การแปลเชิงธุรกิจ

Business Translation

เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจในการแปลข้อเขียนต่างๆ ทางธุรกิจ รูปแบบและการจัดเรียงข้อความ คำศัพท์สำคัญทางธุรกิจ ทั้งจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย และจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ
2.1 นำผลการประเมินรายวิชาจากครั้งก่อน (ภาค 1/2562) มาปรับปรุงในแต่ละด้าน ดังนี้
      ด้านการสอน - การถ่ายทอดความรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายและอธิบายได้ชัดเจนเข้าใจง่าย (4.8)
     ปรับปรุงโดยจัดทำแบบฝึกปฏิบัติให้นักศึกษาได้ฝึกหัดเสริมในชั้นเรียน และแนะนำแหล่งข้อมูลที่นศ.สามารถหาความรู้เพิ่มเติมในหัวข้อที่สนใจ ทั้งในชั้นเรียนและใน online classroom
      ด้านสื่อการสอน - มีสื่อการสอนและอุปกรณ์ที่น่าสนใจ เข้าใจได้ง่าย (4.8)
      ปรับปรุงโดยจัดหาตัวอย่างเอกสารทางธุรกิจประกอบการอธิบายให้มากขึ้น
       ด้านการประเมิน - มีการประเมินผลงานนักศึกษาอย่างสม่ำเสมอ แจ้งผลสอบให้ทราบและได้ชี้แจงปรับปรุง (4.8)
       ปรับปรุงโดยชี้แจงเกณฑ์ในการประเมินผลงานแปล งานมอบหมาย พร้อมทั้งแนวทางปรับปรุงผลงานให้นักศึกษาทราบอย่างสม่ำเสมอ
2.2 บูรณาการกับผลการวิจัยเรื่อง “ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐานด้วยหลักการ 3 ระยะต่อเนื่อง” เพื่อให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมีศักยภาพในการใช้ ICT เพื่อการเรียนรู้ การพัฒนาตนเองและการทำงาน
การแปลข้อเขียนต่าง ๆ ทางธุรกิจ รูปแบบและการจัดเรียงข้อความ คำศัพท์สำคัญทางธุรกิจ จากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ และจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย
- จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- สร้างชั้นเรียนใน Google Classroom เพื่อเป็นช่องทางติดต่อกับนักศึกษา และเป็นพื้นที่สำหรับให้คำแนะนำแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงงานมอบหมายต่าง ๆ
ส่งเสริมผู้เรียนให้พัฒนาคุณธรรมจริยธรรมไปพร้อมกับวิทยาการ โดยเน้นที่
1.1.1 ความมีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือวิชาชีพ
1.1.2 ความมีวินัย ขยัน อดทน ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม
1.2.1 ให้ความรู้เกี่ยวกับหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพการแปลในเนื้อหาของบทเรียน
1.2.2 สร้างความมีวินัย ความขยัน และความตรงต่อเวลา โดยกำหนดเกณฑ์ให้นักศึกษาเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ รวมถึงการส่งงานตรงตามกำหนดเวลา
1.2.3 เสริมสร้างความรับผิดชอบต่อตนเองให้กับนักศึกษา โดยการแจ้งเกณฑ์การประเมินผลงานให้นักศึกษาได้รับทราบล่วงหน้า เพื่อให้นักศึกษาได้ผลิตผลงานตามเกณฑ์ และรับผิดชอบต่อผลงานของตนเอง
1.3.1 ความเข้าใจในเรื่องจรรยาบรรณทางวิชาชีพ วัดจากการสอบกลางภาคและปลายภาค และจากผลงานข้อเขียนที่มอบหมาย
1.3.2 ความมีวินัยและความขยัน วัดจากความตรงต่อเวลาในการเข้าชั้นเรียน ความสม่ำเสมอในการเข้าชั้นเรียน และการส่งงานมอบหมายตรงเวลาที่กำหนด
1.3.3 ความรับผิดชอบต่อตนเอง ดูจากผลการทำงานมอบหมายและการร่วมอภิปรายในชั้นเรียน
พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้และความเข้าใจในเนื้อหาของรายวิชา
2.1.1 ด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาของรายวิชา โดยทางทฤษฎีเน้นความรู้ความเข้าใจในเรื่องลักษณะของข้อเขียนทางธุรกิจ หลักการแปลข้อเขียนทางธุรกิจ ส่วนในทางปฏิบัติ เน้นการฝึกแปลข้อเขียนทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย และภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ
2.1.2 ด้านการนำความรู้ทางการแปล ไปบูรณาการกับความรู้ในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทางธุรกิจ เช่น การจัดการ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การตลาด การค้าระหว่างประเทศ การโฆษณา ฯลฯ
ยึดหลักการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย
2.2.1 ให้ความรู้แก่นักศึกษาในบทเรียนต่าง ๆ แล้วให้ฝึกวิเคราะห์ ปฏิบัติการแปลตามกิจกรรมที่กำหนดในบทเรียน โดยผู้สอนให้คำอธิบายประเด็นสำคัญต่าง ๆ ในบทเรียน เพื่อสร้างความเข้าใจก่อนฝึกปฏิบัติ
2.2.2 ให้นักศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
2.2.3 ให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติการแปลเอกสารทางธุรกิจประเภทต่างๆ ที่กำหนดให้และที่เลือกเอง
2.3.1 ความรู้ด้านทฤษฎี วัดจากผลการทดสอบย่อย / สอบกลางภาค / สอบปลายภาค
2.3.2 ความรู้ด้านการปฏิบัติ วัดจากผลงานการฝึกปฏิบัติการแปลข้อเขียนทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ ทั้งในและนอกชั้นเรียน
2.3.3 ผลงานการนำความรู้และทักษะทางการแปล ไปบูรณาการกับความรู้ในศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทางธุรกิจ เช่น การจัดการ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การตลาด การค้าระหว่างประเทศ การโฆษณา ฯลฯ
พัฒนาผู้เรียนให้เกิดทักษะการปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ด้านวิชาการ ที่ได้รับจากการศึกษาเนื้อหาในบทเรียน และจากการค้นคว้าเพิ่มเติมนอกชั้นเรียน มาใช้ในการแปลงานเขียนทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ ในระดับประโยค ย่อหน้า และข้อความ โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือช่วยในการค้นคว้า
ยึดหลักการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ โดยใช้โครงงานเป็นฐาน
3.2.1 ให้นักศึกษาวิเคราะห์งานแปลและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานแปลข้อเขียนทางธุรกิจ
3.2.2 ให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติการแปลเอกสารจริง ทั้งเอกสารที่กำหนดให้และที่เลือกเอง
ผลงานการแปลเอกสารทางธุรกิจประเภทต่าง ๆ
ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักนำความรู้ในศาสตร์ของตน มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
จัดให้นักศึกษาได้ทำฝึกปฏิบัติการแปลเอกสารทางธุรกิจและนำผลงานมาเผยแพร่ทางสื่อต่าง ๆ
สังเกตจากพฤติกรรมและผลงานของนักศึกษา
พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้และทักษะในการใช้เทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาค้นคว้า ศึกษา วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการแปลอย่างเหมาะสม และสามารถใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับบริบท
กำหนดให้นักศึกษาค้นคว้าข้อมูล และใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการแปลงานทางธุรกิจประเภทต่างๆ โดยบูรณาการกับผลการวิจัยเรื่อง “ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐานด้วยหลักการ 3 ระยะต่อเนื่อง”
ประเมินจากผลงานและการฝึกปฏิบัติของนักศึกษา
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา คุณธรรมจริยธรรม ความรู้ ทักษะทางปัญญา ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 1 2 3 4 1 2 3
1 13031037 การแปลเชิงธุรกิจ
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.3 การเข้าชั้นเรียน และการส่งงานมอบหมายตรงเวลาที่กำหนด ตลอดภาคการศึกษา 10%
2 1.2,2.1 การสอบกลางภาค 4 15%
3 1.2,2.1 การสอบปลายภาค 17 15%
4 1.2,2.1 กิจกรรมฝึกปฏิบัติในชั้นเรียน 2-1,9-16 15%
5 2.3,3.3,5.3 งานมอบหมาย (การแปลเอกสารทางธุรกิจ) 5-16 45%
เอกสารประกอบการสอนวิชาการแปลเชิงธุรกิจ
1.    ทิพา เทพอัครพงศ์. 2547. การแปลเบื้องต้น. กรุงเทพฯ.  สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
2.    พิมพา เวสสะโกศล. 2555. การแปลภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ. กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์ม.ธรรมศาสตร์.
3.    ประเทือง ทินรัตน์. 2543. การแปลเชิงปฏิบัติ. กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
4.    ปัญญา บริสุทธิ์. 2540. ทฤษฎีและวิธีปฏิบัติในการแปล. กรุงเทพฯ ราชบัณฑิตยสถาน.
5.    มณีรัตน์ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา. 2548. การแปล: หลักการและการวิเคราะห์. กรุงเทพฯ  สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
6.    รัชนีโรจน์ กุลธำรง. 2552. ความรู้ความเข้าใจเรื่องภาษาเพื่อการแปล.  กรุงเทพฯ  สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
7.    วรรณา แสงอร่ามเรือง. 2542. ทฤษฎีและหลักการแปล. กรุงเทพฯ โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
8.    สิทธา พินิจภูวดล. 2542. คู่มือนักแปลอาชีพ. กรุงเทพฯ บริษัทนานมีบุ๊คส์ จำกัด.
9.    สุพรรณี  ปิ่นมณี. 2546. การแปลขั้นสูง. กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
10.  สุพรรณี ปิ่นมณี. 2555. แปลผิด->แปลถูก. กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
11.  Gerding-Salas, C. 2000. “Teaching translation: Problems and solutions,” Translation Journal Vol. 4 No. 3 July 2002. http://accurapid.com/journal/13educ.htm
12.  Gurdial Singh, K.K. 2005. “A competent translator and effective knowledge transfer,” Translation Journal. http://accurapid.com/journal/34edu.htm
13.  Osimo, B. 2004. Translation. http://www.logos.it/translation_course/index_en.html
14.  Razmjou, L. “To be a good translator,” http://www.translationdirectory.com/
15.  Rubrecht, B. 2005. “Knowing before learning,” Translation Journal. http://accurapid.com/journal/32edu.htm
16.  เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาและการแปลภาษา
 
การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาที่จัดทำโดยนักศึกษาได้จากกิจกรรมดังต่อไปนี้
1.1 แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
1.2 ข้อเสนอแนะที่อาจารย์ผู้สอนได้จากนักศึกษาผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ
การเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอนมีกลยุทธ์ดังต่อไปนี้
2.1 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.2 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
3.1 นำผลประเมินการสอนที่ได้จากภาคเรียนที่ 1/2562 มาปรับปรุงในด้านการสอน สื่อการสอน และการประเมินผล จัดให้มีสื่อการสอน แบบฝึกปฏิบัติ และช่องทางในการเข้าถึงสื่อต่าง ๆ มากขึ้น
3.2 นำผลการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนเรื่อง “ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนโดยใช้เทคโนโลยีเป็นฐานด้วยหลักการ 3 ระยะต่อเนื่อง” มาบูรณาการในกิจกรรมการเรียนการสอน
3.3 ใช้เกณฑ์การประเมินผลงานแบบ Rubrics โดยแจ้งเกณฑ์ให้นักศึกษาทราบล่วงหน้า
4.1 ก่อนเริ่มการสอน มีการตรวจสอบมคอ.3 โดยหัวหน้าหลักสูตรและหัวหน้าสาขา ว่ามีมาตรฐานผลสัมฤทธิ์เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในมคอ. 2 ของหลักสูตร
4.2 ในระหว่างการสอน มีการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามที่คาดหวังจากกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ในรายวิชา และข้อสอบที่จะใช้สอบวัดผลสัมฤทธิ์ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
4.3 หลังการสอน มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบมคอ. 3 มคอ. 5 ข้อสอบ เกณฑ์การให้คะแนน ผลการเรียน และผลจากงานมอบหมาย
นำผลการประเมินและทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา มาวางแผนปรับปรุงการสอนและรายละเอียดของรายวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น โดยมีการปรับปรุงรายวิชาทุกปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 1-4