู้เรียนร่วมกันและกับผู้สอนทุกคน
1.3.3) ทำงานเป็นกลุ่ม และรายงานผลงาน
1.3.4) กำหนดหัวข้อทางคุณธรรม จริยธรรมให้พูดแสดงออก
1.3.5) ผลการประเมินจากการฝึกงานสหกิจโดยองค์กรที่ผู้เรียนเข้าฝึกงาน
2.1.1) มีความรู้ในสาขาวิชาการท่องเที่ยวและสาขาวิชาการโรงแรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างกว้างขวาง เป็นระบบ เป็นสากล และทันสมัยต่อสถานการณ์โลก
2.1.2) มีความรู้ที่เกิดจากการบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.1.3) มีความรู้ในกระบวนการ และเทคนิคการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาและต่อยอดองค์กรความรู้ในงานอาชีพ
2.2.1) การบรรยายภายในชั้นเรียน และการถาม-ตอบ
2.2.2) มอบหัวข้อเรื่องให้ค้นคว้า และทำรายงานทั้งเดี่ยวและกลุ่ม
2.2.3) ทำรายงานเปรียบเทียบความรู้จากห้องเรียนกับการทำงานจริง ภาคปฏิบัติ
2.2.4) อภิปรายเป็นกลุ่ม โดยให้ผู้สอนตั้งคำถามตามระบบการสอนยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
2.2.5) การศึกษานอกสถานที่และทำรายงาน
2.2.6) ฝึกปฏิบัติร่วมกับสถานประกอบการ
2.2.7) ฝึกปฏิบัตินอกสถานที่โดยร่วมกับมืออาชีพ (professional) ในวิชานั้นๆ
2.3.1) ทดสอบทฤษฎีและปฏิบัติ โดยการสอบย่อย และให้คะแนน
2.3.2) ทดสอบโดยการสอบข้อเขียนกลางภาคและปลายภาค
2.3.3) ประเมินผลจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายและรายงาน
2.3.4) ประเมินจากรายงานที่ให้ค้นคว้า
3.1.1) มีความสามารถประมวลและศึกษาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา และความขัดแย้ง รวมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม ทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก
3.1.2) มีความสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ไปใช้ประโยชน์ในการฝึกประสบการณ์ภาคสนาม และการปฏิบัติงานจริงตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
3.1.3) มีสามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมจากภาคธุรกิจ และจากศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาเพื่อพัฒนาทักษะการทำงานให้เกิดประสิทธิผล
3.2.1) ฝึกปฏิบัติและจัดทำโครงการเกี่ยวกับธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจโรงแรม ตลอดจนการวิจัย
3.2.2) การอภิปรายเป็นกลุ่ม
3.2.3) การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ค้นคว้า หรืองานเกี่ยวกับการพัฒนา
3.2.4) การบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ประกอบการในสายอาชีพ
3.2.5) กำหนดให้มีรายวิชาที่ต้องใช้ทักษะการคำนวณ เช่น การจัดการการบริการการควบคุมต้นทุนอาหารและเครื่องดื่ม
3.3.1) ประเมินผลจากผลงานที่มอบหมายให้ทำ
3.3.2) การสอบข้อเขียน
3.3.3) การเขียนรายงาน
4.1.1) มีความสามารถในการปฏิบัติและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่และบทบาทของตน ในกลุ่มงานได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ร่วมงานและแก้ไขปัญหาได้
4.1.2) มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่องและตรงตามมาตรฐานสากล
4.1.3) มีความสามารถทำงานร่วมกับผู้ร่วมวิชาชีพทุกระดับในสภาพสังคมการทำงานที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
4.2.1) บรรจุเนื้อหาความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในรายวิชาชีพ
4.2.2) มอบหมายงานเป็นกลุ่มย่อย และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยหมุนเวียนกันในกลุ่ม
4.2.3) สอนโดยใช้กรณีศึกษา
4.3.1) ประเมินจากผลงานของกลุ่มและผลงานของผู้เรียนในกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ทำงาน
4.3.2) ประเมินตนเอง และประเมินซึ่งกันและกัน (peer)
4.3.3) ใช้ประวัติสะสมงาน (portfolio) ในการประเมิน
4.3.4) สังเกตพฤติกรรมในการเรียน
4.3.5) ใช้ผลการประเมินจากการฝึกงานและการสหกิจศึกษา
5.1.1) มีความสามารถในการใช้ภาษาไทย และภาษาต่างประเทศในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และการสรุปประเด็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.1.2) มีความสามารถในการสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์และวัฒนธรรม
5.1.3) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดต่อสื่อสาร รู้จักเลือกรูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับเรื่อง และผู้ฟังที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.2.1) ทดสอบระดับความสามารถทางภาษาในการติดต่อกับคนไทยและต่างชาติผ่านการสอบปฏิบัติและสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ
5.2.2) ทดลองให้ใช้อุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการทางการท่องเที่ยวและโรงแรม หรือสายการบิน
5.2.3) นำเสนอผลงานที่ค้นคว้าและอภิปรายด้วยตนเองหรือแบบกลุ่มในห้องเรียน
5.2.4) บูรณาการการใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ เครือข่าย และซอฟต์แวร์ หรือสื่อต่าง ๆ
5.2.5) ทดสอบกระบวนการแก้ปัญหาหรือกรณีศึกษาที่จำเป็นต้องใช้แบบจำลองคณิตศาสตร์หรือสถิติในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง
5.3.1) ประเมินผลโดยการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
5.3.2) ประเมินผลจากการนำเสนอผลงาน
5.3.3) ประเมินผลจากการใช้คอมพิวเตอร์
5.3.4) ประเมินผลจากการสรุปหัวข้อที่มอบหมายให้ค้นคว้า
6.1.1) มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานขั้นพื้นฐานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการ
6.1.2) มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามตำแหน่งงานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการ
6.1.3) มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามสมรรถนะวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการที่มีมาตรฐานและเป็นสากล
6.2.1) ทดสอบทักษะทางวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการโดยการสอบปฏิบัติ
6.2.2) จัดสอบตามสมรรถนะวิชาชีพทั้งภายในและศูนย์ทดสอบภายนอก
6.2.3) ทดสอบทางด้านภาษาต่างประเทศเพื่อการทำงานที่มีมาตรฐานสากล
6.3.1) ประเมินผลจากความถูกต้องตามมาตรฐาน
6.3.2) ประเมินผลจากการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
6.3.3) ประเมินผลจากผลสอบภาษาต่างประเทศที่มีมาตรฐาน
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. คุณธรรม จริยธรรม 2. ความรู้ 3. ทักษะทางปัญญา 4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ทักษะด้านการปฏิบัติงานได้อย่างมืออาชีพ
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1 2 3 4 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3 1 2 3
1 BOATH135 ธุรกิจของฝากและของที่ระลึก
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.1 คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา 1.3.3) ทำงานเป็นกลุ่ม และรายงานผลงาน (นำเสนอกลุ่ม) 16 10 %
2 2.1 ความรู้ที่ต้องได้รับ 2.3.1) ทดสอบทฤษฎีและปฏิบัติ โดยการสอบย่อย และให้คะแนน (สอบย่อย) 5, 14 10 %
3 3.1 ทักษะทางปัญญา ที่ต้องพัฒนา 3.3.1) ประเมินผลจากผลงานที่มอบหมายให้ทำ (กิจกรรม) 2, 4, 6, 8, 11, 13, 15, 16 10 %
4 4.1 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ที่ต้องพัฒนา 4.3.4) สังเกตพฤติกรรมในการเรียน (จิตพิสัย) ตลอดภาคการศึกษา 10 %
5 5.1 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องพัฒนา 5.3.2) ประเมินผลจากการนำเสนอผลงาน (นำเสนอเดี่ยว) 8 10 %
6 6.1 ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย 6.3.1) ประเมินผลจากความถูกต้องตามมาตรฐาน (สอบกลางภาค) (สอบปลายภาค) 9, 17 50 %
1.1 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2554). การจัดการธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยว. (พิมพ์ครั้งที่ 7). นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช.
2.1 ธุรกิจของฝากและของที่ระลึก
3.1 https://www.google.co.th/?hl=th
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้
1.1 ผลการประเมินผู้สอนออนไลน์
1.2 การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ได้ดังนี้
2.1 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.2 ติดตามงานที่มอบหมาย
2.3 การสังเกตการณ์สอนของผู้สอน
3.1 ปรับปรุงการเรียนการสอนจากผลการประเมินของนักศึกษา
3.2 จัดทำ และพัฒนาเอกสารประกอบการสอน สื่อการสอน
4.1 มีการให้ข้อมูลย้อนกลับแก่นักศึกษา เพื่อนำไปพัฒนาการเรียนรู้
4.2 มีการบันทึกหลังการสอน
5.1 นำผลที่ได้จากการประเมินของนักศึกษา คะแนนสอบ นำมาสรุปผล และพัฒนารายวิชาในภาคการศึกษาต่อไป