การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
Object Oriented Programming
1. จุดมุ่งหมายของรายวิชา : เมื่อนักศึกษาเรียนรายวิชานี้แล้ว นักศึกษามีสมรรถนะที่ต้องการในด้านต่างๆ ดังนี้
1.1 เพื่อให้นักศึกษามีความรู้และเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับหลักการทำงานเทคโนโลยี Object Oriented กับภาษาต่างๆ
1.2 เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจและเขียนลักษณะการทำงานของวิธีการทางคอมพิวเตอร์ในเทคโนโลยี Object Oriented อย่างถูกต้อง
1.3 เพื่อให้นักศึกษาสามารถเอาหลักการเทคโนโลยี Object Oriented เขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหากับโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์
1.4 สามารถประยุกต์ใช้งานตามแนวคิดการพัฒนาโปรแกรมทางระบบคอมพิวเตอร์ในเทคโนโลยี Object Oriented อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้พื้นฐาน เป็นการเตรียมความพร้อมด้านปัญหาในการนำความรู้ ความเข้าใจ ในระบบเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศด้านเทคโนโลยี Object Oriented เพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนในวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ควรมีการเปลี่ยนแปลงตัวอย่างอ้างอิง ให้สอดคล้องกับแนวโน้มด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ได้มีความก้าวหน้าไปตามยุคสมัยของการพัฒนาโปรแกรม
ศึกษาองค์ประกอบของการเขียนโปรแกรมตามแนวคิดเชิงวัตถุ เช่น คลาส ออบเจ็กต์ แอตทริบิวต์ เมธอด การสืบทอดคุณสมบัติ โพลีมอร์ฟิซึม เป็นต้น ฝึกปฏิบัติการเขียนโปรแกรม เพื่อเรียกใช้งานไลบรารีฟังก์ชันและเอพีไอของภาษา การใช้ส่วนติดต่อประสานโปรแกรมประยุกต์และการทำงานแบบ การเขียนโปรแกรมเชิงเหตุการณ์
The study of concept of the object oriented programming (OOP) for example class , object , attribute , method , inheritance , polymorphism. Practices in OOP with function library and API framework , user interface design and event-driven programming.
The study of concept of the object oriented programming (OOP) for example class , object , attribute , method , inheritance , polymorphism. Practices in OOP with function library and API framework , user interface design and event-driven programming.
จำนวนชั่วโมงที่สอนเสริมในรายวิชา 0 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
พัฒนาผู้เรียนให้มีความรับผิดชอบ มีวินัย มีจรรยาบรรณวิชาชีพ เคารพในสิทธิของข้อมูลส่วนบุคคล การไม่เปิดเผยข้อมูล การไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ทางซอฟแวร์ และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา มีความซื่อสัตย์ในการเขียนโปรแกรมอย่างมีคุณภาพ โดยมีคุณธรรม จริยธรรมตามคุณสมบัติหลักสูตร ดังนี้
ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื้อสัตย์สุจริต มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเองและสงคม มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม
1.1.6 สามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ต่อบุคคลองค์กรและสังคมมีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื้อสัตย์สุจริต มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเองและสงคม มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม
1.1.6 สามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ต่อบุคคลองค์กรและสังคมมีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
บรรยายพร้อมยกตัวอย่างกรณีศึกษา เกี่ยวกับประเด็นทางจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น การเขียนโปรแกรมตามบริษัทเอกชน ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วนำมาออกแบบการทำงานของการทำงานโปรแกรม โดยมีวัตถุประสงค์สร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้และผู้เขียนโปรแกรม
อภิปรายกลุ่ม/ทำงานเดี่ยว/กลุ่ม หรือ ทำงานเขียนโปรแกรมรายบุคคลตามใบงาน
กำหนดให้นักศึกษาเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน
1.3.1 พฤติกรรมการเข้าเรียน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา
1.3.2 มีการอ้างอิงเอกสารที่ได้นำมาทำรายงาน อย่างถูกต้องและเหมาะสม
1.3.3 ประเมินผลการวิเคราะห์กรณีศึกษาจากโปรแกรมที่นักศึกษาเขียนขึ้นตามแนวคิด
1.3.4 ประเมินผลการนำเสนอตามใบงานที่มอบหมาย
1.3.2 มีการอ้างอิงเอกสารที่ได้นำมาทำรายงาน อย่างถูกต้องและเหมาะสม
1.3.3 ประเมินผลการวิเคราะห์กรณีศึกษาจากโปรแกรมที่นักศึกษาเขียนขึ้นตามแนวคิด
1.3.4 ประเมินผลการนำเสนอตามใบงานที่มอบหมาย
มีความรู้ในหลักการ ความสำคัญ องค์ประกอบของการเขียนโปรแกรม และมีความรู้เกี่ยวกับระบบการเขียนโปรแกรมโดยมีการคิดแบบอัลกอริทึม รู้ความเป็นมาของภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น รู้รูปแบบการเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง รู้ประเภทข้อมูลการกำหนดตัวแปร นิพจน์ ตัวดำเนินการ คำสั่งควบคุมแบบโครงสร้าง ตัวแปรอาร์เรย์ ตัวชี้ การกำหนดลักษณะการทำงานโครงสร้างแบบฟังก์ชั่น และการใช้งานแฟ้มข้อมูล อย่างมีหลักการตามขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรมตามคุณสมบัติหลักสูตร ดังนี้
2.1.2 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.1.2 สามารถวิเคราะห์ปัญหาเข้าใจและอธิบายความต้องการทางคอมพิวเตอร์รวมทั้งประยุกต์ความรู้ทักษะและการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญูหา
2.1.3 สามารถวิเคราะห์ออกแบบติดตั้งปรับปรุงและ/หรือประเมินระบบองค์ประกอบต่างๆของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ตรงตามข้อกำหนด
2.1.4 สามารถติดตามความก้าวหน้าและวิวัฒนาการคอมพิวเตอร์รวมทั้งการนำไปประยุกต์
2.1.5 รู้เข้าใจและสนใจพัฒนาความรู้ความชำนาญทางคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง
2.1.6 มีความรู้ในแนวกว้างของสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ๆ
2.2.7 มีประสบการณ์ในการพัฒนาและ/หรือการประยุกต์ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้จริง
2.2.8 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
2.1.2 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
2.1.2 สามารถวิเคราะห์ปัญหาเข้าใจและอธิบายความต้องการทางคอมพิวเตอร์รวมทั้งประยุกต์ความรู้ทักษะและการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญูหา
2.1.3 สามารถวิเคราะห์ออกแบบติดตั้งปรับปรุงและ/หรือประเมินระบบองค์ประกอบต่างๆของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ตรงตามข้อกำหนด
2.1.4 สามารถติดตามความก้าวหน้าและวิวัฒนาการคอมพิวเตอร์รวมทั้งการนำไปประยุกต์
2.1.5 รู้เข้าใจและสนใจพัฒนาความรู้ความชำนาญทางคอมพิวเตอร์อย่างต่อเนื่อง
2.1.6 มีความรู้ในแนวกว้างของสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ๆ
2.2.7 มีประสบการณ์ในการพัฒนาและ/หรือการประยุกต์ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้จริง
2.2.8 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง
บรรยาย อภิปราย ฝึกปฏิบัติ การทำงานกลุ่ม การนำเสนอใบงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษาจากงานการเขียนโปรแกรมตามที่มอบหมายหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาสรุปเป็นโปรแกรมและนำเสนอ โดยเป็นโครงงาน Problem – based Learning และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
2.3.1 ทดสอบปฏิบัติย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค ด้วยข้อสอบที่เน้นการวัดหลักการทางปฏิบัติงานการเขียนโปรแกรมและทฤษฏีเนื้อหา
2.3.2 ประเมินจากการเขียนโปรแกรมตามที่มอบหมาย และนำเสนอผลการทำงานของโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากกรณีศึกษาที่นักศึกษาค้นคว้าและสร้างเอง หรือมีโจทย์จาก Problem – based Learning จากชีวิตประจำวัน
2.3.2 ประเมินจากการเขียนโปรแกรมตามที่มอบหมาย และนำเสนอผลการทำงานของโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากกรณีศึกษาที่นักศึกษาค้นคว้าและสร้างเอง หรือมีโจทย์จาก Problem – based Learning จากชีวิตประจำวัน
พัฒนาความสามารถในการคิดอย่างมีการคิดอย่างเป็นระบบ ขั้นตอน มีการวิเคราะห์แนวคิดอย่งมีขั้นตอนตามมาตรฐานการเขียนโปรแกรม เพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จากการใช้เทคโนโลยีให้ถูกต้อง
3.1.1 คิดอย่างมีวิจารณญาณและอย่างเป็นระบบ
3.1.2 สามารถสืบค้นตีความและประเมินสารสนเทศเพื่อให้ในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์
3.1.3 สามารถรวบรวมศึกษาวิเคราะห์และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ
3.1.4 สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะกับการแก้ไขปัญหาทางคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม
3.1.1 คิดอย่างมีวิจารณญาณและอย่างเป็นระบบ
3.1.2 สามารถสืบค้นตีความและประเมินสารสนเทศเพื่อให้ในการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์
3.1.3 สามารถรวบรวมศึกษาวิเคราะห์และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ
3.1.4 สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะกับการแก้ไขปัญหาทางคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม
3.2.1 การมอบให้นักศึกษาเขียนโปรแกรมงานที่ได้ให้วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาจากการที่นักศึกษาได้ค้นคว้าเอง และนำเสนอผลงานของตนเอง
3.2.2 อภิปรายลักษณะงานโปรแกรม
3.2.3 วิเคราะห์กรณีศึกษา ในการนำเทคโนโลยีภาษาการเขียนโปรแกรมอย่างที่เหมาะสม
3.2.4 การสะท้อนแนวคิดจากการประพฤติและการปฏิบัติงานของนักศึกษาโดยออกในรูปแบบผลงานนักศึกษาที่ได้ปฏิบัติจริง
3.2.2 อภิปรายลักษณะงานโปรแกรม
3.2.3 วิเคราะห์กรณีศึกษา ในการนำเทคโนโลยีภาษาการเขียนโปรแกรมอย่างที่เหมาะสม
3.2.4 การสะท้อนแนวคิดจากการประพฤติและการปฏิบัติงานของนักศึกษาโดยออกในรูปแบบผลงานนักศึกษาที่ได้ปฏิบัติจริง
3.3.1 สอบกลางภาคและปลายภาค โดยเน้นข้อสอบที่มีการเขียนโปรแกรม แนวคิดแก้ปัญหาทางการเขียนโปรแกรม วิเคราะห์โจทย์
3.3.2 วัดผลจากการประเมินงานการเขียนโปรแกรม การนำเสนอผลงานของนักศึกษา
3.3.3 สังเกตพฤติกรรมการแก้ไขปัญหาระหว่างปฏิบัติงาน
3.3.2 วัดผลจากการประเมินงานการเขียนโปรแกรม การนำเสนอผลงานของนักศึกษา
3.3.3 สังเกตพฤติกรรมการแก้ไขปัญหาระหว่างปฏิบัติงาน
4.1.1 สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนหลากหลายและสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
4.1.2 สามารถให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเเก่การแก้ปัญหาสถานการณ์ต่างๆในกลุ่มทั้งในบทบาทของผู้นำหรือในบทบาทของผู้ร่วมทีมทำงาน
4.1.3 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาชี้นำสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
4..1.4 มีความรับผิดชอบในการกระทำของตนเองและรับผิดชอบงานในกลุ่ม
4..1.5 สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวมพร้อมทั้งแสดงจุดยืนอย่างพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม
4.1.6 มีความรับผิดชอบการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเองและทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องคุณสมบัติต่างๆนี้สามารถวัดระหว่างการทำกิจกรรรมร่วมกัน
4.1.2 สามารถให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเเก่การแก้ปัญหาสถานการณ์ต่างๆในกลุ่มทั้งในบทบาทของผู้นำหรือในบทบาทของผู้ร่วมทีมทำงาน
4.1.3 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาชี้นำสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
4..1.4 มีความรับผิดชอบในการกระทำของตนเองและรับผิดชอบงานในกลุ่ม
4..1.5 สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวมพร้อมทั้งแสดงจุดยืนอย่างพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม
4.1.6 มีความรับผิดชอบการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเองและทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องคุณสมบัติต่างๆนี้สามารถวัดระหว่างการทำกิจกรรรมร่วมกัน
4.2.1 จัดกิจกรรมกลุ่มในการวิเคราะห์กรณีศึกษา
4.2.2 มอบหมายงานรายกลุ่มและรายบุคคล เช่น การทำใบงาน และวิเคราะห์โจทย์นำมาเขียนโปรแกรมได้ ทั้งตัวอย่างในชีวิตประจำวันนำมาเขียนเป็นโปรแกรมได้
4.2.3 การนำเสนอผลงานโปรแกรม
4.2.2 มอบหมายงานรายกลุ่มและรายบุคคล เช่น การทำใบงาน และวิเคราะห์โจทย์นำมาเขียนโปรแกรมได้ ทั้งตัวอย่างในชีวิตประจำวันนำมาเขียนเป็นโปรแกรมได้
4.2.3 การนำเสนอผลงานโปรแกรม
4.3.1 ประเมินตนเอง และเพื่อน ด้วยแบบฟอร์มที่กำหนด
4.3.2 ประเมินจากรายงานที่นำเสนอ พฤติกรรมการทำงานของนักศึกษา
4.3.3 ประเมินจากรายงานการศึกษาด้วยตนเอง
4.3.2 ประเมินจากรายงานที่นำเสนอ พฤติกรรมการทำงานของนักศึกษา
4.3.3 ประเมินจากรายงานการศึกษาด้วยตนเอง
5.1.1 มีทักษะในการใช้เครื่องมือที่จำเป็นที่มีอยู่ในปัจจุบันต่อการทำงานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
5..1.2 สามารถแนะนำประเด็นการแก้ไขปัญหาโดยใช้สารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ต่อปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างสร้างสรรค์
5.1.3 สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทั้งปากเปล่าและการเขียนเลือกใช้รูปแบบของสื่อการนำเสนออย่างเหมาะสม
5.1.4 สามารถใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีสื่อหรืออย่างเหมาะสม
5..1.2 สามารถแนะนำประเด็นการแก้ไขปัญหาโดยใช้สารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ต่อปัญหาที่เกี่ยวข้องอย่างสร้างสรรค์
5.1.3 สามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพทั้งปากเปล่าและการเขียนเลือกใช้รูปแบบของสื่อการนำเสนออย่างเหมาะสม
5.1.4 สามารถใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีสื่อหรืออย่างเหมาะสม
5.2.1 มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง และสร้างโปรแกรมตามแนวคิดมาเป็นรูปแบบผลงานซอฟต์แวร์ และทำรายงานรูปเล่มรวบรวมผลงานโดยเน้นการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล และเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอร์
5.2.2 นำเสนอโดยรูปแบบและเทคโนโลยีการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม
5.2.2 นำเสนอโดยรูปแบบและเทคโนโลยีการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม
5.3.1 ประเมินจากรายงาน ผลงาน และรูปแบบการนำเสนอด้วยสื่อเทคโนโลยีนำเสนอตามผลงานในลักษณะงานของนักศึกษา
5.3.2 ประเมินจากการมีส่วนร่วมในการอภิปราย วิธีการตอบ และการเขียนโปรแกรม
5.3.2 ประเมินจากการมีส่วนร่วมในการอภิปราย วิธีการตอบ และการเขียนโปรแกรม
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา | 1. คุณธรรม จริยธรรม | 2. ความรู้ | 3. ทักษะทาง ปัญญา | 4. ทักษะความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคล และความรับผิดชอบ | 5. ทักษะการ วิเคราะห์เชิง ตัวเลข การ สื่อสาร และ การใช้ เทคโนโลยี สารสนเทศ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รหัสวิชา | ชื่อวิชา | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 1 | 2 | 3 | 4 | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | ๅ | 2 | 3 | 4 |
1 | BSCCT502 | การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ |
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | 1.1,1.2, 2.1, 2.3, 3.1 | ทดสอบปฏิบัติย่อยครั้งที่ 1 สอบกลางภาค ทดสอบปฏิบัติย่อยครั้งที่ 2 สอบปลายภาค | 4 9 12 16 | 10% 25% 10% 25% |
2 | 1.1,1.2, 2.1-2.3 4.4, 5.1-5.3 | วิเคราะห์กรณีศึกษาค้นคว้า การนำเสนอผลงาน รายงานผลการเขียนโปรแกรมตามใบงาน การทำงานกลุ่ม/เดี่ยวและผลงาน การเขียนโปรแกรมและสรุปผลการทำงานโปรแกรม การส่งงานตามที่มอบหมายตรงเวลา | ตลอดภาคการศึกษา | 20% |
3 | 1.1,1.2, 3.1 4.4 5.1 , 5.2 | การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย/นำเสนอ เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน | ตลอดภาคการศึกษา | 10% |
วรเศรษฐ สุวรรณิก. การเขียนโปรแกรม java เบื้องต้น. ,กรุงเทพ ฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, 2549 ,276 หน้า
H.M.&P.J Deitel, JAVA HOW TO PROGRAM, 4th Edition, Prentice Hall, 2002.
กิตติ ภักดีวัฒนะกุล, Object Oriented ฉบับพื้นฐาน,กรุงเทพมหานคร : เคทีพี คอม แอนด์ คอนซัลท์ ,
ครั้งที่ 1, 247 หน้า
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ,จาวาสำหรับผู้เริ่มต้น , กรุงเทพมหานคร : เดคิซูกิ ดอทเนต ,247 หน้า
วรรณิภา เนตรงาม ,คู่มือการเขียนโปรแกรมภาษา JAVA ฉบับผู้เริ่มต้น, นนทบุรี : เอชเอ็นการพิมพ์ ,
ครั้งที่ 1, 274 หน้า
H.M.&P.J Deitel, JAVA HOW TO PROGRAM, 4th Edition, Prentice Hall, 2002.
กิตติ ภักดีวัฒนะกุล, Object Oriented ฉบับพื้นฐาน,กรุงเทพมหานคร : เคทีพี คอม แอนด์ คอนซัลท์ ,
ครั้งที่ 1, 247 หน้า
นรินทร์ โอฬารกิจอนันต์ ,จาวาสำหรับผู้เริ่มต้น , กรุงเทพมหานคร : เดคิซูกิ ดอทเนต ,247 หน้า
วรรณิภา เนตรงาม ,คู่มือการเขียนโปรแกรมภาษา JAVA ฉบับผู้เริ่มต้น, นนทบุรี : เอชเอ็นการพิมพ์ ,
ครั้งที่ 1, 274 หน้า
วีรศักดิ์ ซึงถาวร , JAVA PROGRAMMING VOLUME I. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น,2545.
432 หน้า.
วีรศักดิ์ ซึงถาวร , JAVA PROGRAMMING VOLUME II. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น,2545.
584 หน้า.
กิตติ ภักดีวัฒนะกุล, JAVA ฉบับโปรแกรมเมอร์ ,กรุงเทพมหานคร,เคทีพี คอม แอนด์ คอนซัลท์ ,
ครั้งที่ 2, 479 หน้า
ศุภชัย กาญจนโภคิน,คู่มือการใช้ Java เพื่อการประยุกต์ใช้งาน, กรุงเทพมหานคร: ครั้งที่ 1
ซัคเซส มีเดีย , 2545,230 หน้า
432 หน้า.
วีรศักดิ์ ซึงถาวร , JAVA PROGRAMMING VOLUME II. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น,2545.
584 หน้า.
กิตติ ภักดีวัฒนะกุล, JAVA ฉบับโปรแกรมเมอร์ ,กรุงเทพมหานคร,เคทีพี คอม แอนด์ คอนซัลท์ ,
ครั้งที่ 2, 479 หน้า
ศุภชัย กาญจนโภคิน,คู่มือการใช้ Java เพื่อการประยุกต์ใช้งาน, กรุงเทพมหานคร: ครั้งที่ 1
ซัคเซส มีเดีย , 2545,230 หน้า
เว็บไซต์ ที่เกี่ยวข้อง
http://www.s-t.au.ac.th/~prl/files/java2.pdf
http://www.compsci.buu.ac.th/~jparnjai/oop/docs/01-IntroJava.pdf
http://mail.hcc.ac.th/~s4052017/project.htm
http://www.ctc.ru.ac.th/school/traininghome.html
http://www.ctc.ru.ac.th/school/surawej/java/index.html
http://www.thaidev.com/articles.php?page=oop1
http://www.s-t.au.ac.th/~prl/files/java2.pdf
http://www.compsci.buu.ac.th/~jparnjai/oop/docs/01-IntroJava.pdf
http://mail.hcc.ac.th/~s4052017/project.htm
http://www.ctc.ru.ac.th/school/traininghome.html
http://www.ctc.ru.ac.th/school/surawej/java/index.html
http://www.thaidev.com/articles.php?page=oop1
การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน เพื่อสื่อสารเนื้อหาให้ผู้เรียนศึกษาก่อนล่วงหน้า
แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา เพื่อนำผลมาปรับปรุงการเรียนการสอน
ข้อเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา
2.1 การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมสอน(หากมี)
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา ที่มีการสอบเก็บคะแนนแต่ละครั้งนำมาประเมิน
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้ ให้งานตามที่มอบหมายและสังเกตพฤติกรรม
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา ที่มีการสอบเก็บคะแนนแต่ละครั้งนำมาประเมิน
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้ ให้งานตามที่มอบหมายและสังเกตพฤติกรรม
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้
3.1 สัมมนาการจัดการเรียนการสอน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3.2 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน เพื่อปรับปรุงและแก้ไขกรณีในห้องเรียนและการเรียนการสอน
3.1 สัมมนาการจัดการเรียนการสอน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3.2 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน เพื่อปรับปรุงและแก้ไขกรณีในห้องเรียนและการเรียนการสอน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการ ทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์ผู้สอน
4.2 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์ผู้สอน
4.2 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ