วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ

Science for Health

1.1  เข้าใจวิทยาศาสตร์สุขภาพ
1.2  เข้าใจการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน และผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพ
1.3  รู้เกี่ยวกับอาหารเพื่อสุขภาพและสารปนเปื้อนในอาหาร การใช้เครื่องสำอางและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพ การใช้ยารักษาโรคเบื้องต้น
1.4  รู้เกี่ยวกับโรคสำคัญและโรคอุบัติใหม่ที่มีผลกระทบทางสังคมและการป้องกัน
1.5  เข้าใจแนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวม
1.6  มีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์สุขภาพ
1.7  รู้ทันวิทยาการ ความก้าวหน้า และสามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์สุขภาพและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดี และในวิชาชีพได้อย่างเหมาะสม
2.1 เพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีทางเคมีพื้นฐานเพิ่มขึ้น
2.2 นักศึกษานำความรู้และทักษะไปประยุกต์ใช้กับรายวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง
2.3 เพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน
ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สุขภาพและการพัฒนาวิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพและสารปนเปื้อนในอาหาร การใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน และผลกระทบของสารเคมีต่อสุขภาพ การใช้เครื่องสำอางและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพ การใช้ยารักษาโรคเบื้องต้น โรคสำคัญและโรคอุบัติใหม่ที่มีผลกระทบทางสังคมและการป้องกัน แนวคิดการสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวม
Study and Understand health science and health science development, healthy food and food contamination, daily chemical use and its effects on health, cosmetic use and modern health technology, the use of primary therapeutic drugs, major and emerging diseases with social implications and prevention, and holistic health promotion concepts
จัดให้นักศึกษาพบอาจารย์ เพื่อขอคำปรึกษาและแนะนำนอกชั้นเรียน สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง
1.1 มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม
    1.2 มีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือวิชาชีพ
1.3 มีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลาและความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม
    1.4 เคารพสิทธิในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
1. การกำหนดเกณฑ์การประเมินให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการทำข้อตกลงร่วมกัน
2. การมอบหมายงานกลุ่ม (กิจกรรมหรือโครงการ)
1. แบบเช็คการส่งงานที่มอบหมาย
2. แบบสังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียนตามเกณฑ์ที่นักศึกษามีส่วนร่วม
3. ใบเช็คชื่อการเข้าเรียน
2.1 มีความรู้และความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา
   2.2 สามารถติดตามความก้าวหน้า ใผ่รู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีของสาขาวิชาที่ศึกษา
   2.3 สามารถบูรณาการความรู้ทางวิชาชีพกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
1. การมอบหมายงาน
2. การสอนแบบบรรยายและยกตัวอย่างกรณีศึกษา
3. การสอบแบบตั้งคำถามหรือถาม-ตอบให้คิดวิเคราะห์
4. การทดสอบความรู้ (แบบทดสอบหรือการถาม-ตอบปากเปล่า)
1. แบบทดสอบย่อย (ความรู้และเข้าใจในเนื้อหาที่ศึกษา)
2. สอบกลางภาคและปลายภาค
3. แบบประเมินคุณภาพของงานที่มอบหมาย
4. ข้อสอบกลางภาคและปลายภาคเรียน
5. แบบสังเกตพฤติกรรมในชั้นเรียน (ไหวพริบ ความเหมาะสมและความถูกต้องในการตอบคำถาม)
3.1 มีทักษะปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทางด้านวิชาการหรือวิชาชีพ
3.2 มีทักษะในการนำความรู้มาคิดและใช้อย่างมีระบบ
1. การอภิปรายรายบุคคล
2. การสอนแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างอาจารย์และนักศึกษา
3. การสอบแบบตั้งคำถามหรือถาม-ตอบให้คิดวิเคราะห์
4. การทดสอบความรู้โดยกำหนดสถานะการจำลอง (แบบทดสอบหรือการถาม-ตอบปากเปล่า)
5. การมอบหมายงานเป็นกลุ่ม ให้ร่วมกันอภิปรายการประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ไขปัญหาสังคม (Problem-based learning ; PBL และ STEM Education)
1. แบบสังเกตพฤติกรรม (การแสดงความคิดเห็นและร่วมทำกิจกรรมในชั้นเรียน)
2. การตอบคำถามอย่างมีเหตุผลและเหมาะสม
3. แบบประเมินคุณภาพและความสำเร็จของผลงานกลุ่มที่มอบหมายตามเกณฑ์ที่กำหนด
4.1  มีมนุษยสัมพันธ์และมารยาทสังคมที่ดี
     4.2  มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม
4.3 สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม
4.4  สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
1. การมอบหมายงานเป็นกลุ่ม ให้ร่วมกันอภิปรายการประยุกต์ใช้ความรู้ในการแก้ไขปัญหาสังคม (Problem-based learning ; PBL และ STEM Education)
2. การให้นำเสนอผลงานเป็นกลุ่มหน้าชั้นเรียน
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำกิจกรรมเป็นกลุ่มในชั้นเรียน
2. แบบประเมินคุณภาพและความสำเร็จของผลงานกลุ่มที่มอบหมายตามเกณฑ์ที่กำหนด
5.1 เลือกใช้วิธีการและเครื่องมือสื่อสารได้เหมาะสม
5.2 สืบค้น ศึกษา วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
    5.3 ใช้ภาษาไทยหรือต่างประเทศ ในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องตามกาลเทศะและสอดคล้องกับวัฒนธรรมสากล
1. การมอบหมายงานเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคล (ให้สืบค้นและวิเคราะห์ตัวอย่างจากกรณีศึกษา โดยอาศัยProblem-based learning ; PBL และ STEM Education))
2. การนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
1. แบบสังเกตพฤติกรรมการทำกิจกรรมในชั้นเรียน (เน้นการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนโดยใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารข้อมูลที่เหมาะสมหรือแก้ไขปัญหา)
2. แบบประเมินคุณภาพของงานกลุ่มที่มอบหมาย
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา(Ethics and Moral) 2. ด้านความรู้ที่ต้องได้รับ(Knowledge) 3. ด้านทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา(Cognitive Skills) 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา(Interpersonal Skills and Responsibility) 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องพัฒนา (Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills)
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม 1.2 มีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือวิชาชีพ 1.3 มีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลาและความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 1.4 เคารพสิทธิในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ 2.1 มีความรู้และความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา 2.2 สามารถติดตามความก้าวหน้า ใผ่รู้ทางวิชาการและเทคโนโลยีของสาขาวิชาที่ศึกษา 2.3 สามารถบูรณาการความรู้ทางวิชาชีพกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 3.1 มีทักษะปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ทางด้านวิชาการหรือวิชาชีพ 3.2 มีทักษะในการนำความรู้มาคิดและใช้อย่างมีระบบ 4.1 มีมนุษยสัมพันธ์และมารยาทสังคมที่ดี 4.2 มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม 4.3 สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม 4.4 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม 5.1 เลือกใช้วิธีการและเครื่องมือสื่อสารได้เหมาะสม 5.2 สืบค้น ศึกษา วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม 5.3 ใช้ภาษาไทยหรือต่างประเทศ ในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องตามกาลเทศะและสอดคล้องกับวัฒนธรรมสากล
1 GEBSC304 วิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.3, 3.2, 4.3, 5.2 - การเข้าชั้นเรียน - ความรับผิดชอบส่งงานที่มอบหมายและความสำเร็จตามกำหนดเวลา ทุกสัปดาห์ 10%
2 2.1, 3.2, 4.3 - การสังเกตพฤติกรรมการทำกิจกรรมในชั้นเรียน (การถามตอบ,การอภิปราย,การทำงานเป็นกลุ่ม) - การร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนออนไลน์ ทุกสัปดาห์ 25%
3 2.1, 3.2 - การทดสอบย่อย - การถามตอบ-ปากเปล่า 2,4,7,11 15%
4 2.1, 3.2, 5.2 - คุณภาพของงานที่มอบหมาย - การนำเสนองานที่มอบหมายและการเลือกใช้สารสนเทศที่เหมาะสม 10-16 20%
5 2.1, 3.2 การสอบกลางภาค 8 15%
6 2.1, 3.2 การสอบปลายภาค 17 15%
ชัยวัฒน์  คุประตกุล. วิทยาศาสตร์ไทย อดีต  ปัจจุบัน  อนาคต. กรุงเทพมหานคร: นำอักษรการพิมพ์, 2528. เติมศักดิ์  เศรษฐวัชรวนิช. วิทยาศาสตร์พัฒนาชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันราชภัฏสวนดุสิต, 2540. ครุปกรณ์  ละเอียดอ่อน . เอกสารประกอบการสอนวิชาวิทยาศาสตร์พัฒนาชีวิต . กรุงเทพ ฯ  :  ธนะการพิมพ์,  2539. ประเวศ วะสี. (2540). สุขภาวะทางจิต สุขภาวะทางจิตวิญญาณ. หมอชาวบ้าน , 41-46. สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร กระทรวาสาธารณสุข. (2550). วารสารการสาธารณสุขไทย2548-2550. โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (2560). สาระสุขภาพ [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก http://www.thaihealth.or.th/NewsHealth.html. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก HTTP: http:// social.nesdb.go.th/SocialStat/StatSubDefault_Final.aspx?catid=3. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2560). สถิติด้านสุขภาพ [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก HTTP: http://www.nesdb.go.th/ewt_news.php?nid=6420 &filename=develop_issue. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560.
ชำนาญ  เชาวกีรติพงศ์. “หน่วยที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย” ในเอกสารประกอบการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย หน่วยที่ 1-7. หน้า 1-52. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ,2534. กุลยา โอตากะ (2547) เคมีในชีวิตประจำวัน. ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ. 420 หน้า นิธิยา รัตนาปนนท์ และวิบูล์ รัตนาปนนท์ (2543) สารพิษในอาหาร, โอเดียนสโตร์, กรุงเทพฯ ประภาศรี เทียนประเสริฐ (2545) สารพิษรอบตัว, สุวีริยาสาส์น, กรุงเทพฯ มุกดา สุขสมาน (2538) ชีวิตกับสภาพแวดล้อม, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กรุงเทพฯ ศิวาพร ศิวเวชช (2546) วัตถุเจือปนอาหาร เล่ม 1, ศูนย์ส่งเสริมและฝึกอบรมการเกษตรแห่งชาติ, นครปฐม คณะกรรมการบริหารวิชาบูรณาการ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป. 2547. สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและชีวิต. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ ไพเราะ  ทิพย์ทัศน์ . ธรรมชาติวิทยา . กรุงเทพ ฯ  :  โรงพิมพ์ชวนพิมพ์  ครั้งที่  2,  2531. มันทนี    ยมจินดา . มนุษย์กับธรรมชาติ . กรุงเทพ ฯ  :  โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,  2539. รศนา  วัชชกิจ . กระบวนการแก้ปัญหาและตัดสินใจเชิงวิทยาศาสตร์ .  พิมพ์ครั้งที่  2  กรุงเทพ ฯ  :  โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,  2536. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช . วิทยาศาสตร์  2  หน่วยที่  8 . กรุงเทพ ฯ  :  สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ,  2527. ยงยุทธ ยุทธวงศ์ และประมวล ตั้งบริบูรณ์รัตน์. 2549. บทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ในสังคมไทย ยีน นาโนเทค ไอทีและสังคมไทย. มูลนิธิบัณฑิตสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย, กรุงเทพฯ. อรัญญา มโนสร้อย และจีรเดช มโนสร้อย (2543) สารใหม่และวิทยาการใหม่ทางเครื่องสำอาง, โอเดียนสโตร์, กรุงเทพฯ. อารัมภ์รัตน์ รัชดานุรักษ์ (2542) วัตถุดิบและส่วนประกอบของผงซักฟอก, วารสาร   จาร์พา, 52(7) : 26-27. www.fda.moph.go.th สำนักควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย, ประเทศไทย. โกวิท วงศ์สุรวัฒน์. (2552). เจนวายคืออะไร. สืบค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2557, จาก http://www. matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act02170652&sectionid=0130&day=2009-06-17. วิจัยคน Gen-Y ในองค์กรพุ่งปี 2559 แนะธุรกิจปรับกลยุทธ์คนรุ่นใหม่-เก่า ต้านปัญหาสมองไหล.(2556). สืบค้นเมื่อ 25 เมษายน 2558, จากhttp://thanachart.in.th/pwc-gen-y-2016 วิทยา ชีวรุโณทัย. (2555). รักและผูกพันเจเนอเรชั่นแซด (Generation Z with love and care). กรุงเทพฯ: ฐานบุ๊คส์. อมราพร สุรการ และ ณัฐวุฒิ อรินทร์ (2557). การดูแลสุขภาพจิต : การมีส่วนร่วมของชุมชน, วารสารมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ปีที่ 6 ฉบับที่ 12 กรกฎาคม - ธันวาคม 2557. หน้าที่ 176-184. ไทยรัฐออนไลน์. 2557. “เรื่องข่าวดีของมนุษย์อายุยืนยาวขึ้นทั่วโลก” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มาhttp://www.thairayh.co.th/content/423513. (19 พฤษภาคม 2557). Pryde, Lucy, T. (1973) Pesticides, Food, and Drugs. Cumming Publishing Company, California, U.S.A. Sackhem, G.I. and Lehman, D.D. (1994) Chemistry for the Health Sciences, 7th ed., Macmillan Publishing Company, U.S.A. Barrangou, Rodolphe, and Jennifer A Doudna. 2016. "Applications of CRISPR Technologies in Research and beyond." Nature Biotechnology 34(9): 933–41. http://www.nature.com/doifinder/10.1038/nbt.3659. "CRISPR-Cas9 Based Therapeutics: Not So Fast." 2015. EBioMedicine 2(5): 365 Lander, Eric S. 2016. “The Heroes of CRISPR.” Cell 164(1–2): 18–28. http://dx.doi.org/10.1016/j.cell.2015.12.041
ให้นักศึกประเมินประสิทธิผลของรายวิชา ได้แก่ วิธีการสอน สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน และผลการเรียนรู้ที่ได้รับพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง โดยผ่านกิจกรรม ดังนี้
1.1) การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน
1.2) แบบประเมินผู้สอน หรือแบบประเมินรายวิชา
อาจารย์ผู้สอนประเมินการสอนของตนเอง โดยดูจากผลการเรียนของนักศึกษา เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง/ปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนและรายวิชาให้ทันเหตุการณ์ปัจจุบัน
อาจารย์ผู้สอนต้องติดตามความก้าวหน้าขององค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง (มีการใช้เอกสารประกอบการสอนที่ย้อนหลังไม่เกิน 5 ปี) หรือเข้าร่วมอบรมสัมมนาการจัดกระบวนการเรียนการ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้กลยุทธ์และวางแผนปรับปรุงการเรียนการสอน
4.1 การทวนสอบโดยอาจารย์ผู้สอนทวนสอบจากคะแนนสอบหรืองานกิจกรรมหรือโครงการบูรณาการที่มอบหมาย หรือ  
4.2 การทวนสอบโดยให้นักศึกษาประเมินการเรียนการสอนในระดับรายวิชา
4.3 มีกระบวนการทวนสอบ ฯ ในระดับกระบวนวิชา ที่สอดคล้องกับหลักสูตร (มคอ.2 หมวด 4 และหมวด 5) ให้ครอบคลุม ครบถ้วน และตรงตามที่หลักสูตรกำหนด
5.1) ทบทวนและปรับปรุงเนื้อหาที่สอน กลยุทธ์การสอนและจัดหาอุปกรณ์สื่อการสอนให้มีความก้าวหน้าตามยุคสมัย
5.2) การประเมินผลผู้เรียนอย่างสม่ำเสมอ จากแบบทดสอบย่อย เพื่อจะได้ปรับปรุงกลยุทธ์การสอนให้เหมาะสมตามสถานการณ์
5.3) การรายงานรายวิชาโดยอาจารย์ผู้สอน หลังการทบทวนประสิทธิผลของรายวิชา อาจารย์ผู้สอนรับผิดชอบในการทบทวนเนื้อหาที่สอนและกลยุทธ์การสอนที่ใช้ และนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาในรายงานรายวิชา (ใน มคอ.5) เสนอต่อหลักสูตรเพื่อพิจารณาให้ความคิดเห็นและสรุปวางแผนพัฒนาปรับปรุงในภาคการศึกษาต่อไป