ประวัติศาสตร์เซรามิกส์

History of Ceramics

รู้ประวัติและลักษณะเฉพาะของเครื่องปั้นดินเผาตะวันออกและตะวันตก และเครื่องปั้นดินเผาไทย ในยุคสมัยต่างๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมเซรามิกส์ และการส่งออกของไทย ความแตกต่างของเครื่องปั้นดินเผาตะวันออกและตะวันตกทั้งในด้านเนื้อดิน น้ำเคลือบ และเทคนิคการผลิต อุตสาหกรรมเซรามิกส์ที่มีชื่อเสียงของประเทศทั่วโลก
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้พื้นฐานด้านประวัติศาสตร์เซรามิกส์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ตลอดจนอุตสาหกรรมเซรามิกส์ให้ทันต่อยุคปัจจุบัน และศึกษาแบบอย่างเซรามิกส์ที่มีชื่อเสียงของโลกเพื่อนำมาพัฒนา คลี่คลายและประยุกต์ใช้ในรายวิชาอื่น
ศึกษาประวัติและลักษณะเฉพาะของเครื่องปั้นดินเผาตะวันออกและตะวันตก และเครื่องปั้นดินเผาไทย ในยุคสมัยต่างๆ รวมทั้งอุตสาหกรรมเซรามิกส์ และการส่งออกของไทย ความแตกต่างของเครื่องปั้นดินเผาตะวันออกและตะวันตกทั้งในด้านเนื้อดิน น้ำเคลือบ และเทคนิคการผลิต อุตสาหกรรมเซรามิกส์ที่มีชื่อเสียงของประเทศทั่วโลก
 -    อาจารย์ประจำรายวิชา  ประกาศเวลาให้คำปรึกษาภายในชั้นเรียน
 -    อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์(เฉพาะรายที่ต้องการ)
พัฒนาผู้เรียนให้มีความรับผิดชอบ มีวินัย มีจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยมีคุณธรรม จริยธรรมตามคุณสมบัติหลักสูตร  ดังนี้

เข้าใจและซาบซึ้งในวัฒนธรรมไทย ตระหนักในคุณค่าของระบบคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต มีวินิย ตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพกฏระเบียบและข้อบังคับต่างๆขององค์กรและสังคม มีภาวะความเป็นผู้นำอละผู้ตาม สามารถทำงานเป็นหมู่คณะสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งตามลำดับความสำคัญ เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ สามารถวิเคราะห์และประเมินผลกระทบจากการใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีต่อบุคคล องค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อม

1.1.5 มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ และมีความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพ รวมถึงเข้าใจถึงบริบททางสังคมของวิชาชีพเทคโนโลยีในแต่ละสาขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
สอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในการสอน รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม สอนความรู้ จรรยาบรรณทางด้านวิชาการและวิชาชีพ ในรายวิชาสอนให้มีระเบียบวินัย ฝึกให้รู้หน้าที่ในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม
ประเมินจากการตรวจสอบแผนการสอนในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม ในทุกวิชา ประเมินจากผลการดำเนินงานตามแผนการสอน และประเมินจากการสังเกตพฤติกรรม
2.1.1  มีความรู้และความเข้าใจทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีพื้นฐาน การบริหารจัดการและเศรษฐศาสตร์เพื่อการประยุกต์ใช้กับงานทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
               2.1.2  มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการที่สำคัญทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติในเนื้อหาของสาขาวิชาเฉพาะด้านทางเทคโนโลยี
               2.1.3  มีความรู้ในวิธีการและการใช้เครื่องมือด้านเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมในการทำงาน
2.1.4 สามารถบูรณาการความรู้ด้านเทคโนโลยีกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม เช่นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นต้น
2.1.5 สามารถใช้ความรู้และทักษาในสาขาวิชาของตน ในการประยุกต์แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานจริงได้
ใช้การเรียนการสอนหลายรูปแบบโดยเน้นหลักการทางทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน โดยทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ให้เป็นไปตามลักษณะของรายวิชาตลอดจนเนื้อหาสาระของรายวิชานั้นๆ นอกจากนี้อาจจัดให้มีการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงโดยการศึกษาดูงานหรือเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาเป็นวิทยากรพิเศษเฉพาะเรื่อง ตลอดจนการฝึกประสบการณ์หรือ ฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการ้รียนและผลการปฏิบัติงานของนักศึกษาในด้านต่างๆคือ
2.3.1   การทดสอบย่อย
2.3.2  การสอบกลางภาคเรียน และปลายภาคเรียน
2.3.3   ประเมินจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำ
2.3.4 ประเมินจากการนำเสนอรายงานในชั้นเรียน
2.3.5 ประเมินจากผลงานที่ปฏิบัติ
2.3.6 ประเมินจากแผนการดำเนินงาน โครงการที่นำเสนอ
2.3.7 ประเมินจากการฝึกประสบการณ์หรือฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการงาน
3.1.1  มีความคิดอย่างมีวิจารณญานที่ดี
3.1.2  มีสามาถรวบรวม ศึกษาวิเคราะห์และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการทางด้านเทคโนโลยี
3.1.3 สามารถคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาทางด้านเทคโนโลยีได้อย่างมีระบบรวมถึงการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.1.4 มีจินตนาการและมีความยืดหยุ่นในการปรับใช้องค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมในการพัฒนานวัตกรรมหรือต่อยอดองค์ความรู้จากเดิมได้อย่างสร้างสรรค์
3.1.5 สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ
ใช้กรณีศึกษา การจัดทำโครงงาน การมอบหมายงานให้นักศึกษาสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์และสรุปข้อมูล การนำเสนองาน โดยอภิปรายเดี่ยวหรือกลุ่ม ร่วมแสดงความคิดเห็น
ประเมินตามสภาพจริงจากผลงานการปฏิบัติงานของนักศึกษา และการนำเสนองาน
4.1.1   สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลายและสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ความรู้ในสาขาวิชาชีพทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารต่อสังคมได้ในประเด็นที่เหมาะสม
4.1.2   สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม พร้อมทั้งแสดงจุดยืนอย่างพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ
4.1.3   สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านเทคโนโลยีทั้งของตนเองและสอดคล้องกับทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
4.1.4   รู้จักบทบาทหน้าที่และมีความรับผิดชอบในการทำงานตามที่มอบหมาย ทั้งงานบุคคลและงานกลุ่ม สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบและมีความรักองค์กร
4.1.5  มีจิตสำนึกความสำนักความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการทำงานด้านเทคโนโลยีและการรักษาสภาพแวดล้อมพลังงาน
สอดแทรกเรื่องความสำคัญของการมีมนุษยสัมพันธ์ มารยาททางสังคม โดยการมอบหมายงานหรือให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อหมุนเวียนกันทำหน้าที่ผู้นำและผู้ตาม เพื่อการเคารพสิทธิและยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น การประสานงานกับบุคคลภายนอก การแสดงความคิดเห็นและการวิพากษ์วิจารณ์งานของผู้อื่น
ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกในการนำเสนองาน ผลงานกลุ่มในชั้นเรียนและประเมินจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่างๆ
5.1.1   มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพได้เป็นอย่างดี
5.1.2   มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ต่อการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างสร้างสรรค์
5.1.3   สามารถใช้เครื่องมือคำนวณและเครื่องมือทางเทคโนโลยีเพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้
5.1.4 มีทักษะในการสื่อสารการนำเสนอข็อมูลทั้งทางวาจา และลายลักษณ์อักษรและการสื่อความหมาย การเลือกใช้สื่อในการนำเสนอที่เหมาะสม
5.1.5 สามารถใช้เครื่องคำนวณและเครื่องมือทางเทคโนโลยีเพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชา ให้นักศึกษาได้วิเคราะห์สถานการ์จำลองและสถานการณ์เสมือนจริง แล้วนำเสนอการแก้ปัญหาที่เหมาะสม เรียนรู้เทคนิคการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศให้นักศึกษาค้นคว้างานที่ต้องอาศัยการประมวลผล โดยการใช้ตัวเลขเพื่อจัดการข้อมูล การนำเสนอที่เหมาะสมกับสภาพของผู้สื่อสาร
ประเมินจากความถูกต้องในการใช้ข้อมูลและตัวเลข การเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม ประเมินจากการอธิบาย การนำเสนอ
6.1.1   มีทักษะปฏิบัติการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พื้นฐานรวมถึงเทคโนโลยีเพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
6.1.2   มีทักษะในการบริหารจัดการการวางแผนการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการปรับปรุงพัฒนาระบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง
6.1.3   สามารถบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกับการทำงาน
6.1.4  สามารถปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ
ใช้วิธีสอนด้วยวิธีคัดลอกแบบ ทำตามแบบและใบงาน การใช้กรณีศึกษา และโครงงาน สร้างสรรค์ผลงานตามแนวทางของการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องด้วยตนเอง
ประเมินตามสภาพจริงโดยประเมินจากการปฏิบัติงานและผลงานที่ได้
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1.ด้านคุณธรรม จริยธรรม 2.ด้านความรู้ 3.ทักษะทางปัญญา 4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5.ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6.ทักษะการปฏิบัติ
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 เข้าใจและซาบซึ้งในวัฒนธรรมไทย ตระหนักในคุณค่าของระบบคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต 1.2 มีวินิย ตรงต่อเวลา รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพกฏระเบียบและข้อบังคับต่างๆขององค์กรและสังคม 1.3มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นหมู่คณะสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งตามลำดับความสำคัญ เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ 1.4 สามารถวิเคราะห์และประเมินผลกระทบจากการใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีต่อบุคคล องค์กร สังคม และสิ่งแวดล้อม 1.5มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ และมีความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพ รวมถึงเข้าใจถึงบริบททางสังคมของวิชาชีพเทคโนโลยีในแต่ละสาขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 2.1มีความรู้และความเข้าใจทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีพื้นฐาน การบริหารจัดการและเศรษฐศาสตร์เพื่อการประยุกต์ใช้กับงานทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี 2.2 มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการที่สำคัญทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติในเนื้อหาของสาขาวิชาเฉพาะด้านทางเทคโนโลยี 2.3มีความรู้ในวิธีการและการใช้เครื่องมือด้านเทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสมในการทำงาน 2.4สามารถบูรณาการความรู้ด้านเทคโนโลยีกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม เช่นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นต้น 2.5สามารถใช้ความรู้และทักษะในสาขาวิชาของตน ในการประยุกต์แก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงานจริงได้ 3.1มีความคิดอย่างมีวิจารณญานที่ดี 3.2สามาถรวบรวม ศึกษาวิเคราะห์และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการทางด้านเทคโนโลยี 3.3สามารถคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาทางด้านเทคโนโลยีได้อย่างมีระบบรวมถึงการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.4มีจินตนาการและมีความยืดหยุ่นในการปรับใช้องค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมในการพัฒนานวัตกรรมหรือต่อยอดองค์ความรู้จากเดิมได้อย่างสร้างสรรค์ 3.5สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ 4.1สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลายและสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ความรู้ในสาขาวิชาชีพทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารต่อสังคมได้ในประเด็นที่เหมาะสม 4.2สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม พร้อมทั้งแสดงจุดยืนอย่างพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ 4.3 สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านเทคโนโลยีทั้งของตนเองและสอดคล้องกับทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง 4.4รู้จักบทบาทหน้าที่และมีความรับผิดชอบในการทำงานตามที่มอบหมาย ทั้งงานบุคคลและงานกลุ่ม สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบและมีความรักองค์กร 4.5มีจิตสำนึกความสำนักความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการทำงานด้านเทคโนโลยีและการรักษาสภาพแวดล้อมพลังงาน 5.1มีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพได้เป็นอย่างดี 5.2มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ต่อการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างสร้างสรรค์ 5.3 สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ 5.4 มีทักษะในการสื่อสารการนำเสนอข็อมูลทั้งทางวาจา และลายลักษณ์อักษรและการสื่อความหมาย การเลือกใช้สื่อในการนำเสนอที่เหมาะสม 5.5สามารถใช้เครื่องคำนวณและเครื่องมือทางเทคโนโลยีเพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องได้ 6.1มีทักษะปฏิบัติการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์พื้นฐานรวมถึงเทคโนโลยีเพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย 6.2มีทักษะในการบริหารจัดการการวางแผนการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งการปรับปรุงพัฒนาระบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง 6.3สามารถบูรณาการการเรียนรู้ร่วมกับการทำงาน 6.4มีทักษะปฏิติและความสามารถในการทำงานรูปแบบโครงงาน (Project Oriented) 6.5สามารถปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ
1 BTECE204 ประวัติศาสตร์เซรามิกส์
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 2.1,3.5,1,5.3,5.5 สอบกลางภาค สอบปลายภาค สัปดาห์ที่ 8 สัปดาห์ที่ 16 สอบกลางภาค 20% สอบปลายภาค 20%
2 4.4 การส่งภาพชิ้นงานในประวัติศาสตร์แหล่งต่างๆ ตลอดภาคการศึกษา 50%
3 1.1,1.2,1.5, การเข้าชั้นเรียน การแต่งกาย การส่งงานตามเวลาที่กำหนด ตลอดภาคการศึกษา 10%
1. จอห์น ซี ชอว์ แปลโดย สมพร วาร์นาโด เอมอร ตรูวิเชียร และอุษณีย์ ธงไชย. (มปป.) เครื่องปั้นดินเผาไทย เอกสารวิชาการชุดเครื่องปั้นดินเผา ลำดับที่ 1 ศูนย์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. มปท.
2 .บริษัทโอสถสภา (เต็กเฮงหยู) จำกัด (มปป.) เครื่องถ้วยในเอเชียอาคเนย์ ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 15-22 กรุงเทพ : รุ่งเรืองรัตนา
3.ปริวรรต ธรรมาปรีชากร และกฎษดา พิณศรี. (2533) เครื่องถ้วยในประเทศ. กรุงเทพฯ: แอคมี พริ้นติ้ง.
4.ปริวรรต  ธรรมาปรีชากร สว่าง เลิศฤทธิ์ และกฤษฎา  พิณศรี. (2539)ครั้งที่ 2. ศิลปะเครื่อง               ถ้วยในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : กราฟิคฟอร์แมท
5. เปี่ยมสุข  เหรียญรุ่งเรือง. (มปป.)  ประวัติศาสตร์เครื่องปั้นดินเผา เล่ม 1 ยุคโบราณและตะวันออกไกล. (เอกสารคำสอนประกอบรายวิชาประวัติเครื่องเคลือบดินเผา) คณะมัณฑนะศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.
6. ภุชชงค์ จันทวิช, ณัฏฐภัทร จันทวิช และสิงห์คม หงษ์จินตกุล. (บรรณาธิการ) (2542) เครื่องถ้วยเบญจรงค์และลายน้ำทอง (โครงการสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย). กรุงเทพฯ : มรดกไทย.
7. ศรีศักร  วัลลิโภดม. และคณะ (2528) เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบกับการพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมของสยาม : โครงการศิลปอุตสาหกรรมไทยชุดที่ 1. กรุงเทพฯ : รุ่งเรืองรัตน์
8.สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติร่วมกับวิทยาลัยครูเชียงใหม่และศูนย์วัฒนธรรมประจำจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ. (2524). เชิดชูเกียรตินายไกรศรี นิมมานเหมินทร์. ไตรรงค์การพิมพ์.
9. สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรมศิลปากร. (2539). โบราณคดีวิเคราะห์2 : เครื่องถ้วยบุรีรัมย์และเครื่องถ้วยสุโขทัย. กรุงเทพฯ: ดอกเบี้ย.
10. สถาบันราชภัฏอุดรธานี.(2539). บ้านเชียง : ทศวรรษใหม่ในการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดี. เอกสารประกอบการสัมมนาทางวิชาก. อุดรธานี : สถาบันราชภัฏอุดรธานี.
11. สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (2544) แผนแม่บทอุตสาหกรรมเซรามิกส์. แผ่นบันทึกข้อมูล โปรแกรมพาวเวอร์พอยท์
12.สาโรจน์  มีวงษ์สม.(2541). เครื่องถ้วยในประเทศไทย. กรุงเทพ : เอส ที พี เวิลด์ มีเดีย.
13. สุจิตต์  วงษ์เทศ(บรรณาธิการ). (2528). เครื่องปั้นดินเผาและเครื่องเคลือบกับการพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมของสยาม. กรุงเทพฯ : รุ่งเรืองรัตน์
14. สุรพล  พิทักษ์ลิ้มสกุล. (มกราคม-เมษายน 2546) โลกกว้างทางเซรามิกส์ : เซรามิกส์ของโลกอิสลาม. วารสารเซรามิกส์.
15.ห้องปฏิบัติการเครือข่ายเซรามิก เนื้อดิน และเคลือบ ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผา และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ. (2544) “เทคนิคการทำเคลือบสไตล์ญี่ปุ่น.”ลำปาง : จิตวัฒนาการพิมพ์.
16. Andrews,Tim.(1997). Raku. Singapore ; Tien Wah Press.
17. Ayers J. (1980). Far Eastern Ceramics in the Victoria and Albert Museum. (2nd. ed.). Japan:
18.Brown M. Roxanna (1988). The Ceramics of South-East Asia Their Dating and Identification . (2nd ed) Singapore : Oxford University
19.Cooper, Emmanuel. (2000).Ten Thousand Years of Pottery. 4ed. London ; British Museum Press.
20. Diana  Stock. (1981). Khmer Ceramics 9 th-14 th Century. Singapore : Southeast Asian Ceramic Society.
21. Emmauel Cooper. (2000) rd. Ten Thousand years of Pottery London : British Museum.
22. Graham Flight. (1991).Introduction To Ceramics. New Jersey : Prentice Hall.
23.Guy John. (1989). Ceramic Traditions of South-East Asia. Newyork : Oxford University Press.
24. Li Hi. (1996). Chinese Ceramics. Singapore ;Thame and Hudson - Manners, Errol.(1990). Ceramics Source Book. Hongkong ; Regent Publishing.
25.Manners, Errol and Morley-Fletcher, Hugo.(1995).rv. Ceramics Source Book. Singapore ; Star Standard Industries.
26.Rice M, Prudence. (1987). Pottery Analysis. Chicago: The University of Chicago Press.
27. Robert, j Charleston. (1990)  World Ceramics an Illustrated History (20 th) London : The Hamlyn Pulishing Group Limited.
28. Robinson V. Natalie. (1982).Sino-Thai Ceramics. Bangkok : United Production.
29.http://en.wikipedia.org/wiki/Korean_pottery
30.http://www.e-yakimono.net/guide/html/bizen.html
31.http://www.kougei.or.jp/english/crafts/0418/f0418.html
32.http://www.metmuseum.org/toah/hd/chpo/hd_chpo.htm
ไม่มี
เวบไซต์เนื้อหาตามเนื้อหาการเรียนรู้
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาไว้ดังนี้

การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์  ดังนี้
2.1   การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมสอน
2.2   ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3   การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ  2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน  ดังนี้
3.1   สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการ ทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
4.1  การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร
4.2   มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา  ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา  ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชา  เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น  ดังนี้
5.1   ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2   เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์