กรรมวิธีการผลิต

Manufacturing Processes

1.1 รู้และเข้าใจเกี่ยวกับกรรมวิธีการผลิตขั้นพื้นฐาน เช่น กรรมวิธีการหล่อ การขึ้นรูปโลหะ การตัดขึ้นรูปด้วยเครื่องมือกล การเชื่อมประสาน การปรับปรุงคุณสมบัติขิงโลหะด้วยความร้อน
1.2 รู้และเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของวัสดุกับกระบวนการผลิต เช่น โลหะกับการขึ้นรูป พอลิเมอร์กับการขึ้นรูป การขึ้นรูปเซรามิก การขึ้นรูปวัสดุคอมโพสิต
1.3 รู้และเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานการออกแบบและวิเคราะห์เครื่องมือในการผลิต
1.4 รู้และเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานการผลิตแบบรวดเร็ว ระบบการความคุมอัตโนมัติในการผลิต และระบบการผลิตสมัยใหม่
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกรรมวิธีการผลิตขั้นพื้นฐาน เช่น กรรมวิธีการหล่อ การขึ้นรูปโลหะ การตัดขึ้นรูปด้วยเครื่องมือกล การเชื่อมประมาน การปรับปรุงคุณสมบัติของโลหะด้วยความร้อน ความสัมพันธ์ของวัสดุกับกระบวนการผลิต เช่น โลหะกับการขึ้นรูป พอลิเมอร์กับการขึ้นรูป การขึ้นรูปเซรามิก การขึ้นรูปวัสดุคอมโพสิต เป็นต้น พื้นฐานการออกแบบและวิเคราะห์เครื่องมือในการผลิต ตลอดจนพื้นฐานการผลิตแบบรวดเร็ว ระบบการความคุมอัตโนมัติในการผลิต และระบบการผลิตสมัยใหม่ เป็นการเตรียมความพร้อมด้านปัญญา ในการนำความรู้ ความเข้าใจ ในกรรมวิธีการผลิต เพื่อเป็นพื้นฐานการเรียนในวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ควรมีการเปลี่ยนแปลงตัวอย่างอ้างอิง ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ได้มีความก้าวหน้าไปตามยุคสมัย
ศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิตต่าง ๆ การหล่อโลหะ การเชื่อมโลหะ การตัดขึ้นรูปด้วยเครื่องมือกล การขึ้นรูปโลหะโดยการเปลี่ยนรูป การขึ้นรูปโพลีเมอร์ การขึ้นรูปเซรามิกการขึ้นรูปวัสดุคอมโพสิต การผลิตแบบรวดเร็ว ระบบ การควบคุมอัตโนมัติในการผลิตและระบบการผลิตสมัยใหม่
สัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง วัน พุธ เวลา 15.00 – 16.00 น. ห้อง 731
1. แสดงออกซี่งจิตสำนึกสาธารณะ และตระหนักในคุณค่าของคุณธรรมจริยธรรม จรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพครู ที่เสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน
2. สามารถจัดการและคิดแก้ปีญหาทางคุณธรรมจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู
3. แสดงออกซี่งการมีวินัย ขยัน อดทน เสียสละ ตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นแบบอย่างที่ดี
4. เคารพสิทธิและรับฟ้งความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดี้ศรีของความเป็นมนุษย์
1. สอดแทรกตัวอย่างให้เห็นหน้าที่ความรับผิดชอบของอาชีพวิศวกร และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากไม่ปฏิบัติตาม
2. สอดแทรกแนวคิดเรื่องระเบียบวินัย เคารพระเบียบ ข้อบังคับ เช่น การตรงต่อเวลา มารยาทการใช้อุปกรณ์ การเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นต้น
3. ปลูกฝังให้ตระหนักถึงความซื่อสัตย์ กำหนดบทลงโทษ และผลกระทบต่อตนเอง สังคม จากพฤติกรรมดังกล่าว
1. พฤติกรรมการเข้าเรียน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา
2. สังเกตพฤติกรรมต่างๆ ของนักศึกษาที่เกิดระหว่างการทดลองใช้วิธีการสอนในข้อข้างต้นว่าเป็นไปตามคาดหมายไว้หรือไม่ ถ้าไม่เป็นไปตามที่คาดหมายก็อาจเปลี่ยนสถานการณ์ให้เหมาะสมมากขึ้น
1. มีความรู้และความเข้าใจทั้งต้านทฤษฏีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ ศึกษา 
2. สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีของสาขาวิชาที่ ศึกษา 
3. สามารถบูรณาการความรู้ทางวิชาชีพกับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ
บรรยาย อภิปราย การทำงานกลุ่ม การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นหาบทความ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน โดยนำมาสรุปและนำเสนอ
1. ทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค ด้วยข้อสอบที่เน้นการวัดหลักการและทฤษฏี 
2. ประเมินจากงานที่มอบหมายให้ไปค้นคว้า
1. มีทักษะในการปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการหรือ วิชาชีพ  
2. มีทักษะในการนำความรู้มาคิดและใช้อย่างเป็นระบบ
1. การมอบให้นักศึกษาทำโครงงานพิเศษ ที่ให้วิเคราะห์และแก้ไขปัญหา แล้วนำเสนอผลงาน 
2. อภิปรายกลุ่ม 
3. วิเคราะห์กรณีศึกษา ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม 
4. การสะท้อนแนวคิดจากการประพฤติ
1. สอบกลางภาคและปลายภาค โดยเน้นข้อสอบที่มีการวิเคราะห์สถานการณ์ หรือวิเคราะห์แนวคิดในการประยุกต์ใช้ 
2. วัดผลจากการประเมินผลงานที่มอบหมาย 
3.สังเกตพฤติกรรมการแก้ไขปัญหา
1. มีมนุษยสัมพันธ์และมารยาทสังคมที่ดี  
2. มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม  
3. สามารถทำงานเป็นทีมและแกไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม 
4. สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม 
1. จัดกิจกรรมกลุ่มในการวิเคราะห์กรณีศึกษา 
2. มอบหมายงานรายกลุ่มและรายบุคคล เช่น การค้นคว้าความก้าวล้ำของเทคโนโลยี การนำตัวอย่างการใช้การศึกษางาน หรือ อ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา
3. การนำเสนอรายงาน
1. ประเมินจากรายงานที่นำเสนอ พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม 
2. ประเมินจากรายงานการศึกษาด้วยตนเอง
1. เลือกใช้วิธีการและเครื่องมือสื่อสารได้เหมาะสม 
2. สืบค้น ศึกษา วิเคราะห์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อแกไฃป้ญหาอย่าง เหมาะสม 
3. ใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ในการสื่อสารได้อย่างถูกต้องตาม กาลเทศะ และสอดคล้องกับวัฒนธรรมสากล 
1. มอบหมายงานให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง จากเว็บไซต์สื่อการสอน E- Learning และทำรายงานโดยเน้นการนำตัวเลข หรือมีสถิติอ้างอิง จากแหล่งที่มาข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 
2. นำเสนอโดยใช้รูปแบบและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
1. ประเมินจากรายงาน และรูปแบบการนำเสนอด้วยสื่อเทคโนโลยี 
2. ประเมินจากการมีส่วนร่วมในการอภิปรายและวิธีการอภิปราย
1. มีจินตนาการในการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและแก้ปัญหาที่มี ความสลับซับซ้อน ในการประยุกต์ความรู้ทางด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อพัฒนานวัตกรรม 
2. มีทักษะในการเป็นผู้นำความรู้เพื่อการสืบค้นข้อมูล วินิจฉัย วิเคราะห์ และสรุปประเด็นของสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ
1. นำความรู้ไปใช้สนับสนุนการทำโครงงานของนักศึกษา 
2. การออกไปปฏิบัติประสบการณ์วิชาชีพครู ในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง
1. ประเมินจากความสำเร็จของโครงงานนักศึกษา
2. ประเมินจากการออกไปปฏิบัติประสบการณ์วิชาชีพครูของนักศึกษา
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรม 2. ด้านความรู้ 3. ด้านทักษะทางปัญญา 4. ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 1.2 1.3 1.4 2.1 2.2 2.3 3.1 3.2 4.1 4.2 4.3 4.4 5.1 5.2 5.3 6.1 6.2
1 TEDIE922 กรรมวิธีการผลิต
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 2.1 – 2.3 6.1 – 6.2 การทดสอบ - ทดสอบย่อยครั้งที่ 1 - สอบกลางภาค - ทดสอบย่อยครั้งที่ 2 - สอบปลายภาค 4 9 13 17 10% 25% 10% 25%
2 3.1 – 3.2 4.1 – 4.4 5.1 – 5.3 6.1 – 6.2 รายงานกลุ่มพร้อมนำเสนอ - วิเคราะห์กรณีศึกษาค้นคว้า - การนำเสนอรายงาน - การทำงานกลุ่มและผลงาน - การอ่านและสรุปบทความ - การส่งงานตามที่มอบหมาย ตลอดภาค การศึกษา 20%
3 1.1 – 1.4 จิตพิสัย - การเข้าชั้นเรียน - การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน ตลอดภาค การศึกษา 10%
1.1 Scrope Kalpakjian and Steven R. Schmid, Manufacturing Engineering and Technology (4th ed.), Prentice Hall International, 2001.
1.2 นทีชัย ผัสดี (ผศ.), ระบบการผลิตและกระบวนการผลิตในงานอุตสาหกรรม, ตำราประกอบการสอนวิชากระบวนการผลิต มทร.ล้านนา, 2554.
2.1 มนตรี บุญชู และ สมศักดิ์ คำขาว, กรรมวิธีผลิตโลหะภัณฑ์ (Manufacturing Process), โรงพิมพ์ศรีสยาม, 2526.
2.2 พิชิต สุขเจริญพงษ์ (ดร.), การจัดการวิสวกรรมการผลิต. บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด, 2521.
2.3 ธีรวุฒิ บุญยโสภณ (ศ.ดร.) และ วีระพงษ์ เฉลิมจิระรัตน์, พื้นฐานบริหารงานอุตสาหกรรม (Basic Industrial Management). พิมพ์ครั้งที่ 4, ศูนย์ผลิตตำราเรียนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2540.
ตำราหรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ กรรมวิะรการผลิต
3.1 www.google.com
3.2 www.altavista.com
3.3 www.youtube.com
 
การประเมินประสิทธิภาพผลรายวิชานี้ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษา ดังนี้
1.1 การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
1.2 แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
1.3 ข้อเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้
2.1 การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมสอน
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอยในข้อ 2 จึงในการปรับปรุงการสอนโดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้
3.1 สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
3.2 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จากการสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการทดสอบย่อย และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มรการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร
4.2 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะปรับปรุงการสอนในข้อ 3. และผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4.
5.2 เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ