การตลาดบริการ

Services Marketing

เพื่อให้นักศึกษาได้ศึกษาลักษณะของตลาดบริการ และพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งความแตกต่างระหว่างตลาดสินค้ากับตลาดบริการ การใช้ส่วนประสมทางการตลาดสำหรับบริการเพื่อบรรลุคุณภาพการให้บริการตามความพึงพอใจของลูกค้า และความภักดีที่มีต่อการให้บริการขององค์กร รวมถึงแนวคิดด้านต่าง ๆ ทางด้านตลาดบริการที่สำคัญต่อความพึงพอใจของลูกค้า เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำไปประยุกต์กับการเรียนและการไปดำเนินธุรกิจในอนาคตได้
เพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของอุตสาหกรรมบริการ และประเภทของธุรกิจบริการ สามารถอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างสินค้าและบริการ มีความเข้าใจกระบวนการวางแผนการตลาดและกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจบริการ มีความรู้ด้านคุณภาพการบริการ และนำความรู้ที่ได้ศึกษาไปเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจบริการ
ศึกษาลักษณะของตลาดบริการ และพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งความแตกต่างระหว่างตลาดสินค้าและตลาดบริการ การใช้ส่วนประสมทางการตลาดสำหรับบริการเพื่อบรรลุคุณภาพการให้บริการความพึงพอใจของลูกค้า และความภักดีที่มีต่อการให้บริการขององค์กร รวมถึงแนวคิดต่าง ๆ ทางด้านตลาดบริการที่สำคัญต่อความพึงพอใจของลูกค้า
จัดเวลาให้เป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
1.ตระหนักในคุณค่าและคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต
2.มีวินัย ตรงต่อเวลา มีความรู้รับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
3.มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีม และสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ
4.เคารพในสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
5.เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม
6.สามารถวิเคราะห์ผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์ต่อบุคคล องค์กร และสังคม
7.มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
 
1.บรรยายพร้อมยกตัวอย่างสอดแทรกในเนื้อหาสาระที่เกี่ยวข้อง แล้วให้นักศึกษาร่วมอภิปรายแนวปฏิบัติที่ดี และเหมาะสม
2.อภิปรายกลุ่ม
3.กำหนดให้นักศึกษาหาตัวอย่างที่เกี่ยวข้อง
4.ศึกษากรณีตัวอย่างจากการนำเสนอ
1.พฤคิกรรมการเข้าเรียน และส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามขอบเขตที่ให้และตรงเวลา
2.มีการอ้างอิงเอกสารที่ได้นำมาทำรายงานอย่างถูกต้องและเหมาะสม
3.ประเมินผลการวิเคราะห์กรณีศึกษา
4.ประเมินผลการนำเสนอรายงานที่มอบหมาย
5.ประเมินจากการสอบ/ แบบทดสอบ
6.ประเมินจากการเข้าร่วมกิจกรรม/ โครงการของนักศึกษา
มีความรู้ในหลักการ และความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเรียนด้านบริหารธุรกิจ ที่ครอบคลุมทั้งการบัญชี เศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญของศาสตร์ด้านบริหารธุรกิจ ทางการตลาด การเงิน การผลิต และการดำเนินงาน รวมทั้งการจัดองค์กรและทรัพยากรมนุษย์ มีความรู้และความเข้าใจในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ ในด้านการวางแผนการปฏิบัติการ การควบคุมและการประเมินผลการดำเนินงานรวมทั้งการปรับปรุงแผนงาน มีความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพด้านบริหารธุรกิจ รวมทั้งมีความเข้าใจในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและผลกระทบอย่างเท่าทัน
ใช้วิธีการสอนหลายรูปแบบตามลักษณะของเนื้อหารายวิชา โดยเน้นหลักของทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อให้เกิดองค์ความรู้ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มอบหมายให้ทำรายงาน โครงงาน และนำเสนอหน้าชั้นเรียน นักศึกษาทุกคนศึกษาประสบการณ์ตรงจากสถานประกอบการโดยผ่านการฝึกประสบการณ์สหกิจศึกษาหรือการฝึกงานด้านบริหารธุรกิจ
1.ประเมินผลจากแบบทดสอบด้านทฤษฎี สำหรับการปฏิบัติ ประเมินผลจากผลงานและการปฏิบัติการ
2.ประเมินจากการเรียนรู้ระหว่างภาค เช่น การบ้าน งานที่มอบหมาย รายงาน การค้นคว้าหน้าชั้นเรียน
1.มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ต่อยอดกรอบความรู้เดิม สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษา และประสบการณ์เพื่อให้เกิดนวัตกรรม กิจกรรม หรือแนวทางในการบริหารธุรกิจใหม่ๆ
2.สามารถสืบค้น จำแนก และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้ได้ซึ่งสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหา และตัดสินใจอย่างเหมาะสม
3.สามารถคิดค้นทางเลือกใหม่ ๆ รวมทั้งสามารถวิเคราะห์ทางเลือกและผลกระทบที่เป็นผลจากทางเลือกอย่างรอบด้าน โดยการนำความรู้และประสบการณ์มาประยุกต์ใช้
4.มีความกล้าในการตัดสินใจเลือกทางเลือกที่สอดคล้องกับสถานการณ์
1.การศึกษาค้นคว้า และรายงานทางการเอกสาร และรายงานหน้าชั้นเรียน
2.การมอบหมายงาน การแก้ปัญหาจากกรณีศึกษา หรือสถานการณ์จำลอง
3.การสอนแบบเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วมในชั้นเรียนและมีการอภิปรายแสดงความคิดเห็น
4.ให้นักศึกษาปฏิบัติจากสถานการณ์จริง
 
1.สอบกลางภาคและปลายภาค โดยเน้นข้อสอบนำทฤษฎีความรู้มาประยุกต์ใช้กับกรณีศึกษาหรือกรณีตัวอย่างที่มอบให้
2.ประเมินจากการรายงานผลการศึกษาค้นคว้า โครงงานโดยการนำเสนอหน้าชั้นเรียนและเอกสารรายงาน
3.ประเมินจากกรณีศึกษา หรือสถานการณ์จำลอง
1.มีความสามารถในการประสานงาน มีมนุษยสัมพันธ์และสามารถสร้างสัมพันธภาพอันดีกับผู้อื่นด้วยพื้นฐานความเข้าใจถึงความแตกต่างของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมีจิตวิทยาที่ช่วยพัฒนาทักษะในการสร้างสัมพันธภาพระหว่างผู้เรียนด้วยกัน
2.พัฒนาความเป็นผู้นำและผู้ตามในการทำงานเป็นทีม มีความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม การประสานงาน การมอบหมายบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่อเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ
3.มีความกระตือรือร้น พัฒนาการเรียนรู้ด้วยตนเอง และมีความรับผิดชอบในงานี่มอบหมายให้ครบถ้วนตามกำหนดเวลา
4.มีความสามารถในการริเริมแสดงความคิดเห็นใหม่ ๆ ที่อาจมีความแตก่างอย่างสร้างสรรค์
1.กำหนดการทำงานกลุ่ม โดยให้หมุนเวียนการเป็นผู้นำ การเป็นสมาชิกกลุ่ม และผลัดกันเป็นผู้รายงาน
2.ให้ความสำคัญในการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบและการให้ความร่วมมือ
3.ใช้วิธีการสอนแบบเปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นแบบระดมสมอง(Bainstorming) เพื่อส่งเสริมการเคารพสิทธิและการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
1.ประเมินจากการรายงานหน้าชั้นเรียนโดยอาจารย์และนักศึกษา
2.ประเมินพฤติกรรมภาวการณ์เป็นผู้นำ และผู้ตามที่ดี
3.สังเกตพฤติกรรมการระดมสมอง (Bainstroming)
4.ติดตามการทำงาน่ร่วมกับสมาชิกกลุ่มมของนักศึกษา
1.สามารถประยุทธ์ใช้หลักคณิตศาสตร์ สถิติและการวิเคราะห์เชิงปริมาณมาใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ
2.สามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐานและเทคโนโลยีระบบสารสนเทศที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน
4.สามารถสื่อสารเพื่ออธิบายและสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องทั้งในรูปแบบการเขียนรายงานและการนำเสนอด้วยวาจา
5. สามารถสื่อสารด้วยบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถอและสามารถเลือกใช้รูปแบบของสื่อเทคนิค วิธีการและเทคโนโลยีที่เหมาะสม สอดคล้องกับกลุ่มบุคคลที่มีพื้นฐานและแนวความคิดที่หลากหลาย
6.ความสามารถนำเทคโนโลยีไปเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนในการดำเนินงานและทราบถึงข้อจำกัดของเทคโนโยี
7.ความสามารถนำเทคโนโลยีการสื่อสารแบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและดำเนินงาน
 
1.ส่งเสริมให้มีการตัดสินใจจากข้อมูลบนฐานข้อมูลและข้อมูลเชิงตัวเลข
2.การใช้ศักยภาพทางคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศในการงานที่ได้รับมอบหมาย
3.ส่งเสริมการค้นคว้า เรียบเรียงข้อมูลและนำเสนอให้ผู้อื่นเข้าใจได้ถูกตองและให้ความสำคัญในการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล
1.ประเมินจากผลงาน/ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เชิงตัวเลข
2.ประเมินงานจากการสืบค้นด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่มอบหมายแต่ละบุคคล
3.ประเมินทักษะการสื่อสารด้วยวิจา จากการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา คุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ทักษะทางปัญญา ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลขและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 5 ุุ6 7
1 12024301 การตลาดบริการ
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.1 1.6 1.7 2.1 2.4 2.6 3.2 สอบกลางภาคเรียน สอบปลายภาคเรียน 8 17 30% 30%
2 1.1 1.6 1.7 2.1 2.4 2.6 3.2 4.1 4.6 5.3 5.4 วิเคราะห์การค้นคว้า กรณีศึกษา การนำเสนอ การทำงานกลุ่มและผลงาน การส่งงานตามที่ได้รับมอบหมาย ตลอดภาคการศึกษา 30%
3 1.1 1.7 3.1 การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน ตลอดภาคการศึกษา 10%
ดร.ชัยสมพล ชาวประเสริฐ. การตลาดบริการ. กรุงเทพมหานคร
ธีรกิติ นวรัตน์ ณ อยุธยา. การตลาดบริการแนวคิดและกลยุทธ์.2549. กรุงเทพ
สุดาดวง เรืองรุจิระ. หลักการตลาด. กรุงเทพมหานคร
บทความทางการตลาด นิตยสาร วารสารทางการตลาด เช่น brandage  Maketeer
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฐานเศรษฐฏิจ เป็นต้น
สนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
ข้อเสนอแนะผ่านสื่อต่างๆ 
การสังเกตุการณ์สอนของผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ผลการเรียนของนักศึกษา
การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
การทวนสอบจากกรรมการทวนสอบ
ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี
มีการเปลี่ยนอาจารย์ผู้สอน เพื่อการปรับเปลี่ยนมุมมอง หรือประยุกต์ความรู้