การใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

Application of Chemicals and Drugs in Aquaculture

1.  เพื่อให้ผู้ศึกษามีรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
2. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาต้านจุลชีพ การจัดกลุ่มยาต้านจุลชีพ การทดสอบความไวต่อยาต้านจุลชีพ และการใช้ยาต้านจุลชีพในสัตว์น้ำ 
3. เพื่อให้นักศึกษาเตรียมความพร้อมในด้านการนำความรู้ทางการใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
 
เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาและพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ทักษะทางปัญญา ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ รวมทั้งทักษะการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยผ่านทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ฝึกค้นหาข้อมูลและวิทยาการใหม่ๆ จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเอง และนำมาแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยการเสวนาแบบโต๊ะกลม (Share information)
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับคุณสมบัติ วิธีการใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับยาต้านจุลชีพ การทดสอบความไวต่อยาต้านจุลชีพ การเลือกและการใช้ยาและสารเคมี การคำนวณการใช้ยาและสารเคมี ข้อกำหนดและมาตรฐานการใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
ให้คำปรึกษาจำนวน 1.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทุกวันพุธ  เวลา 15.00 - 16.30 น. ห้องพักอาจารย์สาขาวิชาประมง
1.1 คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา      1.1 มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม      1.2 มีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือวิชาชีพ      1.3 มีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลาและความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม      1.4 เคารพสิทธิในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
1.2 วิธีการสอน
- บรรยายโดยสอดแทรกเรื่องคุณธรรมจริยธรรมระหว่างการสอน - ยกตัวอย่างข่าวสารหรือเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับการใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ สารเคมีที่ห้ามใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พระราชบัญญัติยา พระราชบัญญัติวัตถุมีพิษ เป็นต้น เพื่อสร้างจิตสำนึกในการใช้สารเคมีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค - มอบหมายงานกลุ่ม
1.3 วิธีการประเมินผล
- ประเมินจากพฤติกรรมการเข้าเรียน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา - ประเมินความมีวินัยและความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย - ความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานที่ได้รับมอบหมายและการสอบ
2.1 ความรู้ที่ต้องได้รับ      - มีความรู้และความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา      
     - สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีของสาขาวิชาที่ศึกษา      
     - สามารถบูรณาการความรู้ที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
 
- วิธีการบรรยาย 
- วิธีการสาธิต ในชั่วโมงปฏิบัติการ 
- วิธีการใช้กรณีตัวอย่าง
- ประเมินผลจากการสอบด้วยข้อสอบที่เน้นหลักการและทฤษฎี 
- ประเมินจากงานที่ได้รับมอบหมาย 
- ประเมินจากการนำเสนอผลการค้นคว้าข้อมูล กรณีศึกษา
3.1 ทักษะทางปัญญา ที่ต้องพัฒนา
- มีทักษะปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการหรือวิชาชีพ 
- มีทักษะในการนำความรู้มาคิดและใช้อย่างมีระบบ
 
- การสอนแบบร่วมมือร่วมคิด โดยแบ่งกลุ่มปฏิบัติการ และระดมสมองในการแก้ไขปัญหา ของปฏิบัติการต่างๆอย่างเป็นระบบ 
- ทำการจัดเก็บข้อมูลให้ถูกต้องอย่างเป็นระบบ 
- ทำการวิเคราะห์ข้อมูล/คำนวณ 
- ทำการสรุปผลการทดลองและเขียนรายงาน 
- ฝึกตอบปัญหาในชั้นเรียน และแสดงความคิดเห็นต่อปัญหาพร้อมทั้งค้นคว้าเพิ่มเติม
-ประเมินผลจากรายงานผลการทดลอง และการตอบปัญหาในชั้นเรียน 
-  มีมนุษยสัมพันธ์และมารยาทสังคมที่ดี -  มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
- สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม 
- สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
 
- การสอนแบบร่วมมือ โดยจัดกิจกรรมกลุ่มในการทำบทปฏิบัติการ
 
- ประเมินจากพฤติกรรมการทำงานเป็นกลุ่ม
- สามารถเลือกใช้วิธีการและเครื่องมือสื่อสารที่เหมาะสม 
- สามารถสืบค้น ศึกษา วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม 
- สามารถใช้ภาษาไทยหรือต่างประเทศในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การบรรยายวิธีการปฏิบัติการทดลอง และ/หรือ การคำนวณที่สอดคล้องกับทฤษฎี - การใช้กรณีตัวอย่าง โดยให้โจทย์ตัวอย่างการคำนวณปริมาณยาที่ใช้ในการป้องกันหรือรักษาสัตว์น้ำ
- ประเมินจากการคิดคำนวณ เชิงตัวเลข/จัดเก็บข้อมูลการทดลองอย่างเป็นระบบ 
- ประเมินจากการเขียนรายงาน
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1.คุณธรรมจริยธรรม 2. ความรู้ 3.ทักษะทางปัญญา 4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคลและความรับผิดชอบ 5.ทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลขและการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 6.ด้านทักษะ พิสัย
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 2 1 1 2 3 1 2 1 2 2 1 1
1 BSCAG328 การใช้ยาและสารเคมีในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.2, 2.1, 2.2, 3.1, 3.2 ทดสอบ ตลอดภาคการศึกษา 50%
2 1.2, 1.3, 1.4, 2.2, 2.3, 3.1, 3.2, 4.2, 5.1, 5.2, 5.3 ปฏิบัติการทดลอง, การบันทึกผลการทดลอง, สมุด และรายงานการทดลอง ตลอดภาคการศึกษา 40%
3 1.1, 1.2, 1.3, 1.4, 4.1, 4.3 จิตสิพัย และ พฤติกรรมในการเรียน ตลอดภาคการศึกษา 10%
นนทวิทย์ อารีย์ชน.  2537.  การวินิจฉัยและการควบคุมโรคในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ. ภาควิชาเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 75 หน้า.
สถาบันวิจัยสุขภาพสัตว์น้ำ กรมประมง. 2545. ยาและสารเคมีเพื่อการป้องกันและรักษาโรคสัตว์น้ำ. เอกสารเผยแพร่ กรมประมง American fishery society. 2011. Guide to using drugs, biologics and other chemicals in aquaculture. 61p
1.1  การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
1.2  การสังเกตจากพฤติกรรมของผู้เรียน      
1.3  แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
2.1 การสังเกตพฤติกรรมการเรียนการสอน  การตอบสนอง  การมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน      
2.2  ผลการเรียนของนักศึกษา      
2.3  การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
 
- อาจารย์ผู้สอนทบทวนและปรับปรุงกลยุทธ์และวิธีการสอนจากผลการประเมินประสิทธิผลของรายวิชา แล้วจัดทำรายงานรายวิชาทุกภาคการศึกษา เฉพาะในรายวิชาที่มีปัญหาให้มีการทำวิจัยในชั้นเรียน      
- มีการประชุมอาจารย์ทั้งสาขาเพื่อหารือปัญหาการเรียนรู้ของนักศึกษาและร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
ตั้งคณะกรรมการในหลักสูตรตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยการตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม ทั้งนี้ผู้สอนจะทวนสอบโดยการให้งานมอบหมายและแบบทดสอบ
5.1   ปรับปรุงรายวิชาทุก 2 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4 
5.2   ปรับปรุงสื่อการสอนให้ทันกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้นักศึกษาได้รับความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย