การผลิตสัตว์ปีก

Poultry Production

1.1 รู้และเข้าใจประวัติและความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตสัตว์ปีกในประเทศ
1.2 เข้าใจประเภทและการดำเนินงานของธุรกิจการผลิตสัตว์ปีก
1.3 เข้าใจประเภท, พันธุ์และการผสมพันธุ์สัตว์ปีก
1.4 เข้าใจอาหาร โรงเรือน และอุปกรณ์สัตว์ปีก
1.5 มีทักษะในการเลี้ยงสัตว์ปีกระยะต่างๆ
1.5 เข้าใจวิธีการบริหารจัดการฟาร์มสัตว์ปีก
1.6 มีเจตนคติที่ดีต่อวิชาการผลิตสัตว์ปีก
 
2.1 มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการบูรณาการผลิตสัตว์ปีก เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2.2 สามารถปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่นได้ในฐานะผู้ประกอบการ นักวิชาการ หรือผู้จัดการฟาร์ม และสามารถคิดวิเคราะห์ได้อย่างมีเหตุผลและเป็นระบบ
2.3 มีคุณธรรม จริยธรรม สำนึกในจรรยาบรรณของวิชาชีพที่ดี มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และรับผิดชอบต่อการพัฒนาสังคมและเสริมสร้างเอกลักษณ์ไทย
2.4 มีทัศนคติและเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพทางการเกษตร
 
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับความสำคัญและสภาพการผลิตสัตว์ปีก เศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศประเภทและพันธุ์สัตว์ปีกการคัดเลือกและการผสมพันธุ์การวางผังฟาร์มโรงเรือนและอุปกรณ์อาหารและการให้อาหาร การบริหารและจัดการฟาร์มสัตว์ปีกมาตรฐานฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกการจัดการของเสียการสุขาภิบาลและป้องกันโรคพยาธิต่างๆธุรกิจและการตลาดสัตว์ปีก
Study and practices on the importance of poultry production and poultry production in Thailand and worldwide. This course also study on the types of poultry, breeds and breeding, farm layout, poultry housing and equipment, and feed and feeding. Poultry farms management and administration, standard practices of poultry farms, waste management, sanitation and parasite control and poultry farm business and marketing will also discussed.
1 จัดเวลาให้นักศึกษาเข้าพบเพื่อขอคำปรึกษาและแนะนำทางวิชาการสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง โดยใช้วิธีนักศึกษานัดหมายอาจารย์ล่วงหน้า
3.2 e-mail: piyamaz@hotmail.com เวลา 18.00 - 20.00 น. ทุกวัน
š 1.1 มีคุณธรรมและจริยธรรม หมายถึง ศรัทธาในความดี มีหลักคิดและแนวปฏิบัติในทางส่งเสริมความดีและคุณค่าความเป็นมนุษย์ มีความรับผิดชอบ มีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริตและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างสันติ
1.2 มีจรรยาบรรณ หมายถึง มีระเบียบวินัยและเคารพกฎกติกาของสังคม ประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ
1. กำหนดหลักเกณฑ์การเข้าห้องเรียนตรงต่อเวลาและเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมาย
2. บรรยายและยกตัวอย่างประกอบในเนื้อหา โดยสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม
3. ให้มีความรับผิดชอบในงานที่มอบหมาย และมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นในการสอบ
4. การอ้างอิงบทความวิชาการหรือแหล่งข้อมูลความรู้ต่างๆ มาใช้ต้องให้เกียรติแก่เจ้าของงานนั้น 
1. ประเมินการเข้าชั้นเรียน และการส่งงานที่ได้รับมอบหมายของนักศึกษา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของนักศึกษาเข้าเรียนตรงเวลา ส่งงานตามกำหนด และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่อาจารย์ผู้สอนกำหนด
2. ประเมินการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรม ตรงต่อเวลา มีวินัยและความสามัคคีในการทำกิจกรรม
3. ประเมินผลรายงาน หรืองานที่นำเสนอมีการอ้างอิงแหล่งที่มาทางวิชาการถูกต้อง
4. มีการฝึกทักษะและการปฏิบัติต่างๆให้ถูกตามหลักการเลี้ยงสัตว์ปีกเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
˜2.1 มีความรู้ในสาขาวิชาชีพ หมายถึง มีความรู้ ความเข้าใจ ในสาขาวิชาชีพที่เรียนอย่างถ่องแท้และเป็นระบบ ทั้งหลักการ ทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ทันสมัยในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
2.2 มีความรอบรู้ หมายถึง มีความรู้ในหลายสาขาวิชาและสามารถประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
1. บรรยายประกอบการอภิปรายในด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติการเลี้ยงสัตว์ปีกพร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่นักศึกษาพบเห็น มีสื่อการสอนต่างๆ เช่น ภาพประกอบทั้งภาพนิ่ง เป็นต้น
2. มอบหมายให้ทำรายงานและนำเสนอหน้าชั้นเรียน
3. มอบหมายให้อ่านวารสารทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับผลิตสัตว์ปีกพร้อมทั้งเขียนรายงานสรุปในเรื่องที่อ่าน และส่งเป็นการบ้าน
1. การทดสอบย่อยระหว่างเรียนในชั้นเรียน
2. การสอบกลางภาคเรียน และปลายภาคเรียน
3. ประเมินผลจากรายงาน และการนำเสนอรายงานที่ได้รับมอบหมาย
4. ประเมินผลการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
5. สอบภาคปฏิบัติเพื่อประเมินทักษะของนักศึกษา
3.1 สามารถคิดวิเคราะห์งานอย่างเป็นระบบ หมายถึง มีทักษะในการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลและคิดแบบองค์รวม
3.2 สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ หมายถึง ความสามารถในการคิดริเริ่มสร้างสรรค์จากพื้นฐานของความรู้ที่เรียน นำมาพัฒนานวัตกรรมหรือสร้างองค์ความรู้ใหม่
š3.3ใฝ่รู้และรู้จักวิธีการเรียนรู้ หมายถึง แสวงหาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆ อย่างสม่ำเสมอและรู้จักเทคนิควิธีและกระบวนการในการเรียนรู้และสามารถนำไปใช้ในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้อย่างเหมาะสม
 1. กำหนดหัวข้อและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสัตว์ปีก ให้นักศึกษาไปศึกษา ค้นคว้าข้อมูล และนำมาอภิปรายร่วมกัน พร้อมส่งรายงานสรุปผล
1. ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในการอภิปรายปัญหาในชั้นเรียน
2. ประเมินจากความถูกต้องของข้อมูลที่ได้ค้นคว้ามาและความสมบูรณ์ของรายงาน
4.1 ภาวะผู้นำ หมายถึง กล้าแสดงออก กล้าหาญ อดทน หนักแน่น รู้จักเสียสละ ให้อภัย และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น สุภาพ สามารถประสานความคิดและประโยชน์ด้วยหลักแห่งเหตุผลและความถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม รักองค์กร เป็นผู้นำกลุ่มกิจกรรมได้ทุกระดับและสถานการณ์ที่เหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ของตนเองทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตาม
š4.2 มีจิตอาสาและสำนึกสาธารณะ หมายถึง มีจิตสำนึกห่วงใยต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสมบัติ มีจิตอาสา ไม่ดูดาย มุ่งทำประโยชน์ให้สังคม
1. สอนโดยมีกิจกรรมเสริมในชั้นเรียนเพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และสาธารณสมบัติ เช่น กิจกรรมการกำจัดของเสียจากการทำฟาร์มสัตว์ปีก เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและชุมชน
1. การประเมินจากการแสดงออกอย่างมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม และประเมินผลงานจากรายงานการทำกิจกรรมของนักศึกษาทั้งแบบรายบุคคลและรายกลุ่ม
5.1 มีทักษะการสื่อสาร หมายถึง ความสามารถในการใช้ภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่านและเขียน เพื่อการสื่อสารให้เหมาะกับสถานการณ์ และการใช้ภาษาอังกฤษ ในการอ่าน พูด ฟัง และเขียน
š5.2 ทักษะทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมในการสื่อสารและค้นคว้าข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. แนะนำเทคนิคการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและ ระบบสารสนเทศอื่นๆ
2. มอบหมายงานให้นักศึกษาสืบค้นองค์ความรู้จากเอกสาร หรือข้อมูลผ่านทางเครือข่ายสารสนเทศ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
3. การประมวลผลประสิทธิภาพของงานฟาร์มสัตว์ปีกด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
1. ประเมินจากรายงาน ภาษาที่ใช้ในการเขียนรายงานและการนำเสนอในชั้นเรียนที่ได้รับมอบหมาย
2. สังเกตพฤติกรรมนักศึกษาด้านความมีเหตุผล ไหวพริบในการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
3. ประเมินจากความสำเร็จของงานที่มอบหมาย
-
-
-
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1.คุณธรรม จริยธรรม 2.ความรู้ 3.ทักษะทางปัญญา 4.ทักษะความ สัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5.ทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลขและการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1.1 1.2 2.1 2.2 3.1 3.2 3.3 4.1 4.2 5.1 5.2
1 BSCAG204 การผลิตสัตว์ปีก
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.1, 2.1 ทดสอบย่อยครั้งที่ 1 6 และ 8 10 %
2 1.1, 2.1, 3.3, 4.2, 5.2 การค้นคว้า นำเสนอผลงาน การทำงานกลุ่มและผลงาน สรุปและวิเคราะห์ผลงานกลุ่ม การส่งงานตามมอบหมาย การสอบภาคปฏิบัติ ทุกสัปดาห์ 40%
3 1.1, 2.1 สอบกลางภาค 9 15%
4 1.1, 2.1 ทดสอบย่อยครั้งที่ 2 15 และ 16 10%
5 1.1, 4.2, 5.2 การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของรายวิชา การมีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ความตั้งใจและความสนใจในชั้นเรียน ทุกสัปดาห์ 10%
6 1.1, 2.1 สอบปลายภาค 18 15%
1. เชิดชัย รัตนเศรษฐากุล.2529. โรคสัตว์ปีก.ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัย ขอนแก่น,ขอนแก่น,279 หน้า.
2. นที นิลนพคุณ.2529. คัพภะวิทยาทางสัตวแพทย์. ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.245 หน้า.
3. นุกูล เจนประจักษ์.2543. การฟักไข่.โรงพิมพ์เพทพริ้นติ้งเซ็นเตอร์,กรุงเทพฯ.119 หน้า.
4. เบทาโกร.2542. การจัดการโรงฟักไข่. เอกสารทางวิชาการชุดที่7 บริษัทเบทาโกรจำกัด,กรุงเทพฯ.15หน้า.
5. บุญเสริม ชีวะอิสระกุลและบุญล้อม ชีวะอิสระกุล.2542. พื้นฐานสัตวศาสตร์.ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,เชียงใหม่.186 หน้า.
6. วรวิทย์ วนิชาภิชาติ.2531. ไข่และการฟักไข่. ภาควิชาสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.240 หน้า.
7. สุชน ตั้งทวีวัฒน์. 2542. การจัดการผลิตสัตว์ปีก. ภาควิชาสัตวศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่,เชียงใหม่.287หน้า.
8.อาวุธ ตันโช. 2538.การผลิตสัตว์ปีก.ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,กรุงเทพ. 256 หน้า.
9. กรุงเทพโปรดิวส์.2542. การจัดการโรงฟักไข่. เอกสารทางวิชาการบริษัทกรุงเทพโปรดิวส์,กรุงเทพฯ. 20หน้า
10. ปฐม เลาหเกษตร.2540. การเลี้ยงสัตว์ปีก.ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ คณะเทคโนโลยีการเกษตรสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,กรุงเทพ.317 หน้า.
11. สุวรรณ เกษตรสุวรรณ.2529.ไข่และเนื้อไก่. ภาควิชาสัตวศาสตร์ศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.382 หน้า.
12. สุวรรณ เกษตรสุวรรณ,วรรณดา สุจริต,ประทีป ราชแพทยาคม,สุภาพร อิสริโยดม,กระจ่าง วิสุทธารมณ์ และบุญธง ศิริพานิช.การเลี้ยงไก่.ภาควิชาสัตวศาสตร์ศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,กรุงเทพฯ.337 หน้า.
13. อนุชา แสงโสภณ.2539.การฟักไข่และการจัดการโรงฟัก.ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กรุงเทพ.126หน้า.
14. อาวุธ ตันโช.2538.การผลิตสัตว์ปีก.ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตสัตว์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง,กรุงเทพ.256 หน้า.
15. Blakley,J. and D.H.Bade.1979.The Science of Animal Husbandry.Reston Publishing Company Inc.Reston, Virginis.
16.J. Wiseman, P.C. Gamsworthy.1999. Recent Developments in Poultry Nutrition 2. Nottingham University Press, Nottingham.342 p.
17. Jull,M.A.Poultry Husbandry. TATA McGraw Hill Publishing Company Ltd. New Delhi.
18. M.Larbier and B.L.Chereq.1994. Nutrition and Feeding of Poultry Nottingham University Press, Nottingham.305 p
 
 
 
-วารสารของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
-VCD การจัดการโรงฟักไข่ของบริษัทฟาร์ม
-คู่มือการจัดการฟาร์มไก่เนื้อและฟาร์มไก่พันธุ์ของบริษัทที่ผลิตสัตว์ปีกครบวงจรในประเทศไทย
-website ที่เกี่ยวกับการฟักไข่, การเจริญของตัวอ่อนไก่และสัตว์ปีกอื่น ๆ ที่สำคัญ
-website ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสัตว์ปีก
1.1 ให้นักศึกษาประเมินประสิทธิผลของรายวิชา โดยใช้แบบประเมินอาจารย์ผู้สอนรายวิชา ได้แก่ วิธีการสอน การจัดกิจกรรมในและนอกห้องเรียน สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน ซึ่งมีผลกระทบต่อการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ที่ได้รับพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง
2.1 ประเมินการจัดการเรียนการสอนจากการทดสอบย่อยและตอบคำถามของนักศึกษา ระหว่างการสอนแต่ละหน่วยการเรียน
3.1 ทบทวนและปรับปรุงกลยุทธ์และวิธีการสอนจากผลการประเมินประสอทธิภาพของรายวิชา
3.2 จัดทำรายงานเมื่อสอนจบภาคการศึกษา
3.3 ให้อาจารย์ผู้สอนเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการผลิตสัตว์ปีกเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
3.4 ประชุมอาจารย์ประจำวิชา เพื่อหารือปัญหาการเรียนรู้ของนักศึกษาและร่วมกันหาแนวทางแก้ไข
4.1 ผลการเรียนรู้เชิงพฤติกรรม
4.2 การแจ้งคะแนนสอบให้นักศึกษาทราบเป็นระยะ
4.3 การออกข้อสอบร่วม
4.4 ให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนรายงานและการนำเสนอรายงาน
4.5 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร
4.6 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
 
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชาได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
-ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
-อาจารย์ผู้สอนรับผิดชอบในการทบทวนเนื้อหาที่สอนและกลยุทธ์การสอนที่ใช้ และนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาในรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา เสนอต่อหัวหน้าสาขาวิชา