เครื่องทุ่นแรงฟาร์มทางการเกษตร
Farm Machinery
เมื่อนักศึกษาเรียนรายวิชานี้แล้ว ต้องมีความรู้และฝึกปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง เกี่ยวกับชนิด หลักการทำงาน การเลือก การใช้ การบำรุงรักษาเครื่องมืออย่างเหมาะสมและปลอดภัย ของเครื่องทุ่นแรงฟาร์มชนิดต่างๆ และระบบต่างๆที่ใช้ในฟาร์ม ดังต่อไปนี้
การส่งน้ำและระบบการให้น้ำ ระบบปั๊มสุญญากาศและเครื่องรีดนม เครื่องมือในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ เครื่องทำความเย็นและห้องเย็น ระบบควบคุมสภาพอากาศในโรงเรือนปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลังงานทดแทน
การส่งน้ำและระบบการให้น้ำ ระบบปั๊มสุญญากาศและเครื่องรีดนม เครื่องมือในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ เครื่องทำความเย็นและห้องเย็น ระบบควบคุมสภาพอากาศในโรงเรือนปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลังงานทดแทน
เพื่อฝึกทักษะด้านการวิเคราะห์และปรับปรุง การเลือก รูปแบบการใช้งาน การบำรุงรักษาเครื่องทุ่นแรงฟาร์ม รวมถึงระบบการให้น้ำแก่พืชปลูก ระบบพลังงานทดแทน โดยมีการนำความรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการวิเคราะห์และออกแบบ
ศึกษาและปฏิบัติการเกี่ยวกับ ชนิด หลักการทำงาน การเลือก การใช้ การบำรุงรักษาเครื่องมืออย่างเหมาะสมและปลอดภัย ของเครื่องทุ่นแรงฟาร์ม การส่งน้ำและระบบการให้น้ำ ระบบปั๊มสุญญากาศและเครื่องรีดนม เครื่องมือในกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ เครื่องทำความเย็นและห้องเย็น ระบบควบคุมสภาพอากาศในโรงเรือนปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพลังงานทดแทน
นักศึกษาขอคำปรึกษาและคำแนะนำได้ทาง e-mail; stbmbr@hotmail.com เวลา 20.00 - 21.00 น. ทุกวัน
1.1 ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม
1.1.1มีคุณธรรม จริยธรรมศรัทธาในความดี มีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ มีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ
1.1.2 มีจรรยาบรรณมีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
1.1 ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม
1.1.1มีคุณธรรม จริยธรรมศรัทธาในความดี มีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ มีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ
1.1.2 มีจรรยาบรรณมีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
กำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่น ให้เข้าห้องเรียนตรงเวลาและเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ สอนให้นักศึกษามีความรับผิดชอบโดยมอบหมายงานและกำหนดเวลาในการส่งงานมอบหมายสอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ความมีระเบียบวินัย การเคารพกฎกติกาของสังคม รามถึงการประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
ใช้วิธีการ ดังนี้
- การขานชื่อ การให้คะแนนการ
เข้าชั้นเรียน และการส่งงานตรง
เวลา
- สังเกตพฤติกรรมของนักศึกษา
ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและ
ข้อบังคับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จาก
การขานชื่อการให้คะแนนเข้าชั้น
เรียน
- ประเมินปริมาณการทุจริตใน
การสอบ
- สังเกตพฤติกรรมของนักศึกษา
ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและ
ข้อบังคับต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จาก
การขานชื่อการให้คะแนนเข้าชั้น
เรียน
2.1 มีความรู้และความเข้าใจทั้งด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา 2.2 สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีของสาขาวิชาที่ศึกษา 2.3 สามารถบูรณาการความรู้ที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
1. กระบวนการสืบค้น (Inquiry Process) - มอบหมายนักศึกษาไปค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติมและจัดทำเป็นรายงานตลอดจนนำเสนอรายงานในชั้นเรียน 2. การสอนแบบบรรยาย 3. การสอนแบบการตั้งคำถาม (Questioning) 4. การสอนในห้องปฏิบัติการ
1. การนำเสนองาน - ประเมินผลจากรายงานที่ได้รับมอบหมาย 2. ข้อสอบอัตนัย - ทดสอบโดยข้อเขียนในการสอบย่อย สอบกลางภาค และสอบปลายภาค 3. สังเกตการณ์มีส่วนร่วมในชั้นเรียนและการฝึกตีความ 4.คุณภาพงานที่ให้ปฏิบัติตามสภาพจริง
3.1 มีทักษะปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการหรือวิชาชีพ 3.2 มีทักษะในการนำความรู้มาคิดและใช้อย่างมีระบบ
- ส่งเสริมการเรียนรู้จากการแก้ ปัญหา ( Problem Based Instruction) - มอบหมายงานที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์
-ประเมินจากการรายงานผลการ ดำเนินงานและการแก้ปัญหา - ประเมินจากผลงานที่มอบ หมาย/การทดสอบย่อย
4.1 มีมนุษย์สัมพันธ์และมารยาทสังคมที่นักศึกษาเป็นผู้แบ่งงาน 4.2 มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.3 สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งได้อย่างเหมาะสม 4.4 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
1.การสอนแบบ Brain Storming Group 2.. การสอนแบบกรณีศึกษา (Case Studies) -มอบหมายให้นักศึกษาทำงานเป็นกลุ่ม โดยให้ละกำหนดความรับผิดชอบของแต่ละคนในการทำงานกลุ่ม อย่างชัดเจน
1.การสังเกต 2.ประเมินจากการรายงานหน้าชั้นเรียน โดยอาจารย์และเพื่อนนักศึกษา 3.การประเมินตนเอง
5.1 สามารถเลือกใช้วิธีการและเครื่องมือสื่อสารที่เหมาะสม 5.2 สามารถสืบค้น ศึกษา วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่าง เหมาะสม 5.3 สามารถใช้ภาษาไทยหรือต่างประเทศในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ส่งเสริมให้มีการตัดสนใจบนฐานข้อมูลและข้อมูลเชิงตัวเลข2. แนะนำและสาธิตการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต 3. มอบหมายงานค้นคว้าองค์ความรู้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ และให้นักศึกษานำเสนอหน้าชั้น 4. การนำเสนองานด้วยวาจาและ PowerPoint
1. สังเกตพฤติกรรมด้านความมีเหตุผลและการบันทึก เป็นระยะๆ 2.การนำเสนองาน มอบหมาย ประเมินความเหมาะสมและถูกต้องของ - สื่อที่ใช้ - เนื้อหาที่นำเสนอ - ภาษาที่ใช้ -การตอบคำถาม
6.1 สามารถปฏิบัติงานได้ด้วยตนเอง 6.2สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องแม่นยำ 6.3สามารถปฏิบัติงานได้โดยอัตโนมัติเป็นธรรมชาติ
--
--
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา(Ethics and Moral) | การเข้าชั้นเรียน การส่งรายงานตรงเวลา การแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน พฤติกรรมระหว่างเรียนภาคปฏิบัติ การมีส่วนร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน | 1 - 17 | 5 % |
2 | 2. ด้านความรู้ที่ต้องได้รับ(Knowledge) | การทดสอบย่อย การสอบกลางภาค การสอบปลายภาค การทำบทปฏิบัติการ | ทุกสัปดาห์ 8 17 ทุกสัปดาห์ | 10% 15% 20 % 25% |
3 | 3. ด้านทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา(Cognitive Skills) | 1. ประเมินผลจากผลสัมฤทธิ์ของงานที่ให้ปฏิบัติตามสภาพจริง 2.คุณภาพงานที่ให้ปฏิบัติตามสภาพจริง 3.การเขียนบันทึก 4. การประเมินตนเอง | 2 – 15 | 15% |
4 | 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา(Interpersonal Skills and Responsibility) | การแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน พฤติกรรมระหว่างเรียนภาคปฏิบัติ | 2 – 15 | 5 % |
5 | 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องพัฒนา (Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills) | การนำเสนองาน/การรายงาน ประเมินความเหมาะสมและถูกต้องขององค์ประกอบในการนำเสนอ เช่น -การเตรียมความพร้อม - สื่อที่ใช้ - เนื้อหาที่นำเสนอ - ภาษาที่ใช้ -การตอบคำถาม | 17 | 5% |
จิราภรณ์ เบญจประกายรัตน์. เครื่องจักรกลการเกษตร 1.พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ:แผนกตำราคณะ วิศวกรรมศาสตร์.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, 2542. บพิตร ตั้งวงค์กิจและรัตนา ตั้งวงค์กิจ. อุปกรณ์และเครื่องจักกลการเกษตร.พิมพ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ:สานัก พิมพ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,2550. เสมอขวัญ ตันตนกุล.เครื่องทุ่นแรงในฟาร์ม 1. ภาคเครื่องทุ่นแรงสาหรับเตรียมดินและปลูกพืช.พิมพ์ครั้ง ที่ 1.กรุงเทพฯ:บริษัท ส.เอเชียเพรส(1898)จากัด, 2550. อภิชาต อนุกูลอำไพและคณะ.คู่มือการชลประทานระดับไร่นา . กรุงเทพฯ:สถาบันเทคโนโลยีแห่เอเชีย. 2537.
กรมวิชาการเกษตร.เทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์
การเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด. มปป. คณาจารย์.เกษตรชลประทาน. ปทุมธานี.ศูนย์ฝึก
วิศวกรรมเกษตรบางพูน, 2518.
ธีรยุทธ ชัยวงศ์. ปฏิบัติเครื่องยนต์เล็ก. เครื่องยนต์เล็ก. กรุงเทพฯ:นนทบุรี:เจริญรุ่งเรืองการพิมพ์,2544.
ประณต กุลประสูตร. แทรกเตอร์เพื่อการเกษตร 1 การใช้ การบรนการบารุงรักษาและการปรับ.
พิมพ์ครั้ง ที่1. กรุงเทพฯ:บริษัทแอคทีฟ พริ้นท์ จากัด,2548.
วราวุธ วุฒิพาณิชย์.การออกแบบระบบชลประทานในไร่นา. พิมพ์ครั้งที่ 1 . กรุงเทพฯ:สานักพิมพ์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,2545.
วิบูลย์ บุญยธโลกุล. หลักการชลประทาน. พิมพ์ครั้งที่ 1 . กรุงเทพฯ:ห.จ.ก. โรงพิมพ์เอเซีย,2526
นัย บารุงเวช. เครื่องดานา.ม.ป.ท.,2546. บุญเจิด กาญจนา. การให้น้ำแบบฉีดฝอย. พิษณุโลก:สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพิษณุโลก, 2545. มนตรี ค้าชู.หลักการชลประทานแบบหยด การออกแบบและการแก้ปัญหา. กรุงเทพฯ:ภาควิชาวิศวกรรม ชลประทาน. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,มปป. อำนาจ สุวรรณฤทธิ์.ความสัมพันธ์ระหว่างดินกับพืช. กรุงเทพฯ:ภาควิชาปฐพีวิทยา มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์, 2525.
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความ เห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้ 1.1 การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน 1.2 แบบประเมนผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา 1.3 ข้อเสนอแนะผ่านเว็บบอร์ด ที่อาจารย์ผู้สอนได้จัดทำเป็นช่องทางการสื่อสารกับนักศึกษา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมนการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้
2.1 การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมสอน
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3 การทวนสอบผลประเมนการเรียนรู้
สาขาวิชากำหนดให้อาจารย์ผู้สอนทบทวนและปรับปรุงกลยุทธ์และวิธีการสอนจากผลการประเมินประสิทธิภาพของรายวิชา แล้วจัดทำรายงานรายวิชาตามรายละเอียดที่ สกอ.กำหนดเมื่อสอนจบภาคการศึกษา และมีการประชุมอาจารย์ทั้งสาขาวิชาเพื่อหารือปัญหาการเรียนรู้ของนักศึกษาและร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
สาขาวิชามีคณะกรรมการประเมินการสอนทำหน้าที่ทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา โดยการสุ่มประเมินข้อสอบและความเหมาะสมของการให้คะแนน ทั้งคะแนนดิบและระดับคะแนน ของ รายวิชา 60% ของรายวิชาทั้งหมดในความรับผิดชอบของสาขาวิชา ภายในรอบเวลาหลักสูตร
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุง การสอนและรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้ 5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผล สัมฤทธิ์ตามข้อ 4 5.2 เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้ กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ