กายวิภาคและสรีรวิทยาของสัตว์เลี้ยง

Anatomy and Physiology of Farm Animals

เมื่อนักศึกษาเรียนรายวิชานี้แล้ว นักศึกษามีสมรรถนะที่ต้องการในด้านต่าง ๆ  ดังนี้ นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถบูรณาการเทคโนโลยีทางสัตวศาสตร์สำหรับปฏิบัติงานด้านการผลิตสัตว์ที่ปลอดภัยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นได้ทั้งในฐานะผู้ประกอบการ นักวิชาการ หรือผู้จัดการฟาร์มสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผลและเป็นระบบ มีคุณธรรม จริยธรรม สำนึกในจรรยาของวิชาชีพที่ดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเสริมสร้างเอกลักษณ์ไทย

           สำหรับวัตถุประสงค์ของรายวิชานี้นั้น นักศึกษาจะได้ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบต่าง ๆ ของร่างกายสัตว์เลี้ยง
เพื่อปรับปรุงเนื้อหาวิชาให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงโดยเน้นการนำไปในใช้ในการทำงานอย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบและแนวปฏิบัติ เรื่องกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานการอุดมศึกษา (2552) และการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับโครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะในระบบต่าง ๆ ของร่างกายสัตว์เลี้ยง
 -   จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ) โดยเฉพาะในวันพุธ เวลา 15.00 – 16.00 น. ณ ห้องปฏิบัตืการกายวิภาคและสรีรวิยาของสัตว์เลี้ยง เบอร์มือถือ 08-9953-2245
-    นักศึกษาสามารถติดต่อได้ทาง e-mail address : wchaine@yahoo.com
1.1  มีคุณธรรมและจริยธรรม หมายถึง ศรัทธาในความดี มีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ มีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ
1.2 มีจรรยาบรรณ หมายถึง มีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม  (Participatory Learning) 
การสอนในห้องปฏิบัติการ  
การสอนแบบบรรยาย
การสังเกต
การสัมภาษณ์
แบบทดสอบวัดด้านการปฏิบัติวัดด้านการปฏิบัติ
2.1 มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ หมายถึง มีความรู้ ความเข้าใจ ในสาขาวิชาชีพที่เรียนอย่าง
ถ่องแท้และเป็นระบบ ทั้งหลักการ ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ทันสมัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
2.2 มีความรอบรู้ หมายถึง มีความรู้ในหลายสาขาวิชาและสามารถประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
การสอนโดยใช้เกม (Games)
การสอนในห้องปฏิบัติการ  
การสอนแบบ  Problem Based Learning    
การสอนแบบสาธิต  
การสอนแบบบรรยาย  
แฟ้มสะสมงาน
การเขียนบันทึก
โครงการกลุ่ม
การสังเกต
การสัมภาษณ์
การนำเสนองาน
ข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบปรนัย
3.1 สามารถคิดวิเคราะห์งานอย่างเป็นระบบ หมายถึง มีทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและคิดแบบองค์รวม
3.2 สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์
จากพื้นฐานของความรู้ที่เรียน นำมาพัฒนานวัตกรรมหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่
3.3 ใฝ่รู้และรู้จักวิธีการเรียนรู้ หมายถึง แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆ อย่างสม่ำเสมอและรู้จักเทคนิควิธีและกระบวนการในการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม
การสอนในห้องปฏิบัติการ  
การสอนแบบบรรยาย  
การสอนแบบโครงการ 
โครงการกลุ่ม
การสังเกต
การสัมภาษณ์
การนำเสนองาน
ข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบปรนัย
4.1 ภาวะผู้นำ หมายถึง กล้าแสดงออก กล้าหาญ อดทน หนักแน่น รู้จักเสียสละ ให้อภัย และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น สุภาพ สามารถประสานความคิดและประโยชน์ด้วยหลักแห่งเหตุผลและความถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รักองค์กร เป็นผู้นำกลุ่มกิจกรรมได้ทุกระดับและสถานการณ์ที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตาม
4.2 มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ หมายถึง มีจิตสำนึกห่วงใยต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสมบัติ มีจิตอาสา ไม่ดูดาย มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม
การสอนแบบโครงการ 
โครงการกลุ่ม
การสังเกต
การสัมภาษณ์
การนำเสนองานโดยเพื่อน
5.1 มีทักษะการสื่อสาร หมายถึง ความสามารถในการใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง 
พูด อ่านและเขียน เพื่อการสื่อสารให้เหมาะกับสถานการณ์ และการใช้ภาษาอังกฤษ ในการอ่าน พูด ฟัง และเขียน
5.2 มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการสื่อสารและค้นคว้าข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระบวนการสืบค้น (Inquiry Process) 
การสอนโดยใช้เกม (Games)
การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม  (Participatory Learning) 
การสอนแบบโครงการ 
การนำเสนองาน
ข้อสอบอัตนัย
ข้อสอบปรนัย
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา(Ethics and Moral) 2. ด้านความรู้ที่ต้องได้รับ(Knowledge) 3. ด้านทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา(Cognitive Skills) 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา(Interpersonal Skills and Responsibility) 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องพัฒนา (Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills)
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 มีคุณธรรมและจริยธรรม หมายถึง ศรัทธาในความดี มีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ มีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ 2.1 มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ หมายถึง มีความรู้ ความเข้าใจ ในสาขาวิชาชีพที่เรียนอย่าง ถ่องแท้และเป็นระบบ ทั้งหลักการ ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ทันสมัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 3.3 ใฝ่รู้และรู้จักวิธีการเรียนรู้ หมายถึง แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆ อย่างสม่ำเสมอและรู้จักเทคนิควิธีและกระบวนการในการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม 4.1 ภาวะผู้นำ หมายถึง กล้าแสดงออก กล้าหาญ อดทน หนักแน่น รู้จักเสียสละ ให้อภัย และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น สุภาพ สามารถประสานความคิดและประโยชน์ด้วยหลักแห่งเหตุผลและความถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รักองค์กร เป็นผู้นำกลุ่มกิจกรรมได้ทุกระดับและสถานการณ์ที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตาม 5.2 มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการสื่อสารและค้นคว้าข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1 BSCAG201 กายวิภาคและสรีรวิทยาของสัตว์เลี้ยง
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.1, 1.2, 2.1, 2.2, 3.1, 3.2, 4.1, 4.2, 4.3, 5.1, 5.2, 6.1, 6.2, 7.1, 7.2 สอบกลางภาค สอบปลายภาค งานมอบหมาย 9 17 38% 32%
2 1.1, 1.2, 2.1, 2.2, 3.1, 3.2, 4.1, 4.2, 4.3, 5.1, 5.2, 6.1, 6.2, 7.1, 7.2 ทดสอบโดยศึกษาจากอวัยวะ การนำเสนอรายงาน การทำงานกลุ่มและนำเสนอผลงาน ตลอดภาคการศึกษา 20%
3 1.1.5 4.2.1,4.2.2,4.2.3 การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน ตลอดภาคการศึกษา 10%
วิโรจน์ จันทรัตน์. 2540. กายวิภาคและสรีรวิทยาของสัตว์เลี้ยง.มหาวิทยาลัยแม่โจ้. เชียงใหม่. 980 น. พีรศักดิ์ สุทธิโยธิน. 2528. การผสมเทียม. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. หาดใหญ่. 411 น. Bearden, H.J. and J.W. Fuquay. 1980. Applied Animal Reproduction. Reston Publishing Company,
         Inc.,Virginai. 370 p. Bone, J.F. 1988. Animal Anatomy and Physilogy.3rded.Englewood Cliffs, New Jersey. 572 p Buergelt, C.D.1997. Color Atlas of Reproduction Pathology of Domestic Animals. Mosby-Year Book.     Inc. St.Louis, Missouri. 219 p. Currie, W.B. 1987. Structure and Function of Domestic Animals. Butterworths, Boston, 443p Frandson, R.D.1981. Anatomy and physiology of Fram Animals.3rd ed. Lea & Febiger. King, G. J. and W.W. Thatcher.1993. Pregnancy . In Reproducton in Domesticated Animals. Edited by G.   J. King. Elsevier Science Publishers B.V., Amsterdam. 229-270 p McCraken, T. O.R.A. Kainer and T.L. Spurgeon.1999. Spurgeon’s Color Atlas of Large Animal Anatomy. The Essentials. Lippincott William & Wilkins, Philadelphia. 159 p. McDonald, L.E. 1980. Female reproductive system. In : Veterinary Endocrinology and Reproduction. 3rd ed. Lea & Febiger, Philadelphia. 274-329 p. Meijer, J. C. and J. M. Fentener Van Vlissingen. 1993. Gross Structure and Development of Reproductive Organs. In Reproduction in Domesticated Animals. Edited by G. J. King. Elsevier Science Publishers B. V., Amsterdam . 9-53 p. Pineda , M.H. 1989. Female Reproductve Systems. In Veterinary Endocrinology and Reproduction . 4th ed. Edited by L. E. Meconald. Lea & Febiger, Philadelphia. 303–354p. Reeves , J. J. 1987. Endocrinology of Reproduction. In Reproduction in Animals . 5 th ed. Edited by E.S.E. Hafez. Lea & Febiger, Philadelphia. 85 – 106 p. Swenson , M.J.1984. Dukes’ physiology of domestic animals.10th ed. Cornell university press. London.922 p. Vander , A,J., J.H. Sherman. and D.S. Luciano.1990. Human physiology: mechanism of body function.5th ed. McGraw-Hill publishing company.New York.724p. William ,O.R. 1991. Physiology of Domestic Animals. Lea & Febiger , Philadelphia . 370 p. Wrobel , K.H. and H.D. Dellmann.1993. Male Reproductive System. In Text book of Veterinary Histology.4 thed. Edited by H.D. Dellmann. Lea & Febiger,Philadelphia.213-232 p
 
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้

  การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน   แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา

  ข้อเสนอแนะผ่านการให้คำปรึกษานอกชั้นเรียน
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์  ดังนี้
2.1   การสังเกตการณ์สอนของผู้สอน
2.2   ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3   การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ  2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน  ดังนี้
3.1   สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
3.2   การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการ สอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
4.1  การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกสาขา หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร
4.2  มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา  ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชาได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น