การชุบเคลือบผิวเครื่องประดับ
Jewelry Electro and Plating
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในชุบเคลือบผิว เครื่องประดับด้วยโลหะมีค่า ตลอดจนเข้าใจและคำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และการกำจัดของ เสียที่เกิดจากกระบวนการชุบเคลือบผิวเครื่องประดับ
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับและมีทักษะ ในการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในชุบเคลือบผิวเครื่องประดับด้วยโลหะมีค่า ตลอดจนได้เรียนรู้ขั้นตอนและ กระบวนการชุบเคลือบผิวเครื่องประดับแบบต่าง ๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการประกอบอาชีพทางด้านอัญมณีและ เครื่องประดับ ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและแนวโน้มด้านต่าง ๆ ที่มีความก้าวหน้าไปตามยุคสมัย
ศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการชุบเคลือบผิวเครื่องประดับด้วยไฟฟ้า วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือใน การชุบเคลือบผิว กระบวนการชุบแบบต่าง ๆ เช่น ชุบเงิน ชุบทอง ชุบทองคำขาว การตรวจสอบคุณภาพชิ้นงาน การคำนึงถึงความปลอดภัยและการกำจัดของเสียจากกระบวนการชุบ
- อาจารย์ผู้สอน ประกาศช่วงเวลาให้คำปรึกษาภายในชั้นเรียน
- อาจารย์ผู้สอน จัดเวลาให้คำปรึกษาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- อาจารย์ผู้สอน จัดเวลาให้คำปรึกษาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1.1 มีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือวิชาชีพ
1.2.1 บรรยายและสอดแทรกเนื้อหาเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตทั้งทางด้านวิชาการและทางด้านวิชาชีพ ซึ่งจรรยาบรรณเป็นสิ่งที่สำคัญในการประกอบวิชาชีพทางด้านเครื่องประดับและอัญมณี
1.3.1 ประเมินผลจากการสอบถามในชั้นเรียนและปริมาณการกระทำทุจริตในการสอบ
2.1.1 มีความรู้และความเข้าใจทั้งทางด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา
2.2.1 บรรยายและยกตัวอย่างเกี่ยวกับเนื้อหาในรายวิชา โดยการใช้สไลด์ ภาพนิ่งและ วีดิทัศน์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจตามเนื้อหาในรายวิชา
2.3.1 ประเมินผลจากการสอบข้อเขียนทั้งสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน
3.1.1 มีทักษะการปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการหรือวิชาชีพ
3.2.1 มอบหมายให้นักศึกษาสืบค้นเกี่ยวกับเอกสารทางวิชาการ งานวิจัย กรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชุบเคลือบผิวเครื่องประดับแเป็นรายบุคคล นำเสนอและ อภิปรายภายในชั้นเรียน
3.3.1 ประเมินผลจากการสอบถามในห้องเรียน
3.3.2 ประเมินผลจากการคิดวิเคราะห์และการนำเสนองาน
3.3.2 ประเมินผลจากการคิดวิเคราะห์และการนำเสนองาน
4.1.1 มีมนุษยสัมพันธ์และมารยาทสังคมที่ดี
4.1.2 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
4.1.2 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม
4.2.1 มอบหมายให้นักศึกษาสืบค้นเกี่ยวกับเอกสารทางวิชาการ งานวิจัย กรณีศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการชุบเคลือบผิวเครื่องประดับแเป็นรายบุคคล นำเสนอและ อภิปรายภายในชั้นเรียน
4.3.1 ประเมินผลจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนักศึกษาในการนำเสนอรายงานกลุ่มในชั้นเรียนและพฤติกรรมการแสดงออกในการร่วมกิจกรรมกลุ่ม
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา | 1.ด้านคุณธรรมจริยธรรม | 2.ด้านความรู้ | 3.ด้านทักษะทางปัญญา | 4.ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ | 5.ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รหัสวิชา | ชื่อวิชา | 1 | 2 | 3 | 4 | 1 | 2 | 3 | 1 | 2 | 1 | 2 | 3 | 4 | 1 | 2 | 3 |
1 | 43043047 | การชุบเคลือบผิวเครื่องประดับ |
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | 2.1.1 มีความรู้และความเข้าใจทั้งทางด้านทฤษฎีและหลักการปฏิบัติในเนื้อหาที่ศึกษา | การสอบกลางภาคและสอบปลายภาค | สัปดาห์ที่ 9 และ 17 | ร้อยละ 30 |
2 | 3.1.1 มีทักษะการปฏิบัติจากการประยุกต์ความรู้ทั้งทางด้านวิชาการหรือวิชาชีพ 4.1.1 มีมนุษยสัมพันธ์และมารยาทสังคมที่ดี 4.1.2 สามารถใช้ความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือสังคมในประเด็นที่เหมาะสม | 1. ประเมินผลจากการสอบถามในห้องเรียน 2. ประเมินผลจากการคิดวิเคราะห์และการนำเสนองาน 3. การปฏิบัติงาน | สัปดาห์ที่ 1-16 | ร้อยละ 60 |
3 | 1.1.1 มีจรรยาบรรณทางวิชาการหรือวิชาชีพ | ประเมินผลจากการสอบถามในชั้นเรียนและปริมาณการกระทำทุจริตในการ สอบ การมีส่วนร่วม | สัปดาห์ที่ 1-17 | ร้อยละ 10 |
สมชาย มนัสเกียรติกุล.2550. คู่มือการชุบโลหะมีค่าบนเครื่องประดับ. ห้างหุ้นส่วนจำกัด
บางกอกบล๊อก. 88 หน้า.
สมชาย มนัสเกียรติกุล, สุพิชฌา สุพรรณสมบูรณ์ และ สุภิญญษ วงษ์ศรีรักษา. 2549.
เทคนิคการชุบเครื่องประดับ. โครงการเพิ่มขีดความสามารุการแข่งขันธุรกิจแฟชั่น
สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ภายใต้โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น.
บางกอกบล๊อก. 88 หน้า.
สมชาย มนัสเกียรติกุล, สุพิชฌา สุพรรณสมบูรณ์ และ สุภิญญษ วงษ์ศรีรักษา. 2549.
เทคนิคการชุบเครื่องประดับ. โครงการเพิ่มขีดความสามารุการแข่งขันธุรกิจแฟชั่น
สาขาอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ภายใต้โครงการกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น.
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและ ความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้
1.1 การสนทนาระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
1.2 แบบประเมินผู้สอนและแบบประเมินรายวิชาตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัย
1.1 การสนทนาระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
1.2 แบบประเมินผู้สอนและแบบประเมินรายวิชาตามข้อกำหนดของมหาวิทยาลัย
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน มีกลยุทธ์ ดังนี้
2.1 การสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษา
2.2 การอภิปรายของผู้เรียนต่อเนื้อหาที่เรียน
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
2.1 การสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษา
2.2 การอภิปรายของผู้เรียนต่อเนื้อหาที่เรียน
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการหาข้อมูลเพิ่มเติม ในการปรับปรุงการสอน ดังนี้
3.1 ทบทวนเนื้อหาและวิธีการสอนให้สอดคล้องกับเกณฑ์ที่กำหนด
3.2 หาแนวทางและวิธีการสอนที่เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน
3.1 ทบทวนเนื้อหาและวิธีการสอนให้สอดคล้องกับเกณฑ์ที่กำหนด
3.2 หาแนวทางและวิธีการสอนที่เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อตามที่คาดหวัง จากการเรียนรู้ในวิชา โดยมีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์รวมในวิชาได้ดังนี้
4.1 การทวนสอบผลการให้คะแนนนักศึกษาตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย
4.2 การประเมินผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ 5 ด้าน
4.1 การทวนสอบผลการให้คะแนนนักศึกษาตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย
4.2 การประเมินผลสัมฤทธิ์ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ 5 ด้าน
จากผลการประเมินและทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับ ปรุงการสอน และรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุกปีตามผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 การประชุมกรรมการประจำหลักสูตรเพื่พิจารณาปรับปรุงประสิทธิผลรายวิชา
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุกปีตามผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 การประชุมกรรมการประจำหลักสูตรเพื่พิจารณาปรับปรุงประสิทธิผลรายวิชา