โภชนศาสตร์และการให้อาหารสัตว์ปีก

Poultry Nutrition and Feeding

                    1. รู้กายวิภาคและสรีรวิทยาของระบบทางเดินอาหารของสัตว์ปีก
                  2. เข้าใจการย่อย การดูดซึม และเมตาบอลิสมของโภชนะแต่ละชนิดในร่างกายสัตว์ปีก
                  3. เข้าใจความต้องการโภชนะชนิดต่าง ๆ ของสัตว์ปีกแต่ละชนิด
                 4. เข้าใจการประกอบสูตรอาหาร และการให้อาหารสัตว์ปีกแต่ละชนิดและแต่ละระยะ
                 ๕. สามารถประยุกต์ใช้วัสดุเหลือใช้จากทางการเกษตรและโรงงานอุตสาหกรรมมาเป็นอาหารสัตว์ปีก
                  ๖. มีเจตคติที่ดีต่ออาชีพนักโภชนะศาสตร์สัตว์และนักวิชาการอาหารสัตว์
           เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนเพื่อให้ทันสมัย สอดคล้องกับเหตุการณ์ สภาพการผลิตสัตว์ปีกและการให้อาหารสัตว์ปีกในปัจจุบัน โดยเฉพาะระบบการผลิตสัตว์ปีกในทางการค้าซึ่งมีการนำเทคโนโลยี และวิทยาการใหม่ๆ มาใช้ในการจัดการมากขึ้น และเพื่อเป็นตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
ศึกษาระบบทางเดินอาหาร การย่อยอาหาร การดูดซึม และเมตาโบลิซึมของโภชนะหลัก ความต้องการโภชนะต่างๆของสัตว์ปีก การประกอบสูตรอาหาร การประยุกต์ใช้พืชท้องถิ่น และวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรและโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอาหารสัตว์ปีก และการให้อาหารสัตว์ปีก
3
1. ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรมจริยธรรม นักศึกษาต้องมีคุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างราบรื่นและเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม อาจารย์ที่สอนในแต่ละวิชาต้องพยายามสอดแทรกเพื่อให้นักศึกษาสามารถพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมเกิดขึ้นเช่นเดียวกับการประกอบอาชีพในสาขาอื่นๆดังนี้ 1. มีคุณธรรมและจริยธรรม หมายถึง ศรัทธาในความดีมีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์มีความรับผิดชอบมีศีลธรรมซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่กับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ 2. มีจรรยาบรรณ หมายถึง มีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กรเพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักศึกษามีระเบียบวินัย โดยเน้นการเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลา ตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องมีความรับผิดชอบ โดยในการทำงานกลุ่มนั้นต้องฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม มีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการสอบหรือลอกการบ้านของผู้อื่นเป็นต้น นอกจากนี้อาจารย์ผู้สอนทุกคนต้องสอดแทรกเรื่องคุณธรรมจริยธรรมในการสอนทุกรายวิชารวมทั้งมีการจัดกิกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเช่น การยกย่องนักศึกษาที่ทำดีทำประโยชน์แก่ส่วนรวมและเสียสละ เป็นต้น
1.ประเมินการมีวินัยจากการตรงเวลาของนักศึกษาในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนดระยะเวลาที่มอบหมาย และการเข้าร่วมกิจกรรมที่กำหนด 2.ประเมินจากความพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร 3.ประเมินการความซื่อสัตย์สุจริตในการทำงานที่ได้รับมอบหมายและการสอบ 4.ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 5.ประเมินจากผลงานที่ไม่คัดลอกผลงานผู้อื่น หรือมีการอ้างอิงเอกสารทางวิชาการเพื่อให้เกียรติแก่เจ้าของผลงาน 6.ประเมินจากพฤติกรรมการทำงานในชั้นเรียน ที่ไม่เลือกปฎิบัติและการไม่ละเมิดสทธิของผู้อื่น
นักศึกษาต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิชาชีพทางการเกษตรและช่วยพัมนาสังคม ดังน้ันมาตรฐานความรู้ต้องครอบคลุมสิ่งต่อไปนี้ 1.มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ หมายถึง มีความรู้ ความเข้าใจ ในสาขาวิชาชีพ(พืชศาสตร์/สัตวศาสตร์/ประมง) ที่เรียนอย่างถ่องแท้และเป็นระบบทั้งหลักการ ทฤษฎี และการประยุกต์ให้มีความรู้ที่ทันสมัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 2.มีความรู้ หมายถึง มีความรู้ในหลายสาขาวิชาและสามารถประยุกต์ใช้ในการดำรงชีพ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
ใช้การเรียนการสอนในหลากหลานรูปแบบ โดยเน้นหลักการทางทฤษฎีและประยุกต์ทางปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริง โดยทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ให้เป็นไปตามลักษณะของรายวิชาตลอดจนเนื้อหาสาระของรายวิชานั้นๆ นอกจากนี้ควรจัดให้มีการเรียนรู้จากสถานการณ์จริง โดยมีการศึกษาดูงาน หรือเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาเป็นวิทยากรพิเศษเฉพาะเรื่อง ตลอดจนการฝึกปฎิบัติงานในสถานประกอบการ
ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนักศึกษาในด้านต่างๆคือ 1. การทดสอบย่อย 2. การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน 3. ประเมินจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำ 4. ประเมินจากแผนงานหรือโครงการที่นำเสนอ 5. ประเมินจากการนำเสนอรายงานในชั้นเรียน 6. ประเมินจากรายวิชาฝึกงานหรือสหกิจศึกษา
นักศึกษาต้องสามารถพัฒนาตนเองและประกอบวิชาชีพได้โดยพึ่งตนเองได้เมื่อจบการศึกษาแล้ว ดังนั้นนักศึกษาจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทักษะทางปัญญาไปพร้อมกับคุณธรรมจริยธรรม และความรู้ในขณะที่สอนนักศึกษา อาจารย์ต้องเน้นให้นักศึกษาคิดหาเหตุผล เข้าใจที่มาและสาเหตุของปัญหา วิธีการแก้ปัญหารวมทั้งแนวคิดด้วยตนเอง นักศึกษาต้องมีคุณสมบัติต่างๆจากการสอนให้เกิดทักษะทางปัญญาดังนี้ 1. สามารถคิดวิเคราะห์งานอย่างเป็นระบบ หมายถึง มีทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและคิดแบบองค์รวม 2. สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากพื้นฐานของความรู้ที่เรียน นำมาพัฒนานวัตกรรมหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่ 3.ใฝ่รู้และรู้จักวิธีการเรียนรู้ หมายถึง แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆอย่างสม่ำเสมอ และรู้จักเทคนิควิธีและกระบวนการในการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม
1. บทบาทสมมติ สถานการณ์จำลอง และกรณีศึกษาทางการเกษตรเพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจประเมินข้อมูลและหลักฐานใหม่ๆจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย 2. การอภิปรายกลุ่มเพื่อระดมความคิดวิเคราะห์ข้อมูลและประยุกต์ใช้ข้อมูลที่ได้มา หรือเลือกใช้ความรู้ที่เรียนมาแก้ไขโจทย์ปัญหาที่กำหนด 3. ให้นักศึกษาปฏบัติจริงเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้า
ประเมินตามสภาพจริงจากผลงานและการปฏิบัติของนักศึกษาเช่น 1 ประเมินจากผลงานการนำเสนอรายงานในชั้นเรียน 2 สัมภาษณ์หรือสอบปากเปล่า 3 การทดลองโดยใช้แบบทดสอบหรือข้อสอบ
นักศึกษาต้องออกไปประกอบอาชีพซึ่งส่วนใหญ่ต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลอื่น ความสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มคนต่างๆเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งดังนั้นอาจารย์ต้องสอดแทรกการสอนที่เกี่ยวข้องกับทักษะทางสังคมดังต่อไปนี้ 1. ภาวะผู้นำ หมายถึง กล้าแสดงออก กล้าหาญ อดทน หนักแน่น รู้จักเสียสละ ให้อภัย และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น สุภาพ สามารถประสานความคิดและปนะโยชน์ด้วยหลักแห่งเหตุผลและความถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รักองค์กร เป็นผู้นำกลุ่มกิจกรรมได้ทุกระดับและสถานการณ์ที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้นำและผู้ตาม 2. มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ หมายถึง มีจิตสำนึกห่วงใยต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสมบัติ มีจิตอาสา ไม่ดูดาย มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม
ใช้การสอนที่มีการกำหนดกิจกรรมให้มีการทำงานเป็นกลุ่มการทำงานที่ต้องประสานงานกับผู้อื่นหรือต้องค้นคว้าหาข้อมูลจากการสัมภาษณ์ บุคคลอื่นหรือผู้มีประสบการณ์ดังนี้ 1. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 2. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย 3. สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และวัฒนธรรมองค์กรที่ไปปฏิบัติงานได้ 4. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับโรงงานในองค์กรและกับบุคคลทั่วไป 5. มีภาวะผู้นำและผู้ตามในการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 6. สามารถวางตนได้เหมาะสมกับกาลเทศะ ขนบธรรมเนียมและแนวทางปฏิบัติเฉพาะของแต่ละวัฒนธรรม
ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนักศึกษาในการนำเสนอรายงานกลุ่มในชั้นเรียนและสังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่างๆและครบถ้วนชัดเจนตรงประเด็นของข้อมูล
ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพนักศึกษาต้องมีความรู้และมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงานการติดต่อสื่อสารและการพัฒนาตนเองดังนั้นนักศึกษาจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีไปพร้อมกับคุณธรรม จริยธรรมและความรู้ด้านเกษตรศาสตร์ดังนี้ 1. มีทักษะการสื่อสารหมายถึงความสามารถในการใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียนเพื่อการสื่อสารให้เหมาะสมกับสถานะการณ์และการใช้ภาษาอังกฤษในการอ่าน พูด ฟัง และเขียน 2. มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการสื่อสารและค้นคว้าข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาเกษตรทั่วไป ให้นักศึกษาได้วิเคราะห์สถานการณืจำลอง สถานการณ์เหมือนจริง หรือแก้ไขปัญหาจากกรณีศึกษา หรือในการปฏิบัติงานจริงแล้วนำเสนอการแก้ปัญหาที่เหมาะสม เรียนรู้ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศในหลากหลายสถานการณ์
1. ประเมินจากเทคนิคการนำเสนอและการเลือกใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลขที่เกี่ยวข้องในการนำเสนอข้อมูล 2. ประเมินจากความสามารถจากการอธิบายถึงขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลข้อจำกัดเหตุผลในการเลือกใช้เครื่องมือต่างๆประมวลผลและแปลความหมาย 3. การนำเสนอโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสม
นักศึกษาต้องมีทักษะทางวิชาชีพคือมีทักษะและความเชี่ยววชาญในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบโดยประยุกต์ใช้ความรู้ที่เรียนมาและพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ทางวิชาชีพ
ใช้การเรียนการสอนที่หลากหลายโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะการปฏิบัติในรายวิชาเกษตรทั่วไปให้นักศึกษาได้ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงจากผลงานและทักษะการปฏิบัติของนักศึกษาดังนี้ 1. ประสิทธิภาพในทักษะการปฏิบัติอย่างถูกต้อง 2. ความสามารถในการตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 3. ความสำเร็จและคุณภาพของผลงาน
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. คุณธรรม และจริยธรรม 2. ความรู้ 3.ทักษะทางปัญญา 4.ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5.ทักษะเชิงวิเคราะห์ตัวเลขและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6.ด้านทักษะพิสัย
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1. มีคุณธรรมและจริยธรรม หมายถึง ศรัทธาในความดีมีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์มีความรับผิดชอบมีศีลธรรมซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่กับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ 2 มีจรรยาบรรณ หมายถึง มีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ 1 มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ หมายถึง มีความรู้ ความเข้าใจ ในสาขาวิชาชีพ(พืชศาสตร์/สัตวศาสตร์/ประมง) ที่เรียนอย่างถ่องแท้และเป็นระบบทั้งหลักการ ทฤษฎี และการประยุกต์ให้มีความรู้ที่ทันสมัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 2 มีความรู้ หมายถึง มีความรู้ในหลายสาขาวิชาและสามารถประยุกต์ใช้ในการดำรงชีพ รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม 1 สามารถคิดวิเคราะห์งานอย่างเป็นระบบ หมายถึง มีทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและคิดแบบองค์รวม 2 สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากพื้นฐานของความรู้ที่เรียน นำมาพัฒนานวัตกรรมหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่ 3 ใฝ่รู้และรู้จักวิธีการเรียนรู้ หมายถึง แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆอย่างสม่ำเสมอ และรู้จักเทคนิควิธีและกระบวนการในการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม 1 ภาวะผู้นำ หมายถึง กล้าแสดงออก กล้าหาญ อดทน หนักแน่น รู้จักเสียสละ ให้อภัย และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น สุภาพ สามารถประสานความคิดและประโยชน์ด้วยหลักแห่งเหตุผลและความถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รักองค์กร เป็นผู้นำกลุ่มกิจกรรมได้ทุกระดับและสถานการณ์ที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้นำและผู้ตาม 2 มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ หมายถึง มีจิตสำนึกห่วงใยต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสมบัติ มีจิตอาสา ไม่ดูดาย มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม 1 มีทักษะการสื่อสารหมายถึงความสามารถในการใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียนเพื่อการสื่อสารให้เหมาะสมกับสถานะการณ์และการใช้ภาษาอังกฤษในการอ่าน พูด ฟัง และเขียน 2 มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการสื่อสารและค้นคว้าข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักศึกษาต้องมีทักษะทางวิชาชีพคือมีทักษะและความเชี่ยววชาญในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพสามารถแก้ปัญหาได้อย่างเป็นระบบโดยประยุกต์ใช้ความรู้ที่เรียนมาและพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ทางวิชาชีพ
1 BSCAG244 โภชนศาสตร์และการให้อาหารสัตว์ปีก
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.1.2, 1.1.3 การใช้บันทึกการเข้าชั้นเรียน 1-17 5%
2 1.1.2, 1.1.4, 2.1.1, 2.1.2, 2.1.3, 3.1.1, 3.1.2, 4.1.4, 5.1.1, 5.1.2, 5.1.3 การประเมินผลงาน (เอกสารรายงาน) 1-17 10%
3 3.1.1, 3.1.2,4.1.1, 4.1.2, 4.1.3 การสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน 1-17 5%
4 2.1.1, 2.1.2, 2.1.3, 3.1.1, 3.1.2 ข้อสอบ 1-17 60%
5 5.1.1, 5.1.2, 5.1.3 ประเมินจากการนำเสนอในชั้นเรียน 1-17 10%
6 1.1.1, 1.1.2, 1.1.3, 1.1.4 ประเมินการมีวินัย และพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร / การส่งงาน 1-17 5%
7 4.1.1, 4.1.2, 4.1.3 การประเมินโดยเพื่อนร่วมกลุ่มงานและหรือเพื่อนร่วมชั้นเรียน 1-17 5%
1. หนังสือ ตำรา และเอกสารประกอบการสอน ธาดา  สืบหลินวงศ์ และ นวลทิพย์  กมลวารินทร์. 2537. ชีวเคมีทางการแพทย์. พิมพ์ครั้งที่ 3. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์
                มหาวิทยาลัย. 224 น.
ธีระยุทย์   กลิ่นสุคนธ์. 2541. การเปลี่ยนแปลงของสารอาหารในเชิงสรีรวิทยา. หน้า 371-457. ใน. เอกสารการสอนชุด
                วิชาโภชนศาสตร์สาธารณสุข. หน่วยที่6. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
นิธิยา  รัตนาปนนท์. 2545. เคมีอาหาร. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์. กรุงเทพฯ. 487น. บุญล้อม  ชีวะอิสระกุล. 2541. โภชนศาสตร์สัตว์. พิมพ์ครั้งที่ 6. ธนบรรณการพิมพ์. เชียงใหม่. 170 น.
. _________________  .2546. ชีวเคมีทางสัตวศาสตร์. ธนบรรณการพิมพ์. เชียงใหม่. 202  น.
ปิยา   บุรณศิริ. 2525. การย่อยและการดูดซึมอาหาร. สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 262 น.
พันทิพา   พงษ์เพียจันทร์. 2543. หลักการอาหารสัตว์ เล่ม 1. โภชนะ. พิมพ์ครั้งที่ 2. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ .            กรุงเทพฯ. 207 น.
อุทัย  คันโธ. 2529. อาหารและการผลิตอาหารเลี้ยงสุกรและสัตว์ปีก. ภาควิชาสัตวบาล. คณะเกษตร. หาวิทยาลัย 
                 เกษตรศาสตร์. วิทยาเขตกำแพงแสน. นครปฐม. 297  น.
Cheeke, P.R. 1999. Applied Animal Nutrition: Feeds and Feeding. Prentice Hall, New Jersey. 525 p. Church, D.C. and  W.G  Pond. 1988. Basic  Animal  Nutrition  and  Feeding. 3rd ed. John  Wiley  and  Sons, Inc, New                 York. 472 p. Ensminger, M.E. 2002. Sheep  and  Goat  Science (Animal  agriculture  Series). 6th ed. Interstate  Publishers,Publishers,   
                 Inc, Danville, Illinois. 693  p.Ensminger, M.E., J.E. Oldfield  and  W.W.  Heinemann. 1990. Feeds  and  Nutrition. 6th ed. The  Ensminger  Publishing  Company, California. 1544  p.Gropper, S.S., J.L. 
Smith  and  J.L. Groff. 2000. Advanced Nutrition and Human Metabolism.3rd ed.  Wadsworth, a  division  of  Thomson  Learning, Inc.  Belmont.  600  p.
Jurgens, H.M. 1993. Animal Feeding and Nutrition. 7thed. Kendall/Hunt Publishing Company, Iowa. 580 p.
McDonald, P., R.A. Edwards.,J.F.D.Greenhalgh  and C.A.Morgan. 2002. Animal  Nutrition. 6thed. As hford  Colour   
                Press  Ltd,Gosport, London. 693 p.
McDowell, L.R. 1989. Vitamins in Animal Nutrition :  Comparative Aspects to Human Nutrition. Academic Press,Inc.,         
              California. 486 p. NRC (National  Research  Council). 1974. Nutrients  and  Toxic  Substances  in  Water  for Lievestock  and   Poultry.   
          National  Academy  Press, Washington, D.C. 93  p.
.                                                       . 1994. Nutrients  Requirements  of  Poultry. 9th ed. National  Academy   
                Press, Washington, D.C. 155 p.
Pond, W.G., D.C. Church  and  K.R.  Pond. 1995. Basic  Animal  Nutrition  and  Feeding. 4th ed. John  Wiley 
          and  Sons, Inc, New  York. 615 p.
 
บุญล้อม  ชีวะอิสระกุล. 2541. โภชนศาสตร์สัตว์. พิมพ์ครั้งที่ 6. ธนบรรณการพิมพ์. เชียงใหม่. 170 น.
. _________________  .2546. ชีวเคมีทางสัตวศาสตร์. ธนบรรณการพิมพ์. เชียงใหม่. 202  น.
พันทิพา   พงษ์เพียจันทร์. 2543. หลักการอาหารสัตว์ เล่ม 1. โภชนะ. พิมพ์ครั้งที่ 2. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ .            กรุงเทพฯ. 207 น.
วารสารสัตว์ปีก                                                                                                  
วารสารเกษตรศาสตร์                                                                                                                                                 
วารสารpoultry international                                                                                                                                                     
การประเมินประสิทธิผลรายวิชาโดยนักศึกษา ดำเนินการดังนี้
-แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชาที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัย
-การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการจัดการเรียนการสอนระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
-ผลการทดสอบ
-สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
-การวิจัยในชั้นเรียน
-ทวนจากคะแนนสอบ และรายงาน
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชาได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น