การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม
Cross Cultural Communication
1.1 เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาแนวคิดและทฤษฎีการสื่อสาร และการสื่อสารระหว่างและข้ามวัฒนธรรม
1.2 เพื่อให้นักศึกษาได้นำแนวคิดและทฤษฎีการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ในการในพื้นที่และประเทศต่างวัฒนธรรม ทั้งด้านการสื่อสารทางธุรกิจและมารยาทต่างวัฒนธรรม
1.3 เพื่อให้นักศึกษาสามารถวิเคราะห์สความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและความคิดรพหว่างโลกตะวันออกกับตะวันตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถนำเสนอในห้องเรียนและต่อสาธารณชนได้
2.1 เพื่อให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการรู้เท่าทันวัฒนธรรมในยุคโลกาภิวัฒน์ ยุคดิจิทัล และยุค Technology disruption
2.2 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารข้ามวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องได้
2.2 เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสื่อสารข้ามวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องได้
มโนทัศน์ของการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมและข้ามวัฒนธรรม ทฤษฎีของการสื่อสารและการสื่อสารแบบวัจนะและอวัจนะ กลวิธีสื่อสารในประเทศต่างวัฒนธรรม มิติที่แตกต่างด้านวัฒนธรรมและความคิดระหว่างโลกตะวันออกกับตะวันตก การสื่อสารทางธุรกิจและมารยาทต่างวัฒนธรรม
หมายเหตุ :
1. นักศึกษาต้องแบ่งกลุ่มเพื่อทำงานศึกษาการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ไม่เกินกลุ่มละ 6 คน เท่านั้น หากมีจำนวนนักศึกษาเกินให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอน
2. มีการนำเสนองานรายกลุ่มและการนำเสนอต่อสาธารณชน 1 ครั้งด้วยการจัดนิทรรศการและเสวนาด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม โดยแต่ละกลุ่มต้องจัดทำรายงานสรุป และในการเตรียมงานต้องผ่านการปรึกษาจากอาจารย์ผู้สอน อย่างน้อย 3 ครั้ง ก่อนการนำเสนอผลงานภายในสัปดาห์ที่ 15 และต้องมีหลักฐานการเข้าพบอาจารย์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร
3. วิชาการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมมีการจัดการเรียนการสอนภาคทฤษฎี 10 สัปดาห์ และมีการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติโดยผ่านการให้คำปรึกษาของอาจารย์ผู้สอน 5 สัปดาห์และการส่งรายงานในการนำเสนอผลงานต่อสาธารณชนรายกลุ่ม โดยมีการนำเสนอ การเสวนาเรื่องการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมจากวิทยากรภายในหรือภายนอก โดยมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกไม่น้อยกว่า 100 คน พร้อมส่งรายงาน ภายในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน ในวันศุกร์ สุดท้ายและไม่เกินเวลา 12.00 น.
4. นักศึกษาต้องแต่งกายถูกต้องตามระเบียบมหาวิทยาลัยเท่านั้น สีผมธรรมชาติและไม่ไว้หนวดเครา ห้ามใช้โทรศัพท์หรือเปิดเสียงโทรศัพท์ในห้องเรียน หากพบผู้ฝ่าฝืนจะหักคะแนนต่อครั้งไม่เกิน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 4 จะไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียนและส่งชื่อไม่มีสิทธิ์สอบ
5. การเข้าห้องเรียนหลังจากมีการเรียนการสอนสายเกิน 15 นาทีถือว่ามาสาย โดยการมาสาย 2 ครั้ง นับเป็น 1 การขาดเรียน ทั้งนี้ขาดเรียนเกิน 3 ครั้ง จะส่งชื่อไม่มีสิทธิ์สอบในรายวิชาทันที
หมายเหตุ :
1. นักศึกษาต้องแบ่งกลุ่มเพื่อทำงานศึกษาการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ไม่เกินกลุ่มละ 6 คน เท่านั้น หากมีจำนวนนักศึกษาเกินให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอน
2. มีการนำเสนองานรายกลุ่มและการนำเสนอต่อสาธารณชน 1 ครั้งด้วยการจัดนิทรรศการและเสวนาด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม โดยแต่ละกลุ่มต้องจัดทำรายงานสรุป และในการเตรียมงานต้องผ่านการปรึกษาจากอาจารย์ผู้สอน อย่างน้อย 3 ครั้ง ก่อนการนำเสนอผลงานภายในสัปดาห์ที่ 15 และต้องมีหลักฐานการเข้าพบอาจารย์ที่เป็นลายลักษณ์อักษร
3. วิชาการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมมีการจัดการเรียนการสอนภาคทฤษฎี 10 สัปดาห์ และมีการจัดการเรียนการสอนภาคปฏิบัติโดยผ่านการให้คำปรึกษาของอาจารย์ผู้สอน 5 สัปดาห์และการส่งรายงานในการนำเสนอผลงานต่อสาธารณชนรายกลุ่ม โดยมีการนำเสนอ การเสวนาเรื่องการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมจากวิทยากรภายในหรือภายนอก โดยมีผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกไม่น้อยกว่า 100 คน พร้อมส่งรายงาน ภายในสัปดาห์สุดท้ายของการเรียนการสอน ในวันศุกร์ สุดท้ายและไม่เกินเวลา 12.00 น.
4. นักศึกษาต้องแต่งกายถูกต้องตามระเบียบมหาวิทยาลัยเท่านั้น สีผมธรรมชาติและไม่ไว้หนวดเครา ห้ามใช้โทรศัพท์หรือเปิดเสียงโทรศัพท์ในห้องเรียน หากพบผู้ฝ่าฝืนจะหักคะแนนต่อครั้งไม่เกิน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 4 จะไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียนและส่งชื่อไม่มีสิทธิ์สอบ
5. การเข้าห้องเรียนหลังจากมีการเรียนการสอนสายเกิน 15 นาทีถือว่ามาสาย โดยการมาสาย 2 ครั้ง นับเป็น 1 การขาดเรียน ทั้งนี้ขาดเรียนเกิน 3 ครั้ง จะส่งชื่อไม่มีสิทธิ์สอบในรายวิชาทันที
-อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์(เฉพาะรายที่ต้องการ)
1. มีความซื่อสัตย์ สุจริต และสามารถจัดการปัญหาด้านจริยธรรม และความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ที่ได้รับกับจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
2. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ และแสดงออกซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน และการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
3. มีความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นสมาชิกที่ดี และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น และมีภาวะผู้นำ
4. มีวินัย มีความตรงต่อเวลา ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับขององค์กรและสังคม
2. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ และแสดงออกซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมในการปฏิบัติงาน และการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ
3. มีความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นสมาชิกที่ดี และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อการพัฒนาเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น และมีภาวะผู้นำ
4. มีวินัย มีความตรงต่อเวลา ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับขององค์กรและสังคม
-สอนคุณธรรม จริยธรรมสอดแทรกในบทเรียนวิชาเฉพาะ
-สอนโดยใช้กรณีศึกษาและอภิปรายร่วมกัน
-การแสดงออกอันเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้สอน
-สอนโดยใช้กรณีศึกษาและอภิปรายร่วมกัน
-การแสดงออกอันเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้สอน
-สังเกตการแสดงพฤติกรรมระหว่างผู้เรียนร่วมกันและกับผู้สอนทุกคน
-ทำงานเป็นกลุ่ม และรายงานผลงาน
-ทำงานเป็นกลุ่ม และรายงานผลงาน
1. มีความรู้ในสาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม ทั้งภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบัติอย่างกว้างขวาง เป็นระบบ เป็นสากล และทันสมัยต่อสถานการณ์โลก
2. มีความรู้ที่เกิดจากการบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. มีความรู้ในกระบวนการ และเทคนิคการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาและต่อยอด องค์ความรู้ในงานอาชีพ
2. มีความรู้ที่เกิดจากการบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
3. มีความรู้ในกระบวนการ และเทคนิคการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาและต่อยอด องค์ความรู้ในงานอาชีพ
-การบรรยายภายในชั้นเรียน และการถาม-ตอบ
-ทำรายงานเปรียบเทียบความรู้จากห้องเรียนกับการทำงานจริงภาคปฏิบัติ
-อภิปรายเป็นกลุ่ม โดยให้ผู้สอนตั้งคำถามตามระบบการสอนยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
-การศึกษานอกสถานที่และทำรายงาน
-ทำรายงานเปรียบเทียบความรู้จากห้องเรียนกับการทำงานจริงภาคปฏิบัติ
-อภิปรายเป็นกลุ่ม โดยให้ผู้สอนตั้งคำถามตามระบบการสอนยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
-การศึกษานอกสถานที่และทำรายงาน
-ทดสอบโดยการสอบข้อเขียนกลางภาคและปลายภาค
-ประเมินผลจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายและรายงาน
-ประเมินจากรายงานที่ให้ค้นคว้า
-ประเมินผลจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายและรายงาน
-ประเมินจากรายงานที่ให้ค้นคว้า
1. มีความสามารถประมวล และศึกษาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา ข้อโต้แย้ง และสังเคราะห์ได้อย่างถูกต้องตามหลักการ และตามขั้นตอนเชิงวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก
2. มีความสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ไปใช้ประโยชน์ในการฝึกประสบการณ์ภาคสนามและการปฏิบัติงานจริงตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
3. มีสามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมจากภาคธุรกิจและศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้องมาเพื่อพัฒนาทักษะการทำงานให้เกิดประสิทธิผล
2. มีความสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ไปใช้ประโยชน์ในการฝึกประสบการณ์ภาคสนามและการปฏิบัติงานจริงตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม
3. มีสามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมจากภาคธุรกิจและศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้องมาเพื่อพัฒนาทักษะการทำงานให้เกิดประสิทธิผล
-การอภิปรายเป็นกลุ่ม
-การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ค้นคว้าหรืองานเกี่ยวกับการพัฒนาเป็นทีม
-การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ค้นคว้าหรืองานเกี่ยวกับการพัฒนาเป็นทีม
-ประเมินผลจากผลงานที่มอบหมายให้ทำ
-การเขียนรายงาน
-การเขียนรายงาน
1. มีความสามารถในการปฏิบัติและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่และบทบาทของตนในกลุ่มงานได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ร่วมงานและแก้ไขปัญหากลุ่ม
2. มีสามารถในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง และตรงตามมาตรฐานสากล
3. มีความสามารถทำงานร่วมกับผู้ร่วมวิชาชีพทุกระดับในสภาพสังคมการทำงานที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
2. มีสามารถในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง และตรงตามมาตรฐานสากล
3. มีความสามารถทำงานร่วมกับผู้ร่วมวิชาชีพทุกระดับในสภาพสังคมการทำงานที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม
-มอบหมายงานเป็นกลุ่มย่อย และแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยหมุนเวียนกันในกลุ่ม
-สอนโดยใช้กรณีศึกษา
-สอนโดยใช้กรณีศึกษา
-ประเมินจากผลงานของกลุ่มและผลงานของผู้เรียนในกลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ทำงาน
-สังเกตพฤติกรรมในการเรียน
-สังเกตพฤติกรรมในการเรียน
1. สามารถใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียนและการสรุปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. มีความสามารถในการสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์และวัฒนธรรม
3. มีความสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดต่อสื่อสาร รู้จักเลือกรูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับเรื่อง และผู้ฟังที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. มีความสามารถในการสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์และวัฒนธรรม
3. มีความสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดต่อสื่อสาร รู้จักเลือกรูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับเรื่อง และผู้ฟังที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-นำเสนอผลงานที่ค้นคว้าและอภิปรายด้วยตนเองหรือแบบกลุ่มในห้องเรียน
-บูรณาการการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครือข่าย และซอฟต์แวร์หรือสื่อต่าง ๆ
-บูรณาการการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เครือข่าย และซอฟต์แวร์หรือสื่อต่าง ๆ
-ประเมินผลจากการนำเสนอผลงาน
-ประเมินผลจากการสรุปหัวข้อที่มอบหมายให้ค้นคว้า
-ประเมินผลจากการสรุปหัวข้อที่มอบหมายให้ค้นคว้า
1. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานขั้นพื้นฐานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและบริการ
2. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามตำแหน่งงานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและบริการ
3. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามสมรรถนะวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและบริการที่มีมาตรฐานและเป็นสากล
2. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามตำแหน่งงานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและบริการ
3. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามสมรรถนะวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและบริการที่มีมาตรฐานและเป็นสากล
-ทดสอบทักษะทางวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการโดยการสอบปฏิบัติ
ประเมินผลจากการสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติ
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา | 1. ด้านคุณธรรมจริยธรรม | 2. ด้านความรู้ | 3. ด้านทักษะทางปัญญา | 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ | 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ | 6. ด้านทักษะในการปฏิบัติงานในวิชาชีพได้อย่างมืออาชีพ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รหัสวิชา | ชื่อวิชา | 1. มีความซื่อสัตย์ สุจริต และสามารถจัดการปัญหาด้านจริยธรรม และความขัดแย้งระหว่างผลประโยชน์ที่ได้รับกับจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ | 2. มีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ และแสดงออกซึ่งคุณธรรมและจริยธรรมในการ ปฏิบัติงาน และการปฏิบัติตนต่อผู้อื่นอย่างสม่ำเสมอ | 3. มีความรับผิดชอบในหน้าที่ เป็นสมาชิกที่ดี และมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อ การพัฒนาเป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้อื่น และมีภาวะผู้นำ | 4. มีวินัยในการทำงาน และปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับขององค์กรและสังคม | 1. มีความรู้ในสาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม ทั้งภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบัติอย่างกว้างขวาง เป็นระบบ เป็นสากล และทันสมัยต่อสถานการณ์โลก | 2. มีความรู้ที่เกิดจากการบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง | 3. มีความรู้ในกระบวนการ และเทคนิคการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาและต่อยอด องค์ความรู้ในงานอาชีพ | 1. มีความสามารถประมวล และศึกษาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา ข้อโต้แย้ง และสังเคราะห์ได้อย่างถูกต้องตามหลักการ และตามขั้นตอนเชิงวิทยาศาสตร์ รวมทั้งหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก | 2. มีความสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ไปใช้ประโยชน์ในการฝึกประสบการณ์ภาคสนาม และการปฏิบัติงานจริงตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม | 3. มีความสามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมจากภาคธุรกิจ และจากศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมา เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานให้เกิดประสิทธิผล | 1. มีความสามารถในการปฏิบัติและรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายตามหน้าที่และบทบาทของตน ในกลุ่มงานได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ร่วมงานและแก้ไขปัญหาได้ | 2. มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง และตรงตามมาตรฐานสากล | 3. มีความสามารถทำงานร่วมกับผู้ร่วมวิชาชีพทุกระดับในสภาพสังคมการทำงานที่หลากหลายได้อย่างเหมาะสม | 1. มีความสามารถในการใช้ภาษาไทย และภาษาต่างประเทศในการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และการสรุปประเด็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ | 2. มีความสามารถในการสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างเหมาะสมตามสถานการณ์และวัฒนธรรม | 3. มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการติดต่อสื่อสาร รู้จักเลือกรูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับเรื่อง และผู้ฟังที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ | 1. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานขั้นพื้นฐานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการ | 2. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามตำแหน่งงานของบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการ | 3. มีทักษะและสามารถปฏิบัติงานตามสมรรถนะวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวและการบริการที่มีมาตรฐานและเป็นสากล |
1 | BOACC102 | การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม |
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | 1.1, 4.1 | สังเกตการแสดงพฤติกรรมระหว่างผู้เรียน | ตลอดภาคการศึกษา | 5 |
2 | 2.2 | ทดสอบโดยการสอบข้อเขียนกลางภาค | 9 | 25 |
3 | 2.1, 3.2,5.2,6.2 | ประเมินผลจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายในกิจกรรมการเรียนการสอน | 10-12 | 15 |
4 | 1.1,2.2,3.2,4.1,5.1,6.1 | ประเมินผลจากผลงานนำเสนอต่อสาธารณะชน | 14-15 | 20 |
5 | 2.2,3.2,4.1,5.1,6.1 | ประเมินผลจากรายงานการนำเสนอผลงาน | 16 | 10 |
6 | 2.2,3.2 | ข้อสอบปลายภาค | 17 | 25 |
อรไท ครุธเวโช. (2562). การสื่อสารข้ามวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว. เชียงใหม่: มทร.ล้านนา.
เมตตา วิวัฒนานุกูล. (2559). การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วิทยานิพนธ์ระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารข้ามและระหว่างวัฒนธรรม ตลอดจนรายงานด้านวัฒนธรรมของหน่วยงานราชการ
วารสารด้านการวิจัยเกี่ยวกับการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในระบบฐานข้อมูลต่างๆที่นักศึกษาค้นคว้าหาอ่านได้ด้วยตนเอง เช่น
http://www.tourism.go.th
http://www.tourismthailand.org
http://www.unwto.org/index.php
http://www.mots.go.th
ให้นักศึกษาประเมินเมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนในประเด็นต่อไปนี้
1.1 ให้นักศึกษาประเมินอาจารย์ผู้สอนในประเด็นต่อไปนี้
ความตรงต่อเวลา การแต่งกาย บุคลิกภาพ คำพูดและวาจาสุภาพ เหมาะสม การเป็นแบบอย่างที่ดี สอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมระหว่างการสอน ความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาให้เขาใจและกระตุ้นการเรียนรู้ แจ้งและสรุปวัตถุประสงค์ของหัวข้อที่สอน จัดการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้ตรงกับที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์การศึกษา การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม แสดงความคิดเห็นระหว่างการเรียนการสอน
1.2 ให้นักศึกษาประเมินภาพรวมของรายวิชาในประเด็นต่อไปนี้
ความรู้ความสามารถโดยรวมและประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชานี้ ความพึงพอใจต่อการเรียนวิชานี้ ข้อเสนอแนะอื่นๆ
ความตรงต่อเวลา การแต่งกาย บุคลิกภาพ คำพูดและวาจาสุภาพ เหมาะสม การเป็นแบบอย่างที่ดี สอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมระหว่างการสอน ความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาให้เขาใจและกระตุ้นการเรียนรู้ แจ้งและสรุปวัตถุประสงค์ของหัวข้อที่สอน จัดการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้ตรงกับที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์การศึกษา การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม แสดงความคิดเห็นระหว่างการเรียนการสอน
1.2 ให้นักศึกษาประเมินภาพรวมของรายวิชาในประเด็นต่อไปนี้
ความรู้ความสามารถโดยรวมและประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนวิชานี้ ความพึงพอใจต่อการเรียนวิชานี้ ข้อเสนอแนะอื่นๆ
ให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบรายวิชาหรืออาจารย์ประจำหลักสูตร ดำเนินการดังต่อไปนี้
2.1 ให้นักศึกษาประเมินอาจารย์ผู้สอนและภาพรวมของรายวิชาตาม ข้อ 1
2.2 สุ่มสังเกตการสอนและการประเมินการจัดการเรียนการสอน (โดยเพื่อนอาจารย์) ในประเด็นต่อไปนี้
ความตรงต่อเวลา การแต่งกาย บุคลิกภาพ คำพูดและวาจาสุภาพ เหมาะสม การเป็นแบบอย่างที่ดี สอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมระหว่างการสอน ความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาให้เขาใจและกระตุ้นการเรียนรู้ แจ้งและสรุปวัตถุประสงค์ของหัวข้อที่สอน จัดการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้ตรงกับที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์การศึกษา การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม แสดงความคิดเห็นระหว่างการเรียนการสอน
2.3 ให้อาจารย์ผู้สอนประเมินตนเอง ในประเด็นต่อไปนี้
ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการเตรียมสอน ความพึงพอใจของผู้สอนต่อผลการสอน ข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาตนเองในการสอนครั้งต่อไป
ความตรงต่อเวลา การแต่งกาย บุคลิกภาพ คำพูดและวาจาสุภาพ เหมาะสม การเป็นแบบอย่างที่ดี สอดแทรกคุณธรรมและจริยธรรมระหว่างการสอน ความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาให้เขาใจและกระตุ้นการเรียนรู้ แจ้งและสรุปวัตถุประสงค์ของหัวข้อที่สอน จัดการเรียนการสอนให้เกิดการเรียนรู้ตรงกับที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์การศึกษา การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถาม แสดงความคิดเห็นระหว่างการเรียนการสอน
2.3 ให้อาจารย์ผู้สอนประเมินตนเอง ในประเด็นต่อไปนี้
ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการเตรียมสอน ความพึงพอใจของผู้สอนต่อผลการสอน ข้อที่ควรปรับปรุงแก้ไขหรือพัฒนาตนเองในการสอนครั้งต่อไป
สาขาวิชาการท่องเที่ยวและการโรงแรม มีกลไกและวิธีการปรับปรุงการเรียนการสอน ดังนี้
3.1 ให้อาจารย์ผู้สอนแต่ละหัวข้อบันทึกเหตุการณ์ระหว่างการสอนที่สมควรนำเสนอให้พิจารณารวมทั้งสิ่งที่ควรปรับปรุงแก้ไขในแต่ละครั้ง
3.2 ประชุม/สัมมนาอาจารย์ผู้สอนเพื่อพิจารณาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนสำหรับปีการศึกษาต่อไปโดยอาศัยข้อมูลดังต่อไปนี้
ผลการศึกษาของนักศึกษา ผลการประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนักศึกษา
ผลการศึกษาของนักศึกษา ผลการประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนักศึกษา
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยใช้แบบประเมินของหลักสูตรต่อระดับผลการเรียนรู้ของนักศึกษา จัดให้ Pretest และ Post -test และหลักสูตรจัดให้มีคณะกรรมการทวนสอบของหลักสูตรดำเนินการทวนสอบตามเกณฑ์ของหลักสูตรและเกณฑ์การประกันคุณภาพของหลักสูตร
ปีการศึกษา 2563 ได้ปรับเนื้อหาการเรียนการสอน โดยเพิ่มการนำเสนอความเข้าใจด้านการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการจัดนำเสนอให้กับสาธารณะชนเพื่อเพิ่มทักษะในการปฏิบัติให้นักศึกษา