พืชสวนประดับ

Ornamental Horticulture

เมื่อนักศึกษาเรียนรายวิชานี้แล้ว นักศึกษามีสมรรถนะที่ต้องการในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1.1 มีความรู้และทักษะปฏิบัติเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตพืชสวนประดับ อย่างครบวงจร สามารถกำหนดนิยามความหมาย ความสำคัญ การจัดจำแนก อธิบายลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของพืชสวนประดับชนิดต่างๆ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชสวนประดับ อธิบายวิธีการขยาย พันธุ์ การปลูกและการปฏิบัติบำรุงรักษาพืชสวนประดับเพื่อการจำหน่าย การจำหน่ายพืชสวนประดับ
1.2 นำความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีการผลิตพืชสวนประดับ ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง
1.3 สามารถวิเคราะห์ตลาดพืชสวนประดับ และความต้องการของผู้ใช้ประโยชน์ได้
1.4 มีเจตคติที่ดีต่อการประกอบวิชาชีพผู้ผลิตพืชสวนประดับและอาชีพที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน
1.5 มีทักษะปฏิบัติด้านการขยายพันธุ์ การปลูกและการบำรุงรักษาพืชสวนประดับ มีการฝึกทักษะอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอจนเกิดความชำนาญ สามารถสาธิต ถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะปฏิบัติให้แก่ผู้ที่สนใจได้
เพื่อฝึกทักษะด้านการวิเคราะห์และปรับปรุงรูปแบบการนำเทคโนโลยีด้านการผลิตมาใช้ในการผลิตพืชสวนประดับ เพื่อการค้าและการจัดจำหน่ายในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการเพิ่มพูนความรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศและนำมาประยุกต์ใช้ในการวางแผนการผลิตและการจัดจำหน่าย
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับความสำคัญและประโยชน์ของพืชสวนประดับ พฤกษศาสตร์ การจัดจำแนกพืชสวนประดับ ชนิดพืชสวนประดับเพื่อการค้า ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชสวนประดับ การขยายพันธุ์ การปลูกและบำรุงรักษา การเตรียมพืชสวนประดับเพื่อจำหน่าย
5 ชั่วโมง
1.1 มีคุณธรรมและจริยธรรม  1.2 มีจรรยาบรรณ
การสอนโดยการกำหนดเงื่อนไขการปฏิบัติตนของนักศึกษาในการเรียน และปลูกฝังให้นักศึกษามีจิตสำนึกสาธารณะมีคุณธรรม จริยธรรม และ และตระหนักถึงจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ
ประเมินผลจาก
1. การแต่งกายตามระเบียบของมหาวิทยาลัย การเข้าชั้นเรียนสม่ำเสมอ ตรงต่อเวลา และมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานกลุ่ม 2. ความซื่อสัตย์ในการสอบ 3. การตอบคำถามด้านจรรยาบรรณวิชาชีพ
2.1 มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ 2.2 มีความรอบรู้
1. การสอนแบบบรรยายเชิงสาธิต 2. การมอบหมายแบบฝึกหัดให้นักศึกษาฝึกคิดและวิเคราะห์เหตุผลของการปฏิบัติด้านการวางแผนการผลิตพืชสวนประดับเพื่อการจำหน่าย 3. การมอบหมายให้นักศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากหนังสือในห้องสมุดและ/หรือความรู้ทางอินเตอร์เน็ตและจัดทำรายงาน
1. การสังเกตความสนใจ 2. การทดสอบย่อย การสอบกลางภาคและปลายภาค 3. ประเมินจากการทำแบบฝึกหัดที่ได้รับมอบหมาย 4. ประเมินผลจากรายงานที่ได้รับมอบหมาย
1. สามารถคิดวิเคราะห์งานอย่างเป็นระบบ 2. สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ได้ 3. มีความใฝ่รู้และรู้จักวิธีการเรียนรู้
การสอนแบบ Project Based Leaning โดยมอบหมายงานให้นักศึกษาไปศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ แล้วนำข้อมูลมาเขียนรายงานและจัดทำโครงงานพิเศษผลิตพันธุ์ไม้ประดับเพื่อการจำหน่าย โดยมอบหมายให้เป็นงานปฏิบัติแบบกลุ่ม
ประเมินผลจาก
1. รายงานผลการศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ
2. ผลสัมฤทธิ์ของโครงงานพิเศษ
1. ภาวะผู้นำ 2. มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ
การสอนแบบ Project Based Leaning โดยมอบหมายให้เป็นงานปฏิบัติแบบกลุ่ม ไปศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ แล้วนำข้อมูลมาเขียนรายงานและจัดทำโครงงานพิเศษผลิตพันธุ์ไม้ประดับเพื่อการจำหน่าย    แล้วนำเสนอผลการดำเนินงานเมื่อเสร็จสิ้นโครงการโดยจัดทำรูปเล่มรายงานและนำเสนอในรูปสื่ออิเล็กทรอนิกส์  ทั้งนี้ให้นักศึกษาอภิปราย แบ่งงานและเลือกอาสาทำงานที่ตนเองถนัด
ประเมินผลจาก 1. ความตั้งใจและการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน
2. ความสมบูรณ์ ถูกต้องของรายงานและการนำเสนอข้อมูลผลการดำเนินงานโครงงานพิเศษ
1. มีทักษะการสื่อสาร 2. มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. การแนะนำเทคนิคการสืบค้นข้อมูล 2. การมอบหมายงานให้จัดทำรายงานด้วยการสืบค้นข้อมูลจากห้องสมุดและการสืบค้นด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ 3.การนำเสนอข้อมูลผลการทดลอง Project base learning
ประเมินผลจาก
1. ความถูกต้องและสมบูรณ์ของการเขียนรายงานการดำเนินงานโครงงานพิเศษที่ได้รับมอบหมาย โดยมีการตรวจเอกสารด้วยการสืบค้นข้อมูลจากวารสารและตำราในห้องสมุดและการสืบค้นด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต  รวมถึงการอ้างอิงอย่างถูกวิธี 2.ความสวยงาม น่าสนใจ ความถูกต้องของภาษาที่ใช้ในสื่อที่นำเสนอผลการดำเนินงานโครงงานพิเศษ รวมถึงเทคนิคการนำเสนอและความถูกต้องตามหลักวิชาการของการตอบข้อซักถาม  
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. คุณธรรมและจริยธรรม 2. ความรู้ 3. ทักษะทางปัญญา 4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5. ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6.ด้านทักษะพิสัย
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 มีคุณธรรมและจริยธรรม 1.2 มีจรรยาบรรณ 2.1 มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ 2.2 มีความรอบรู้ 3.1 สามารถคิดวิเคราะห์งานอย่างเป็นระบบ 3.2 มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ 3.3 มีความใฝ่รู้และรู้วิธีการเรียนรู้ 4.1 มีภาวะผู้นำ 4.2 มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ 5.1 มีทักษะการสื่อสาร 5.2 มีทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ 6.1 ทักษะทางวิชาชีพ
1 BSCAG152 พืชสวนประดับ
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1. ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนา การเข้าชั้นเรียน การแต่งกายตามระเบียบของมหาวิทยาลัย การส่งรายงานตรงเวลา การแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน พฤติกรรมระหว่างเรียนภาคปฏิบัติ 1-17 7%
2 ความรู้ การทดสอบย่อย สอบกลางภาค สอบปลายภาค การทำบทปฏิบัติการ ทดสอบย่อยและทำบทปฏิบัติการ ทุกสัปดาห์ สอบกลางภาค สัปดาห์ที่ 9 สอบปลายภาค สัปดาห์ที่ 18 ทดสอบย่อย 10 % ทำำบทปฏิบัติการ 25 % สอบกลางภาค 15 % สอบปลายภาค 20 %
3 ทักษะทางปัญญา 1. งานที่ให้ปฏิบัติตามสภาพจริง - ประเมินผลจากผลสัมฤทธิ์ของโครงงานพิเศษ 2.คุณภาพงานที่ให้ปฏิบัติตามสภาพจริง (บทปฏิบัติการ) 3. การบันทึกรายงานบทปฏิบัติการและงานมอบหมาย 4. การประเมินตนเอง สัปดาห์ที่ 2 - 18 15 %
4 ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน และกิจกรรมเสริมหลักสูตร ทุกสัปดาห์ 3 %
5 ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การนำเสนองาน/การรายงาน ประเมินความเหมาะสมและถูกต้องขององค์ประกอบในการนำเสนอ เช่น -การเตรียมความพร้อม - สื่อที่ใช้ - เนื้อหาที่นำเสนอ - ภาษาที่ใช้ -การตอบคำถาม สัปดาห์ที่ 18 5 %
กรมส่งเสริมการเกษตร. 2556.องค์ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต..สู่การเป็น smart officer : ไม้ดอกไม้
ประดับ. แหล่งข้อมูล http://agrimedia.agritech.doae.go.th/book/book-handbook/10
pdf.
กิตติ มุลาลินน์. 2537. พืชสวนประดับ:เอกสารประกอบการสอน วิชา 03-132-202 พืชสวน
(Ornamental horticulture ) ภาควิชาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์บางพระ สถาบัน
เทคโนโลยีราชมงคล, สุรินทร์. 163 หน้า.
ปิฏฐะ บุนนาค. 2529. ไม้ดอกไม้ประดับ. พิมพ์ครั้งที่ 5 .กรุงเทพฯ : บรรณกิจ, 383 หน้า.
งานส่งเสริมและเผยแพร่และงานวิชาการ . 2537. คู่มือไม้ดอกไม้ประดับ . ฝ่ายวิชาการเกษตร กอง
สวนสาธารณะสำนักสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานคร กรุงเทพฯ .
โชติอนันต์ และคณะ. 2552. คุณประโยชน์มากหลาย ไม้ดอกไม้ประดับเมืองไทย.กรุงเทพฯ : ดวงกมล
พับลิชชิ่ง. 294 หน้า

โฉมเฉลา (บรรณาธิการ). 2534. เทคโนโลยีการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ. กรุงเทพฯ : สมาคมไม้

ประดับแห่งประเทศไทย, 193 หน้า.
ดนัย บุณยเกียรติ และคณะ. 2546. คู่มือมาตรฐานคุณภาพไม้ดอกไม้ประดับโครงการหลวง.เชียงใหม่] :
สำนักพัฒนาเกษตรที่สูง : มูลนิธิโครงการหลวง.. 82 หน้า.
พิสมัย ชวลิตวงษ์พร. 2538. แมลงศัตรูไม้ดอกไม้ประดับของประเทศไทย : เอกสารวิชาการประจำปี 2538.
กรุงเทพฯ]: กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, 148 หน้า.
ไพฑูรย์ กิจเภาสงค์ . 2528. การผลิตไม้ดอกไม้ประดับ ขอนแก่น : ภาควิชาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 119 หน้า.
มุกดา สุขสวัสดิ์. 2547. วัสดุปลูกไม้ดอกไม้ประดับ. กรุงเทพฯ : บ้านและสวน. 204 หน้า .
รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงศ์. 2548. ไม้ดอกไม้ประดับ. กรุงเทพฯ : ประสานมิตร.132 หน้า.

โรจนวงศ์. 2525. การศึกษาศัตรูที่สำคัญบางชนิดของไม้ดอกไม้ประดับและการป้องกันกำจัด.

กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.4 หน้า.
วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.2542. พจนานุกรมไม้ดอกไม้ประดับในเมืองไทย.กรุงเทพฯ : รวมสาส์น พิมพ์ครั้งที่ 4
981 หน้า
สุนทร ปุณโณทก. 2522. ไม้ดอกไม้ประดับและการตกแต่งสถานที่. กรุงเทพฯ : ภาษิต, 262 หน้า.
สมสุข มัจฉาชีพ และ อุดมลักษณ์ มัจฉาชีพ. 2536. ไม้ดอกไม้ประดับ. กรุงเทพฯ : แพร่พิทยา. 215 หน้า
อดิศร กระแสชัย. 2539. ปัจจัยเพื่อการสนับสนุนระบบการผลิตไม้ตัดดอกและไม้ประดับเป็นการค้าของ
ประเทศไทย เชียงใหม่ : ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 131 หน้า.
อทิพัฒน์ บุญเพิ่มราศรี . 2552. หลากหลายพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเพื่อการจัดสวน ณ สวนวิชา จ.ระยอง.
เคหการเกษตร. 33(8): 192-195.
โอฬาร พิทักษ์, ภาวนา อัศวะประภา, เศรษฐพงศ์ เลขะวัฒนะ,ทวีพงศ์ สุวรรณโร และ อภิชาติ สุวรรณ.
2539.การผลิตไม้ดอกไม้ประดับเชิงอุตสาหกรรม. กรุงเทพฯ. 153 หน้า.
ข่าวเกษตรประจำวัน. 2551. วช.วิจัยไม้ดอกไม้ประดับรับส่งออก . แหล่งข้อมูล
http://www.phtnet.org/news51 /view-news.asp?nID=461
โครงการฐานข้อมูลการนำเข้าและความนิยมไม้ดอกและไม้ประดับไทยในญี่ปุ่น งบรายจ่ายอื่น งบประมาณ
ประจำปี พ.ศ. 2551. แหล่งข้อมูล
http://www.thaiceotokyo.jp/th/index.php?option=com_content&view= article&id
=346:2009-06-26-08- 07-20&catid=58:2008-12-04-06-09-49&Itemid=182
จตุรพร รักษ์งาร. การผลิตไม้ดอกไม้ประดับโดยผ่านสถานเพาะชำ. เอกสารประกอบการสอนของคณะ
เกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตร
มหาวิทยาลัยนเรศวร .
แหล่งข้อมูล. http://www.agi.nu.ac.th/webnewasp/ereading/jaturaporn/learn04.pdf
ชมรมพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับ. 2539. การขยายพันธุ์พืช. กรุงเทพฯ : เจเนอรัลบุ๊คส์.95 หน้า.
ดิน ก้อนเดิม. 2551. การปลูกไม้ดอกไม้ประดับ. ไม้ดอกไม้ประดับ. 7(97): 62-65
นิรนาม. มปป. เทคโนโลยีการผลิตไม้ดอก. แหล่งข้อมูล webindex.chaonet.com/link.php?n
=9798
นิรนาม. มปป. ธุรกิจไม้ดอกไม้ประดับ. แหล่งข้อมูลlearn.pbru.ac.th/mod/resource/ view.php?id
=1524
นิรนาม. 2556. สถานการณ์ไม้ดอกไม้ประดับไทย ปี 2556. แหล่งข้อมูล www.kehakaset.com /index.php/9-uncategorised/1097-2556 ภูเรือ.. แหล่งผลิตไม้ดอกไม้ประดับสำคัญของประเทศ. แหล่งข้อมูลhttp://www. loeidee.com/ index.php?lay = show&ac=article&Id=5351095
รุ่งนภา ก่อประดิษฐ์สกุล, ชวนพิศ อรุณรังสิกุล และ ชัยณรงค์ รัตนกรีฑากุล. 2549. ระบบควบคุมคุณภาพ
ผลผลิตทางการเกษตร ThaiGAP และ EUREPGAP : ข้อกำหนดทั่วไปสำหรับผักและผลไม้ ไม้
ดอกไม้ประดับ.นครปฐม : กลุ่มเครือข่าย GAP ภาคตะวันตก / หน่วยธุรกิจทดลองระบบผลิต
มาตรฐาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 96 หน้า.
รัฐศักดิ์ พลสิงห์. 2552. คลอง 15 – ถนนสายไม้ดอกไม้ประดับใหญ่ที่สุดในประเทศไทย.กสิกร 82(2) : 94- 100
สุธานิธิ์ ยุกตะนันทน์ อุไร จิรมงคลการ และวชิรพงศ์ หวลบุตตา. 2538. ไม้ดอกแสนสวย : ไม้ดอกไม้
ประดับ.กรุงเทพฯ : บ้านและสวน. 151 หน้า.
สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ. 2554. เจาะตลาดไม้ดอกไทยในต่างแดน อินโดฯ
ตลาดใหญ่ทีไม่ควรมองข้าม. แหล่งข้อมูล http://www.acfs.go.th/read_ news.php?id
=7360&ntype=09
หน่วยวิจัยธุรกิจการเกษตร คณะเศรษฐศาสตร์.2541. รายงานวิจัยโครงการศึกษาสินค้ายุทธศาสตร์ : ไม้
ดอกไม้ประดับ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.กรุงเทพฯ. 284 หน้า.
ให้นักศึกษาทุกคนประเมินประสิทธิผลของรายวิชา ทั้งด้านวิธีการสอน การจัดกิจกรรมในและห้องนอกเรียน สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน ที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ที่ได้รับ ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงรายวิชา ด้วยระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัยฯลฯ
ประเมินโดยสาขาวิชาแต่งตั้งคณะกรรมการประเมิน หรือจากการสังเกตการสอนโดยอาจารย์ ในสาขาวิชา หรือ การสัมภาษณ์ตัวแทนนักศึกษา
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร กำหนดให้อาจารย์ผู้สอนทบทวนและปรับปรุงกลยุทธ์และวิธีการสอนจากผลการประเมินประสิทธิภาพของรายวิชา แล้วจัดทำรายงานรายวิชาตามรายละเอียดที่ สกอ.กำหนดเมื่อสอนจบภาคการศึกษา
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทำหน้าที่ทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในรายวิชา
โดยการสุ่มประเมินข้อสอบและความเหมาะสมของการให้คะแนน ทั้งคะแนนดิบและระดับคะแนน ของ
รายวิชา 60% ของรายวิชาทั้งหมดในความรับผิดชอบของหลักสูตรภายในรอบเวลาหลักสูตร
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร มีระบบการทบทวนประสิทธิผลของรายวิชา โดนพิจารณาจากผลการประเมินการสอนโดยนักศึกษา ผลการประเมินโดยคณะกรรมการประเมินการสอนของมหาวิทยาลัยฯ การรายงานรายวิชาโดยอาจารย์ผู้สอน  หลังการทบทวนประสิทธิผลของรายวิชา อาจารย์ผู้สอนรับผิดชอบในการทบทวนเนื้อหาที่สอนและกลยุทธ์การสอนที่ใช้ และนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาในรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา