สัมมนาทางการจัดการ

Seminar in Management

1.1 เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ปัญหา กระบวนการตัดสินใจและแก้ไขปัญหา แบบบูรณาการ 1.2 เพื่อให้นักศึกษามีทักษะในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและการตัดสินใจร่วมกัน 1.3 เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติ กล้าแสดงความคิดเห็นและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 1.4 เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ ความสามารถและทักษะในการเขียนเอกสารทางวิชาการ 1.5 เพื่อให้นักศึกษามีทักษะในการนำเสนอผลงาน เสริมสร้างบุคลิกภาพและการซักถามที่
เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจสภาวะปัจจุบันขององค์การ ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกาภิวัตน์ ไม่ว่าจะเป็นโลกาภิวัตน์ทางการเมือง เศรษฐกิจ การเงินและอุตสาหกรรม องค์การจึงต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลง หากไม่ปรับตัวอาจนำไปสู่การล้มเลิกและปิดกิจการในที่สุด จึงต้องศึกษาให้รู้ทันเหตุการณ์และสภาพแวดล้อม ที่มีอิทธิพลต่อการบริการจัดการองค์การ
ศึกษาและสัมมนาปัญหาสำคัญๆ ที่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เน้นทางด้านการจัดการของกลุ่มวิชาชีพ โดยบูรณาการทฤษฎี ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ศึกษามา เพื่อเสริมสร้างให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงกับสภาพและปัญหาต่างๆ ของจัดการในธุรกิจ ใช้กรณีศึกษาหรือสถานการณ์จริง อภิปรายเพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ ตลอดจนการฝึกปฏิบัติทักษะและการจัดสัมมนาวิชาการ
อาจารย์ผู้สอนจัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล (เฉพาะรายที่ต้องการ) หรือรายกลุ่มนอกชั้นเรียน ตามความต้องการของนักศึกษา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้             3.1 วันพฤหัสบดี เวลา 13.00 – 15.00 น.ของทุกสัปดาห์ BA109                                   โทร. 081-8859686            3.2 E-mail : nattapanpanyaroj@gmail.com
1.1 คุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา 
1.  ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา(Ethics and Moral) š1.1 มีความซื่อสัตย์สุจริต ซื่อตรงต่อหน้าที่ ต่อตนเองและต่อผู้อื่นไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นและมีความสำนึกรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย š1.3 มีความพอเพียงเป็นหลักในการดำเนินชีวิต โดยยึดแนวคิดความพอประมาณ ความมีเหตุผลและการสร้างภูมิคุ้มกัน š1.4 มีความเคารพต่อกฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์การและสังคม
 
 
1.2 วิธีการสอน 
1. ปลูกฝังให้นักศึกษามีวินัยโดยการเน้นการเข้าเรียนให้ตรงต่อเวลา ตลอดจนการแต่งกายที่ถูกต้องตามระเบียบของมหาวิทยาลัย 2. กำหนดงานเป็นกลุ่มย่อย เน้นความมีส่วนร่วม และแสดงความคิดเห็น 3. จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เกิดจิตสำนึกในการมีคุณธรรม จริยธรรม 4. ให้การยกย่องชมเชยผู้ที่มีความซื่อสัตย์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี 5. กำหนดระเบียบลงโทษผู้ทุจริตการสอบ 6. มีกิจกรรมที่ส่งเสริมในเรื่องความเสียสละเพื่อส่วนรวมและบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม
1.3 วิธีการประเมินผล 
1.ประเมินจากเวลาการเข้าชั้นเรียนของนักศึกษาและเวลาการส่งงานที่ได้รับมอบหมาย 2. ประเมินจากผลงานกลุ่มและความมีส่วนร่วมในการนำเสนอผลงาน 3. จำนวนการเข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หรือกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ 4. ความเอื้อเฟื้อหรือความมีน้ำใจต่อเพื่อนและครูอาจารย์
2.1 ความรู้ที่ต้องได้รับ 
2.  ด้านความรู้ที่ต้องได้รับ(Knowledge) š 2.1 มีความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนด้านบริหารธุรกิจ ที่ครอบคลุมทั้ง การบัญชี เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ š2.2 มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ด้านบริหารธุรกิจ ทางการตลาด การเงิน การผลิตและการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดการองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ ˜2.3 มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการบริหารธุรกิจ ในด้านการวางแผน การปฏิบัติการ การควบคุมและการประเมินผลการดำเนินงานรวมทั้งการปรับปรุงแผนงาน š 2.4 มีความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพด้านบริหารธุรกิจ รวมทั้งมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและผลกระทบอย่างเท่าทัน
2.2 วิธีการสอน 
1. ใช้การเรียนการสอนในหลากหลายรูปแบบโดยให้ความรู้ทางด้านทฤษฎีควบคู่กับการปฏิบัติในสภาพแวดล้อมจริง 2. จัดให้มีการเรียนรู้จากสถานการณ์จริงโดยการศึกษาดูงานหรือเชิญผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงมาเป็นวิทยากรพิเศษ 3. จัดการฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ
2.3 วิธีการประเมินผล 
1. การทดสอบย่อย 2. การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน 3. ประเมินจากงานที่มอบหมายนักศึกษา 4. ประเมินจากการนำเสนอผลงาน 5. ประเมินจากแผนธุรกิจหรือโครงการที่นำเสนอ 6. ประเมินจากผลการฝึกงานหรือสหกิจศึกษา
3.1 ทักษะทางปัญญา ที่ต้องพัฒนา 
3.  ด้านทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา(Cognitive Skills) ˜3.1 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ต่อยอดกรอบความรู้เดิม สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาและประสบการณ์เพื่อให้เกิดนวัตกรรม กิจกรรมหรือแนวทางในการบริหารธุรกิจใหม่ ๆ š3.2 สามารถสืบค้น จำแนก และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ได้ซึ่งสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาและตัดสินใจอย่างเหมาะสม š3.3 สามารถคิดค้นทางเลือกใหม่ ๆ รวมทั้งสามารถวิเคราะห์ทางเลือกและผลกระทบที่เป็นผลจากทางเลือกอย่างรอบด้าน โดยการนำความรู้และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ š3.4 มีความกล้าในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สอดคล้องกับสถานการณ์
3.2 วิธีการสอน 
1. กรณีศึกษาทางการจัดการ โครงงาน งานวิจัย และกำหนดให้นักศึกษาวางแผนการทำงานเป็นทีม 2. ใช้สถานประกอบการฝึกปฏิบัติงานจริง 3. มีการอภิปรายเพื่อสรุปประเด็นผลการศึกษาและปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งการเสนอแนวทางการแก้ไข 4. เน้นถึงศาสตร์และศิลป์รวมถึงรูปแบบในการนำเสนอผลงาน และให้นักศึกษานำเสนอผลงานจริง
3.3 วิธีการประเมินผล 
1.ประเมินจากการนำเสนอโครงงาน รายงานการวิจัย อภิปรายกรณีศึกษา 2. ประเมินจากการทดสอบโดยใช้แบบทดสอบ โดยออกข้อสอบที่ให้นักศึกษาแก้ปัญหา อธิบายแนวคิดการแก้ปัญหา และวิธีการแก้ปัญหา โดยการประยุกต์ความรู้ที่เรียนมาซึ่งจะต้องหลีกเลี่ยงข้อสอบที่เป็นการเลือกตอบที่ถูกมาคำตอบเดียวจากกลุ่มคำตอบที่ให้มา 3. ประเมินจากผลงานและการปฏิบัติงานของนักศึกษา
4.1 ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ที่ต้องพัฒนา 
4.  ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา(Interpersonal Skills and Responsibility) ˜4.1 มีความสามารถในการประสานงาน มีมนุษยสัมพันธ์และสามารถสร้างสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นด้วยพื้นฐานความเข้าใจถึงความแตกต่างของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมีจิตวิทยา ˜4.2 มีความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่มการประสานงาน การมอบหมายบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบ š4.3 มีความกระตือรือร้นและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความรับผิดชอบ ยอมรับฟังและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งมีความเป็นผู้ตามในจังหวะที่เหมาะสม š 4.4 มีความสามารถในการริเริ่มแสดงความคิดเห็นใหม่ ๆ ที่อาจมีความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
4.2 วิธีการสอน 
1. มอบหมายงานที่ต้องใช้การติดต่อประสานงานกับบุคคลอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกสถาบันการศึกษา 2. มีการมอบหมายงานที่ต้องใช้ทักษะด้านการสื่อสารระหว่างบุคคลทั้งภายในสถาบันการศึกษาและภายนอกสถาบันการศึกษา 3. มีการมอบหมายงานที่ต้องใช้การระดมความคิดและร่วมกันทำงาน 4.มีกิจกรรมส่งเสริมมนุษยสัมพันธ์ เช่นยกย่องชมเชยนักศึกษาที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีเด่น
4.3 วิธีการประเมินผล 
1. ประเมินจากพฤติกรรมในการทำกิจกรรมระหว่างนักศึกษาในกลุ่ม 2. ประเมินจากผลงานของนักศึกษาทั้งรายบุคคลและรายกลุ่ม 3. มีการร่วมประเมินทั้งอาจารย์และนักศึกษา
5.1 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ต้องพัฒนา 
5.  ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร  และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา (Numerical  Analysis, Communication  and Information Technology Skills) š5.1 สามารถประยุกต์ใช้หลักคณิตศาสตร์ สถิติและการวิเคราะห์เชิงปริมาณมาใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ ˜5.2 สามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ˜5.3 สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานและเทคโนโลยีระบบสารสนเทศที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน ˜5.4 สามารถสื่อสารเพื่ออธิบายและสร้างความเข้าใจได้อย่างถูกต้อง ทั้งในรูปแบบการเขียนรายงานและการนำเสนอด้วยวาจา ˜5.5 สามารถสื่อสารด้วยบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือและสามารถเลือกใช้รูปแบบของสื่อเทคนิควิธีการ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สอดคล้องกับกลุ่มบุคคลที่มีพื้นฐานและแนวคิดที่หลากหลาย š5.6 ความสามารถนำเทคโนโลยีไปเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนในการดำเนินงานและทราบถึงข้อจำกัดของเทคโนโลยี š5.7 ความสามารถนำเทคโนโลยีการสื่อสารแบบเครือข่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและดำเนินงาน
1.จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรายวิชาต่าง ๆ ให้นักศึกษาได้วิเคราะห์สถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์เสมือนจริง และนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะสม 2. ให้นักศึกษาได้เรียนรู้เทคนิคการประยุกต์ การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ 3. มีการนำเสนอผลงานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
5.3 วิธีการประเมินผล 
1.ประเมินจากการอธิบายหลักการเข้าถึงข้อมูลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ประเมินจากการสรุปและอภิปรายงานที่ได้รับมอบหมายร่วมกัน 3. ประเมินจากผลงานและการนำเสนอผลงานด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 4. ประเมินจากการทดสอบ
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา(Ethics and Moral) 2. ด้านความรู้ที่ต้องได้รับ(Knowledge) 3. ด้านทักษะทางปัญญาที่ต้องพัฒนา(Cognitive Skills) 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบที่ต้องพัฒนา(Interpersonal Skills and Responsibility) 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ต้องพัฒนา
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 มีความซื่อสัตย์สุจริต ซื่อตรงต่อหน้าที่ ต่อตนเองและต่อผู้อื่นไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นและมีความสำนึกรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 1.3 มีความพอเพียงเป็นหลักในการดำเนินชีวิต โดยยึดแนวคิดความพอประมาณ ความมีเหตุผลและการสร้างภูมิคุ้มกัน 1.4 มีความเคารพต่อกฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์การและสังคม  2.1 มีความรู้ความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนด้านบริหารธุรกิจ ที่ครอบคลุมทั้ง การบัญชี เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ 2.2 มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ด้านบริหารธุรกิจ ทางการตลาด การเงิน การผลิตและการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดการองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ 2.4 มีความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพด้านบริหารธุรกิจ รวมทั้งมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและผลกระทบอย่างเท่าทัน 2.3 มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการบริหารธุรกิจ ในด้านการวางแผน การปฏิบัติการ การควบคุมและการประเมินผลการดำเนินงานรวมทั้งการปรับปรุงแผนงาน 3.1 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ต่อยอดกรอบความรู้เดิม สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษาและประสบการณ์เพื่อให้เกิดนวัตกรรม กิจกรรมหรือแนวทางในการบริหารธุรกิจใหม่ ๆ 3.2 สามารถสืบค้น จำแนก และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ได้ซึ่งสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาและตัดสินใจอย่างเหมาะสม 3.3 สามารถคิดค้นทางเลือกใหม่ ๆ รวมทั้งสามารถวิเคราะห์ทางเลือกและผลกระทบที่เป็นผลจากทางเลือกอย่างรอบด้าน โดยการนำความรู้และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ 3.4 มีความกล้าในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สอดคล้องกับสถานการณ์ 4.1 มีความสามารถในการประสานงาน มีมนุษยสัมพันธ์และสามารถสร้างสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นด้วยพื้นฐานความเข้าใจถึงความแตกต่างของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมีจิตวิทยา 4.2 มีความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่มการประสานงาน การมอบหมายบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบพร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบ 4.3 มีความกระตือรือร้นและความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความรับผิดชอบ ยอมรับฟังและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งมีความเป็นผู้ตามในจังหวะที่เหมาะสม  4.4 มีความสามารถในการริเริ่มแสดงความคิดเห็นใหม่ ๆ ที่อาจมีความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ 5.1 สามารถประยุกต์ใช้หลักคณิตศาสตร์ สถิติและการวิเคราะห์เชิงปริมาณมาใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ5.6 ความสามารถนำเทคโนโลยีไปเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนในการดำเนินงานและทราบถึงข้อจำกัดของเทคโนโลยี 5.7 ความสามารถนำเทคโนโลยีการสื่อสารแบบเครือข่าย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและดำเนินงาน 5.2 สามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5.3 สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานและเทคโนโลยีระบบสารสนเทศที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน 5.4 สามารถสื่อสารเพื่ออธิบายและสร้างความเข้าใจได้อย่างถูกต้อง ทั้งในรูปแบบการเขียนรายงานและการนำเสนอด้วยวาจา 5.5 สามารถสื่อสารด้วยบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือและสามารถเลือกใช้รูปแบบของสื่อเทคนิควิธีการ และเทคโนโลยีที่เหมาะสม สอดคล้องกับกลุ่มบุคคลที่มีพื้นฐานและแนวคิดที่หลากหลาย
1 BBABA214 สัมมนาทางการจัดการ
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 2.3, 3.1, 4.1, 4.2, 5.2, 5.3, 5.4, 5.5 การสอบกลางภาค การศึกษาดูงานสถานประกอบการ 9 15
2 2.3, 3.1, 4.1, 4.2, 5.2, 5.3, 5.4, 5.5 การสอบปลายภาค 17 15
3 2.3, 3.1, 4.1, 4.2, 5.2, 5.3, 5.4, 5.5 งานที่มอบหมาย เช่น การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน การทำงานกลุ่ม การนำเสนอรายงานและ รายงานสัมมนา 1-8, 10-16 60
4 4.2 คะแนนเจตคติ การเข้าชั้นเรียนและความรับผิดชอบในรายวิชา 1-8, 10-16 10
(1) เกษกานดา  สุภาพจน์. การจัดสัมมนา. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ.              2548.                  (2) นิรชรา  ทองธรรมชาติ. กลยุทธ์การฝึกอบรมและวิทยากรในยุคโลกาภิวัตน์.                      กรุงเทพมหานคร: ซีเอ็ดยูเคชั่น. 2544.                  (3) ไพพรรณ  เกียรติโชติชัย. การจัดสัมมนาสู่ความเป็นเลิศ. พิมพ์ครั้งที่ 4.                         กรุงเทพมหานคร: การศึกษา. 2548.                                (4) สมคิด  บางโม. เทคนิคการฝึกอบรมและการประชุม. กรุงเทพมหานคร: วิทยพัฒน์.                     2551.                 (5) สุรศักดิ์  วงศ์สันติ. การจัดประชุมให้มีประสิทธิภาพ : ยากหรือง่าย. [ออนไลน์]
 (1) http://www.hrm.cmru.ac.th             (2) http://www.sbdc.co.th            (3) http://www.teacher.ssru.ac.th
(1)  ตะวัน  สาดแสง. สร้างคน สร้างองค์กร : คัมภีร์เพิ่มทักษะการบริหาร. กรุงเทพมหานคร.            2548.     (2)  นิรมิต   เทียมทัน. ยุทธศิลป์การบริหารจัดการ : ศาสตร์และศิลป์สำหรับผู้สร้างอนาคต.          กรุงเทพมหานคร. 2551.          (3) หนังสือพิมพ์ทางธุรกิจต่าง ๆ เช่น ประชาชาติธุรกิจ ฐานเศรษฐกิจ ผู้จัดการ ฯลฯ          (4) วารสาร นิตยสาร บทความหรืองานวิจัยทางธุรกิจและเว็บไซต์ต่างๆ ทางธุรกิจ
1.1  อาจารย์ผู้สอนได้ให้นักศึกษาเสนอแนะการเรียนการสอนในรายวิชานี้ เขียนลงบนกระดาษที่             แจกให้ในชั้นเรียน        1.2  ผลการประเมินผู้สอนจากนักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชา ดำเนินการประเมินโดย มทร.ล้านนา               น่าน        1.3  การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน       1.4  การสังเกตจากพฤติกรรมของผู้เรียน
2.1  ผลการสอบ/การเรียนรู้        2.2 การทวนสอบผลการประเมินการเรียนรู้       2.3 การประเมินโดยคณะกรรมการประเมินข้อสอบ
3.1  แก้ไขข้อบกพร่องจากผลการประเมินผู้สอนจากนักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชา        3.2  แก้ไขข้อบกพร่องจากข้อเสนอแนะจากนักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชาในชั้นเรียน        3.3  การทำวิจัยในชั้นเรียน (ถ้ามี)       3.4  การประชุมเชิงปฏิบัติการระหว่างผู้สอน
3.5 เชิญวิทยากร ที่มีหลากหลายอาชีพมากขึ้น ในการบรรยายเกี่ยวกับการสัมมนาการจัดการ เพื่อส่งเสริมและต่อยอดการทำงานในอนาคตของนักศึกษาได้
4.1  ทวนสอบคะแนนสอบของนักศึกษาตามจุดประสงค์การสอนแต่ละหน่วยเรียน            4.2  ทวนสอบงานที่มอบหมายของนักศึกษาตามจุดประสงค์การสอนแต่ละหน่วยเรียน             4.3  ทวนสอบการให้คะแนน จากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา โดยอาจารย์ท่านอื่นหรือ                  ผู้ทรงคุณวุฒิที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร             4.4  แต่งตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดย                 ตรวจสอบข้อสอบ วิธีการให้คะแนนสอบและการให้คะแนนพฤติกรรมของนักศึกษา
5.1  ปรับปรุงการเรียนการสอนตามผลการประเมินผู้สอน จากนักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชา             ดำเนินการประเมินโดย มทร.ล้านนา น่าน        5.2  วิเคราะห์และสังเคราะห์ผลการเรียนของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา                    5.3  ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์                          ตามข้อ 4.                    5.4  เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้กับปัญหา                        ทางการจัดการ โดยวิธีการสอนที่หลากหลายและ/หรือจากงานวิจัยของอาจารย์ผู้สอน (ถ้ามี)