เทคโนโลยีการผลิตพืชไร่อาหาร

Food Field Crops Production Technology

ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับความสำคัญและการใช้ประโยชน์  สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและสรีรวิทยาการเจริญเติบโต เทคโนโลยีการปลูกและดูแลรักษา    การเก็บเกี่ยวและการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว  การแปรรูปผลผลิต   สภาวการณ์ตลาดและการจำหน่ายของพืชไร่อาหารที่สำคัญ เช่น ข้าว ข้าวโพด พืชตระกูลถั่ว ฯลฯ
เมื่อนักศึกษาเรียนรายวิชานี้แล้วต้อง ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับความสำคัญและการใช้ประโยชน์  สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและสรีรวิทยาการเจริญเติบโต เทคโนโลยีการปลูกและดูแลรักษา    การเก็บเกี่ยวและการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว  การแปรรูปผลผลิต   สภาวการณ์ตลาดและการจำหน่ายของพืชไร่อาหารที่สำคัญ เช่น ข้าว ข้าวโพด พืชตระกูลถั่ว ฯลฯนักศึกษามีสมรรถนะที่ต้องการในด้านต่างๆ ดังนี้ 1.1 มีความรู้และทักษะปฏิบัติเกี่ยวกับความสำคัญ แหล่งปลูก สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เทคโนโลยีการผลิต        และการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และการตลาดของพืชไร่อาหารเครื่องดื่มที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ 1.2  สามารถนำความรู้และทักษะเกี่ยวกับพืชไร่อุตสาหกรรมเครื่องดื่มไปประยุกต์ไปใช้ในการผลิตพืชไร่       อุตสาหกรรมเครื่องดื่มได้จริง 1.3  มีความสามารถใช้ภาษาไทยในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเลือกใช้วิธีการและ       เครื่องมือสื่อสารที่เหมาะสม 1.4  สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม 1.5  มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือ       วิชาชีพ มีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลาและความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับความสำคัญและการใช้ประโยชน์  สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและสรีรวิทยาการเจริญเติบโต เทคโนโลยีการปลูกและดูแลรักษา    การเก็บเกี่ยวและการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยว  การแปรรูปผลผลิต   สภาวการณ์ตลาดและการจำหน่ายของพืชไร่อาหารที่สำคัญ เช่น ข้าว ข้าวโพด พืชตระกูลถั่ว ฯลฯ
  2 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
1.1 คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา
 (1) มีคุณธรรมและจริยธรรม หมายถึง ศรัทธาในความดี มีหลักคิดและแนวปฏิบัติ ในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ มีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ  (2) มีจรรยาบรรณ หมายถึง มีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติ ปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ    กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กรเพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักศึกษามีระเบียบวินัย โดยเน้นการเข้า ชั้นเรียนให้ตรงเวลาตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องมีความ รับผิดชอบ โดยในการท างานกลุ่มนั้นต้องฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม มีความ ซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการสอบหรือลอกการบ้านของผู้อื่น เป็นต้น นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนทุก คนต้องสอดแทรกเรื่องคุณธรรมจริยธรรมในการสอนทุกรายวิชารวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เช่น การยกย่องนักศึกษาที่ทำดีทำประโยชน์แก่ส่วนรวมและเสียสละ (1) ประเมินการมีวินัยจากการตรงเวลาของนักศึกษาในการเข้าชั้นเรียน การส่งงาน ตามกำหนดระยะเวลาที่มอบหมายและการเข้าร่วมกิจกรรมที่กำหนด (2) ประเมินจากความพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริม หลักสูตร  (3) ประเมินจากความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานที่ได้รับมอบหมายและการสอบ  (4) ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย  (5) ประเมินจากผลงานที่ไม่คัดลอกผลงานผู้อื่นหรือมีการอ้างอิงเอกสารทางวิชาการ เพื่อให้เกียรติแก่เจ้าของผลงาน (6) ประเมินจากพฤติกรรมในการทำงานในชั้นเรียนที่ไม่เลือกปฏิบัติและการไม่ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น
1. อธิบายการมีวินัย ความพร้อมเพียงในกิจกรรมเสริมหลักสูตร/สาขา ความอ่อนน้อมถ่อมตน 2. บอกให้มีความซื่อสัตย์ในการสอบการอ้างอิงเมื่อนำผลงานของผู้อื่นมาใช้ 3. อธิบายความตรงต่อเวลาในการเข้าชั้นเรียน การส่งงาน 4. อธิบายโครงการธนาคารความดี
1. ประเมินจากการมี ความพร้อมเพียงในกิจกรรมเสริมหลักสูตร/สาขา ความอ่อนน้อมถ่อมตน 2. สังเกตและตรวจทานจากการสอบการอ้างอิง 3. ประเมินความตรงต่อเวลาใน การเข้าชั้นเรียน การส่งงาน 4. ประเมินโครงการธนาคารความดี
2.1 ความรู้ที่ต้องได้รับ
(1) มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ หมายถึง มีความรู้ ความเข้าใจ ในสาขาวิชาชีพ  ที่เรียนอย่างถ่องแท้และเป็นระบบทั้งหลักการ ทฤษฎี และการ ประยุกต์ใช้ความรู้ที่ทันสมัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง (2) มีความรอบรู้ หมายถึง มีความรู้ในหลายสาขาวิชาและสามารถประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
2.2 วิธีการสอน
ใช้การเรียนการสอนในหลากหลายรูปแบบโดยเน้นหลักการทางทฤษฎีและประยุกต์ทาง ปฎิบัติในสภาพแวดล้อมจริง โดยทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี เรียนรู้จากสถานการณ์จริงโดยมี การศึกษาดูงานหรือเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาเป็นวิทยากรพิเศษเฉพาะเรื่อง ตลอดจนการฝึก ปฏิบัติงานในสถานประกอบการ โดย 1. การสอนแบบการตั้งคำถาม (Questioning) และให้มีการอภิปรายกลุ่ม 2. การสอนแบบบรรยายเชิงปฏิบัติการ 3. กำหนดให้หาความรู้เพิ่มเติมทางอินเตอร์เน็ตและทำรายงานส่ง
2.3 วิธีการประเมินผล
 ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนักศึกษาในด้านต่างๆ คือ (1) การทดสอบย่อย (2) การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน (3) ประเมินจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำและส่งรายงาน (4) ประเมินจากแผนงานหรือโครงการที่นำเสนอ (5) ประเมินจากการนำเสนอรายงานในชั้นเรียนการมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่ม
(1) บทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง และกรณีศึกษาทางการเกษตร เพื่อค้นหา ข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจ ประเมินข้อมูลและหลักฐานใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่ หลากหลาย (2) การอภิปรายกลุ่มเพื่อระดมความคิดวิเคราะห์ข้อมูลและประยุกต์ใช้ข้อมูลที่ได้มา หรือเลือกใช้ความรู้ที่เรียนมาแก้ไขโจทย์ปัญหาที่กำหนด (3) ให้นักศึกษาปฏิบัติจริงเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้า  โดย การสอนแบบบรรยายเชิงปฏิบัติการ
ประเมินตามสภาพจริงจากผลงานและการปฏิบัติของนักศึกษา เช่น
(1) ประเมินจากผลงานการนำเสนอรายงานในชั้นเรียน (2) การสัมภาษณ์หรือการสอบปากเปล่า  (3) การทดสอบโดยใช้แบบทดสอบหรือข้อสอบ โดยการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนักศึกษาในด้านต่างๆ คือ (1) การทดสอบย่อย (2) การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน (3) ประเมินจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำและส่งรายงาน (4) ประเมินจากแผนงานหรือโครงการที่นำเสนอ (5) ประเมินจากการนำเสนอรายงานในชั้นเรียนการมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่ม
(1) บทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง และกรณีศึกษาทางการเกษตร เพื่อค้นหา ข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจ ประเมินข้อมูลและหลักฐานใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่ หลากหลาย (2) การอภิปรายกลุ่มเพื่อระดมความคิดวิเคราะห์ข้อมูลและประยุกต์ใช้ข้อมูลที่ได้มา หรือเลือกใช้ความรู้ที่เรียนมาแก้ไขโจทย์ปัญหาที่กำหนด (3) ให้นักศึกษาปฏิบัติจริงเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้า  โดย การสอนแบบบรรยายเชิงปฏิบัติการ
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนักศึกษาในด้านต่างๆ คือ (1) การทดสอบย่อย (2) การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน (3) ประเมินจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำและส่งรายงาน (4) ประเมินจากแผนงานหรือโครงการที่นำเสนอ (5) ประเมินจากการนำเสนอรายงานในชั้นเรียนการมีส่วนร่วมในการอภิปรายกลุ่ม
(1) ภาวะผู้นำ หมายถึง กล้าแสดงออก กล้าหาญ อดทน หนักแน่น รู้จักเสียสละ ให้อภัย และ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น สุภาพ สามารถประสานความคิดและประโยชน์ด้วยหลักแห่งเหตุผลและความถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รักองค์กร เป็นผู้นำกลุ่มกิจกรรมได้ทุกระดับและสถานการณ์ที่ เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตาม (2) มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ หมายถึง มีจิตสำนึกห่วงใยต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสมบัติ มีจิตอาสา ไม่ดูดาย มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม 
ใช้การสอนที่มีการกำหนดกิจกรรมให้มีการทำงานเป็นกลุ่ม การทำงานที่ต้องประสานงานกับผู้อื่นหรือ ต้องค้นคว้าหาข้อมูลจากการสัมภาษณ์บุคคลอื่นหรือผู้มีประสบการณ์ ดังนี้ (1) สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ (2) มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (3) สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และวัฒนธรรมองค์กรที่ไปปฏิบัติงานได้       (4) มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงานในองค์กรและกับบุคคลทั่วไป (5) มีภาวะผู้นำและผู้ตามในการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น (6) สามารถวางตนได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ขนบธรรมเนียมและแนวทางปฏิบัติ เฉพาะของแต่ละวัฒนธรรม โดย ให้ทำงานมอบหมายเป็นกลุ่ม และให้มีการนำเสนอข้อมูลของกลุ่มแก่เพื่อน ๆ ในชั้นเรียน
ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนักศึกษาในการนำเสนอรายงานกลุ่มในชั้น เรียนและสังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่างๆ และความครบถ้วนชัดเจนตรงประเด็นของข้อมูล
(1) มีทักษะการสื่อสาร หมายถึง ความสามารถในการใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่านและเขียน เพื่อการสื่อสารให้เหมาะกับสถานการณ์ และการใช้ภาษาอังกฤษ ใน การอ่าน พูด ฟัง และเขียน (2) มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ เหมาะสมในการสื่อสารและค้นคว้าข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ   
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ใน  ให้นักศึกษาได้วิเคราะห์สถานการณ์จำลอง สถานการณ์เสมือนจริงหรือแก้ไขปัญหาจากกรณีศึกษาหรือในการปฏิบัติงานจริง แล้วนำเสนอการแก้ปัญหาที่ เหมาะสม เรียนรู้ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศในหลากหลายสถานการณ์ โดยการแนะนำเทคนิคการสืบค้นข้อมูลการมอบหมายงานให้จัดทำรายงานด้วยการสืบค้นข้อมูลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและนำเสนอผลงาน
(1) ประเมินจากเทคนิคการนำเสนอและการเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี สารสนเทศหรือทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลขที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอข้อมูล (2) ประเมินจากความสามารถในการอธิบายถึงขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล ข้อจำกัด เหตุผลในการเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ ประมวลผลและแปลความหมาย
(3) การนำเสนอโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม โดยประเมินจากทักษะการเขียน การสืบค้นข้อมูลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ จากการอ่านและการค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต และการนำเสนอผลงานที่ได้รับมอบหมาย
การบรรยายเชิงปฏิบัติการเขียนรายงานและนำเสนอรายงานสัมมนาวิชาการแบบปากเปล่า
1. การสอนแบบบรรยายเชิงปฏิบัติการเขียนรายงานและนำเสนอรายงานสัมมนาวิชาการแบบปากเปล่า
1. ส่งรายงานที่ได้รับมอบหมาย
2. นำเสนองานที่ได้รับมอบหมาย
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 การเข้าชั้นเรียน การส่งรายงานตรงเวลา การแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน การมีส่วนร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน เช็คชื่อนักศึกษา และการส่งรายงาน ทุกสัปดาห์ที่เรียน ยกเว้นสัปดาห์ที่มีการสอบ 15 %
2 การทดสอบย่อย การทดสอบย่อยในชั้นเรียน ก่อนและหลังสอนแต่ละหน่วยเรียน 15 %
3 การสอบกลางภาค ข้อสอบอัตนัยและปรนัย 9 20
4 ผลการปฏิบัติงาน การนำเสนอผลการปฏิบัติงาน/การรายงาน การเข้าเรียนภาคปฏิบัติ และการนำเสนอผลงาน ก่อนการสอบกลางภาคและสอบปลายภาคเรียนการศึกษา 30%
5 การสอบปลายภาค ข้อสอบปรนัยและอัตนัย 17 20 %
วาสนา  วงษ์ใหญ่  อุดม  พูลเกษ  รังสฤษฎ์  กาวีต๊ะ และ วิทยา  แสงแก้วสุข. ๒๕๔๑. พฤกษศาสตร์พืชเศรษฐกิจ. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. ๒๒๐ น. วันชัย จันทร์ประเสริฐ. ๒๕๔๒. เทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์พืชไร่. ภาควิชาพืช ไร่นา  คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. ๒๗๖ น.
http:///www.doa.go.th http:///www.doae.go.th http://kanchanapisek.or.th http://www.ricethailand.go.th/rkb/index.htm - การใช้โปรแกรม Word   Excel  Power point  เพื่อทำงานมอบหมาย - การใช้งานอินเตอร์เน็ต (internet) เพื่อการค้นคว้าทางวิชาการ
หนังสือการประชุมวิชาการประจำปีทางด้านพืชไร่ กรมวิชาการเกษตร
ให้ผู้เรียนประเมินพัฒนาการของตนเองโดยเปรียบเทียบความรู้ทักษะก่อนและหลังการเรียนรายวิชานี้ และมีระบบการประเมินรายวิชาโดยให้ผู้เรียนประเมินและแสดงความเห็นผ่านการประเมินรายวิชาทางระบบอินเตอร์เน็ต
 อาจารย์ผู้สอนดำเนินการ โดยการสังเกต การดูผลการปฏิบัติงาน การตรวจรายงาน และการสอบกลางภาค และสอบปลายภาค โดยพิจารณาจากความสนใจ ความเข้าใจ และผลการเรียนของนักศึกษา
อาจารย์ผู้สอนวิชาประเมินการสอนด้วยตนเอง ด้วยการสังเกต การพิจารณาผลการเรียนและการสอบของนักศึกษา จัดทำรายงานประเมินตนเองเมื่อสิ้นภาคการศึกษาเสนอหัวหน้าสาขา
 สาขาวิชามีคณะกรรมการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาทำหน้าที่ทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชาโดยการสุ่มประเมินการสอน ข้อสอบ และความเหมาะสมของการให้คะแนน
สาขาวิชามีระบบการทบทวนประสิทธิผลของรายวิชา โดนพิจารณาจากผลการประเมินการสอนโดยนักศึกษา และผลการประเมินโดยคณะกรรมการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษามาพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมคณะกรรมการหลักสูตร