การพัฒนาหลักสูตร
Curriculum Development
เพื่อให้นักศึกษา
1. รู้ความสำคัญและองค์ประกอบของหลักสูตร
2. เข้าใจการประเมินและพัฒนาหลักสูตร
3. เห็นความสำคัญของการจัดทำและการนำหลักสูตรไปใช้
4. มีสมรรถนะในการวิเคราะห์และจัดทำหลักสูตร
5. มีสมรรถนะในการประเมินหลักสูตรและนำผลการประเมินไปพัฒนา
หลักสูตร
6. มีทัศนคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพครู
1. รู้ความสำคัญและองค์ประกอบของหลักสูตร
2. เข้าใจการประเมินและพัฒนาหลักสูตร
3. เห็นความสำคัญของการจัดทำและการนำหลักสูตรไปใช้
4. มีสมรรถนะในการวิเคราะห์และจัดทำหลักสูตร
5. มีสมรรถนะในการประเมินหลักสูตรและนำผลการประเมินไปพัฒนา
หลักสูตร
6. มีทัศนคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพครู
วิชานี้เป็นวิชาในหลักสูตรที่ทำการปรับปรุงใหม่ทั้งเล่มของปีการศึกษา 2560 เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ขั้นพื้นฐาน เข้าใจในเรื่องหลักสูตรและการพัฒนา ตลอดจนบริบทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนด้านวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์และช่างอุตสาหกรรม
ศึกษาเกี่ยวกับหลักการ แนวคิดทฤษฎีหลักสูตร บริบทที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรด้านอาชีวะและเทคนิคศึกษา กระบวนการพัฒนาหลักสูตร การออกแบบและจัดทำหลักสูตรรายวิชาชีพในสาขาวิชาเอกตามกลุ่มหลักสูตรที่นักศึกษาสังกัด การนำหลักสูตรไปใช้ การประเมินหลักสูตร การนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร สภาพและปัญหาของหลักสูตรด้านอาชีวะและเทคนิคศึกษา แนวโน้มในการพัฒนาหลักสูตร
นักศึกษาต้องมีคุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
อย่างราบรื่นและประพฤติตนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม อาจารย์ผู้สอนในแต่ละรายวิชาต้องส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมไปพร้อมกับวิทยาการต่างๆ ดังนี้
(1) แสดงออกซึ่งจิตสำนึกสาธารณะ และตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพครูที่เสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน
(2) สามารถจัดการและคิดแก้ปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู
(3) แสดงออกซึ่งการมีวินัย ขยัน อดทน เสียสละ ตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อมและเป็นแบบอย่างที่ดี
(4) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
อย่างราบรื่นและประพฤติตนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม อาจารย์ผู้สอนในแต่ละรายวิชาต้องส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมไปพร้อมกับวิทยาการต่างๆ ดังนี้
(1) แสดงออกซึ่งจิตสำนึกสาธารณะ และตระหนักในคุณค่าของคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพครูที่เสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน
(2) สามารถจัดการและคิดแก้ปัญหาทางคุณธรรมจริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู
(3) แสดงออกซึ่งการมีวินัย ขยัน อดทน เสียสละ ตรงต่อเวลา ความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อมและเป็นแบบอย่างที่ดี
(4) เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
(1) กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กรเพื่อเป็นการปลูกฝังให้นักศึกษามีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อมและเป็นแบบอย่างที่ดี เช่น การเข้าชั้นเรียนให้ตรงเวลา การแต่งกายตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัย
(2) กำหนดให้นักศึกษาต้องมีความรับผิดชอบโดยในการทำงานกลุ่ม โดยฝึกให้รู้บทบาทและหน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่ม การเป็นสมาชิกกลุ่ม การเคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งการเห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
(3) สอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในการสอนแต่ละรายวิชา ในด้านความซื่อสัตย์สุจริตในการสอบ รวมทั้งการมีมารยาททางวิชาการ การไม่คัดลอกผลงานทางวิชาการของผู้อื่น
(4) จัดกิจกรรมส่งเสริมและคิดแก้ปัญหาทางคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู และการมีจิตสำนึกสาธารณะ เช่น การยกย่องนักศึกษาที่ทำความดี การทำประโยชน์และเสียสละแก่ส่วนรวม
(2) กำหนดให้นักศึกษาต้องมีความรับผิดชอบโดยในการทำงานกลุ่ม โดยฝึกให้รู้บทบาทและหน้าที่ของการเป็นผู้นำกลุ่ม การเป็นสมาชิกกลุ่ม การเคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นรวมทั้งการเห็นคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
(3) สอดแทรกเรื่องคุณธรรม จริยธรรมในการสอนแต่ละรายวิชา ในด้านความซื่อสัตย์สุจริตในการสอบ รวมทั้งการมีมารยาททางวิชาการ การไม่คัดลอกผลงานทางวิชาการของผู้อื่น
(4) จัดกิจกรรมส่งเสริมและคิดแก้ปัญหาทางคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครู และการมีจิตสำนึกสาธารณะ เช่น การยกย่องนักศึกษาที่ทำความดี การทำประโยชน์และเสียสละแก่ส่วนรวม
(1) ประเมินด้านจิตพิสัยของนักศึกษา เช่น การตรงต่อเวลา การเข้าชั้นเรียน การแต่งกาย การส่งงานที่ได้รับมอบหมายตามเวลาที่กำหนด และการเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร
(2) ประเมินความรับผิดชอบในการทำงานเป็นกลุ่ม การนำเสนอรายงานหน้าชั้นเรียนและการรับฟังความคิดเห็นจากอาจารย์ผู้สอนและกลุ่มนักศึกษาในชั้นเรียน
(3) ประเมินจากรายงานการกระทำทุจริตในการสอบ การมีมารยาททางวิชาการ และการตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการของผู้อื่น
(4) ประเมินผลจากรายงานการจัดกิจกรรมทางด้านคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครูและการมีจิตสำนึกสาธารณะ
(2) ประเมินความรับผิดชอบในการทำงานเป็นกลุ่ม การนำเสนอรายงานหน้าชั้นเรียนและการรับฟังความคิดเห็นจากอาจารย์ผู้สอนและกลุ่มนักศึกษาในชั้นเรียน
(3) ประเมินจากรายงานการกระทำทุจริตในการสอบ การมีมารยาททางวิชาการ และการตรวจสอบการคัดลอกผลงานทางวิชาการของผู้อื่น
(4) ประเมินผลจากรายงานการจัดกิจกรรมทางด้านคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพครูและการมีจิตสำนึกสาธารณะ
1) ผลการเรียนรู้ด้านความรู้
นักศึกษาต้องมีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาสาระของรายวิชาวิศวศึกษาตามเอกวิชา คือ วิศวกรรมไฟฟ้าหรือวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมหรือวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
โดยมีประเด็นที่สำคัญดังนี้
สาระความรู้
1. หลักการ ความสำคัญและองค์ประกอบและทฤษฎีของหลักสูตร
2. หลักการและแนวคิดการจัดทำหลักสูตรรายวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์
3. การนำหลักสูตรไปใช้
4. การประเมินผลหลักสูตร
5. แนวโน้มและปัญหาด้านหลักสูตรอาชีวะและเทคนิคศึกษา
6. บูรณาการ การจัดทำหลักสูตรกับหลักและวิธีการสอน (Bloom’s Taxonomy)
7. ติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ
สมรรถนะ
การวิเคราะห์และการจัดทำหลักสูตรรายวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินหลักสูตร การนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร
ซึ่งสาระความรู้และสมรรถนะที่กล่าวมาประกอบกันขึ้นเป็นองค์ความรู้ที่จะพัฒนาความสามารถและทักษะของนักศึกษาครูช่างอุตสาหกรรม ดังนั้นมาตรฐานความรู้ต้องครอบคลุมดังนี้
(1) มีความรอบรู้ในด้านความรู้ทั่วไป วิชาชีพครูและวิชาชีพเฉพาะอย่างกว้างขวาง ลึกซึ้ง และเป็นระบบ
(2) สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีในสาขาวิชาชีพเฉพาะ รวมทั้งคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าองค์ความรู้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของงานวิจัยเพื่อต่อยอดองค์ความรู้
(3) สามารถนำหลักการและทฤษฎีในองค์ความรู้ที่ได้ศึกษาไปบูรณาการข้ามศาสตร์ และบูรณาการกับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเหมาะสม
นักศึกษาต้องมีความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาสาระของรายวิชาวิศวศึกษาตามเอกวิชา คือ วิศวกรรมไฟฟ้าหรือวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมหรือวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
โดยมีประเด็นที่สำคัญดังนี้
สาระความรู้
1. หลักการ ความสำคัญและองค์ประกอบและทฤษฎีของหลักสูตร
2. หลักการและแนวคิดการจัดทำหลักสูตรรายวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์
3. การนำหลักสูตรไปใช้
4. การประเมินผลหลักสูตร
5. แนวโน้มและปัญหาด้านหลักสูตรอาชีวะและเทคนิคศึกษา
6. บูรณาการ การจัดทำหลักสูตรกับหลักและวิธีการสอน (Bloom’s Taxonomy)
7. ติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ
สมรรถนะ
การวิเคราะห์และการจัดทำหลักสูตรรายวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินหลักสูตร การนำผลการประเมินไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตร
ซึ่งสาระความรู้และสมรรถนะที่กล่าวมาประกอบกันขึ้นเป็นองค์ความรู้ที่จะพัฒนาความสามารถและทักษะของนักศึกษาครูช่างอุตสาหกรรม ดังนั้นมาตรฐานความรู้ต้องครอบคลุมดังนี้
(1) มีความรอบรู้ในด้านความรู้ทั่วไป วิชาชีพครูและวิชาชีพเฉพาะอย่างกว้างขวาง ลึกซึ้ง และเป็นระบบ
(2) สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีในสาขาวิชาชีพเฉพาะ รวมทั้งคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าองค์ความรู้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญของงานวิจัยเพื่อต่อยอดองค์ความรู้
(3) สามารถนำหลักการและทฤษฎีในองค์ความรู้ที่ได้ศึกษาไปบูรณาการข้ามศาสตร์ และบูรณาการกับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเหมาะสม
(1) เลือกใช้วิธีการสอนให้เหมาะสมตามหัวข้อของลักษณะรายวิชา โดยการวิเคราะห์และสังเคราะห์ตามสภาพจริง โดยสอนแบบรรยาย มอบหมายงานส่วนบุคคลและงานกลุ่ม จัดทำหลักสูตรรายวิชาเป็นรายบุคคล
(2) ส่งเสริมและชี้แนะให้นักศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางวิชาการรวมทั้งการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าองค์ความรู้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม
แล้วนำมาประยุกต์สร้างผลงานทางวิชาการ โดยมอบหมายให้ค้นคว้าหลักสูตรสาขาวิชาระดับปวช.และปวส.
(3) ส่งเสริมและชี้แนะการบูรณาการนำความรู้ร่วมกับศาสตร์อื่นๆ เพื่อนำมาประยุกต์เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนการฝึกงานในสถานประกอบการ และปฏิบัติประสบการณ์วิชาชีพครู นำความรู้ในวิชาชีพมาจัดทำหลักสูตรรายวิชา
(2) ส่งเสริมและชี้แนะให้นักศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางวิชาการรวมทั้งการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่าองค์ความรู้ด้วยวิธีการที่เหมาะสม
แล้วนำมาประยุกต์สร้างผลงานทางวิชาการ โดยมอบหมายให้ค้นคว้าหลักสูตรสาขาวิชาระดับปวช.และปวส.
(3) ส่งเสริมและชี้แนะการบูรณาการนำความรู้ร่วมกับศาสตร์อื่นๆ เพื่อนำมาประยุกต์เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างเหมาะสม ตลอดจนการฝึกงานในสถานประกอบการ และปฏิบัติประสบการณ์วิชาชีพครู นำความรู้ในวิชาชีพมาจัดทำหลักสูตรรายวิชา
(1) ประเมินผลตลอดภาคเรียน
(2) ประเมินผลจากงานที่มอบหมาย
(2) ประเมินผลจากงานที่มอบหมาย
นักศึกษาต้องได้รับการพัฒนาทักษะทางปัญญาควบคู่กับคุณธรรมและจริยธรรมและความรู้ทางด้านวิชาชีพ โดยกระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นให้นักศึกษารู้จักคิดหาเหตุผล เข้าใจที่มาและสาเหตุของปัญหา แนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ดังนั้นมาตรฐานทักษะทางปัญญาต้องครอบคลุมดังนี้
มีจินตนาการในการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและแก้ปัญหาที่มี ความสลับ
ซับซ้อนในการประยุกต์ความรู้ทางด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อพัฒนานวัตกรรม
(2) มีทักษะในการเป็นผู้นำความรู้เพื่อการสืบค้นข้อมูล วินิจฉัย วิเคราะห์และสรุปประเด็นของสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ
มีจินตนาการในการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจและแก้ปัญหาที่มี ความสลับ
ซับซ้อนในการประยุกต์ความรู้ทางด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อพัฒนานวัตกรรม
(2) มีทักษะในการเป็นผู้นำความรู้เพื่อการสืบค้นข้อมูล วินิจฉัย วิเคราะห์และสรุปประเด็นของสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ
(1) ใช้กระบวนการเรียนการสอนที่หลากหลายซึ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยฝึกทักษะด้านปฏิบัติการ
(2) ให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ แล้ววินิจฉัยและสรุปประเด็นของสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ
(2) ให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ แล้ววินิจฉัยและสรุปประเด็นของสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและเป็นระบบ
(1) ประเมินผลกระบวนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
(2) ประเมินผลจากการฝึกทักษะด้านปฏิบัติการ
(3) ประเมินผลจากการอภิปรายแนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาในประเด็นที่ได้จากการสืบค้นข้อมูลอย่างเป็นระบบ
(2) ประเมินผลจากการฝึกทักษะด้านปฏิบัติการ
(3) ประเมินผลจากการอภิปรายแนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาในประเด็นที่ได้จากการสืบค้นข้อมูลอย่างเป็นระบบ
นักศึกษาต้องออกไปประกอบอาชีพซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับคนที่ไม่รู้จักมาก่อน การมี ความสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มคนต่างๆ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นอาจารย์ผู้สอนต้องสอดแทรกวิธีการที่เกี่ยวข้องให้นักศึกษาระหว่างที่สอนเกี่ยวกับคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
(1) แสดงออกถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์
(2) แสดงออกถึงการมีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามที่สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม
(3) สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมตามบทบาท หน้าที่ การทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือและเอื้อต่อการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
(4) สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน และมีจิตสำนึกต่อสังคมด้านการนำความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
(1) แสดงออกถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์
(2) แสดงออกถึงการมีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตามที่สามารถคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวม
(3) สามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมตามบทบาท หน้าที่ การทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือและเอื้อต่อการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
(4) สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการทำงาน และมีจิตสำนึกต่อสังคมด้านการนำความรู้ในศาสตร์มาช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสม
(1) ส่งเสริมให้มีกิจกรรมกลุ่มที่แสดงออกถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
(2) ส่งเสริมการนำเสนอผลงานหรือกิจกรรมทางวิชาการ
(3) กำหนดบทบาท หน้าที่ การทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือและเอื้อต่อการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
(2) ส่งเสริมการนำเสนอผลงานหรือกิจกรรมทางวิชาการ
(3) กำหนดบทบาท หน้าที่ การทำงานเป็นทีม ช่วยเหลือและเอื้อต่อการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์
(1) ประเมินพฤติกรรมจากการแสดงออกถึงการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
(2) ประเมินผลการนำเสนอผลงานหรือกิจกรรมทางวิชาการ
(3) ประเมินผลการทำงานเป็นทีมตามที่ได้รับมอบหมาย
(2) ประเมินผลการนำเสนอผลงานหรือกิจกรรมทางวิชาการ
(3) ประเมินผลการทำงานเป็นทีมตามที่ได้รับมอบหมาย
ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสำคัญในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพ นักศึกษาต้องมีความรู้และมีทักษะเกี่ยวกับการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน การติดต่อสื่อสารและการพัฒนาตนเอง ดังนั้นอาจารย์ผู้สอนต้องฝึกให้นักศึกษามีคุณสมบัติดังนี้
(1) มีทักษะในการเลือกใช้วิธีการและเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารทั้งที่เป็นตัวเลขเชิงสถิติ คณิตศาสตร์ ภาษาพูดและภาษาเขียน อันมีผลทำให้สามารถเข้าใจองค์ความรู้หรือประเด็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
(2) สามารถใช้ดุลยพินิจในการสืบค้น วิเคราะห์ ประมวลผล แปลความหมายและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
(3) สามารถสนทนา เขียน และนำเสนอทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(1) มีทักษะในการเลือกใช้วิธีการและเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูล ข่าวสารทั้งที่เป็นตัวเลขเชิงสถิติ คณิตศาสตร์ ภาษาพูดและภาษาเขียน อันมีผลทำให้สามารถเข้าใจองค์ความรู้หรือประเด็นปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
(2) สามารถใช้ดุลยพินิจในการสืบค้น วิเคราะห์ ประมวลผล แปลความหมายและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
(3) สามารถสนทนา เขียน และนำเสนอทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
(1) ติดตามข้อมูลข่าวสารประเด็นสำคัญด้านวิชาการจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
(2) วิเคราะห์และแปลความหมายจากข้อมูลข่าวสาร
(3) นำเสนอรายงานด้านวิชาการโดยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
(2) วิเคราะห์และแปลความหมายจากข้อมูลข่าวสาร
(3) นำเสนอรายงานด้านวิชาการโดยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
(1) ความสามารถในการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการติดตามข้อมูลข่าวสาร
(2) ความสามารถในการวิเคราะห์และแปลความหมาย
(3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
(4) จรรยามารยาทในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และวัฒนธรรมสากล
(2) ความสามารถในการวิเคราะห์และแปลความหมาย
(3) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน
(4) จรรยามารยาทในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และวัฒนธรรมสากล
การทำงานในสถานศึกษา สถานประกอบการหรือการประกอบอาชีพอิสระนั้นส่วนใหญ่จะเน้นในด้านทักษะการปฏิบัติ การวางแผน การออกแบบ การทดสอบ และการปรับปรุงแก้ไข รวมถึงการมีทักษะการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเนื้อหาและสภาพของกลุ่มผู้เรียนที่หลากหลายตามสภาพจริง ดังนั้นในการเรียนการสอนจึงต้องมุ่งเน้นการสร้างทักษะการปฏิบัติงานและ
การจัดการเรียนรู้ดังต่อไปนี้
(1) แสดงออกถึงการมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ด้านการปฏิบัติงานในวิชาชีพเฉพาะ วิชาชีพครู การบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการ ที่มีรูปแบบหลากหลายอย่างบูรณาการและสร้างสรรค์
(2) แสดงออกถึงการมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนรวมถึงประยุกต์วิธีการสอนได้อย่างบูรณาการที่เหมาะสมกับเนื้อหาและสภาพของกลุ่มผู้เรียนที่หลากหลายอย่างมีนวัตกรรม
การจัดการเรียนรู้ดังต่อไปนี้
(1) แสดงออกถึงการมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ด้านการปฏิบัติงานในวิชาชีพเฉพาะ วิชาชีพครู การบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการ ที่มีรูปแบบหลากหลายอย่างบูรณาการและสร้างสรรค์
(2) แสดงออกถึงการมีทักษะในการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบการสอนรวมถึงประยุกต์วิธีการสอนได้อย่างบูรณาการที่เหมาะสมกับเนื้อหาและสภาพของกลุ่มผู้เรียนที่หลากหลายอย่างมีนวัตกรรม
(1) สร้างทักษะในการปฏิบัติงาน
(1) ประเมินจากกิจนิสัยในการปฏิบัติงาน
(2) ประเมินผลทักษะในการปฏิบัติงาน
(2) ประเมินผลทักษะในการปฏิบัติงาน
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา | ด้านคุณธรรมจริยธรรม | ด้านความรู้ | ด้านทักษะทางปัญญา | ด้านความสัมพันธ์บุคคลและความรับผิดชอบ | ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลขการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ | ด้านทักษะการจัดการเรียนรู้ | ||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลำดับ | รหัสวิชา | ชื่อวิชา | 1 | 2 | 3 | 4 | 1 | 2 | 3 | 1 | 2 | 1 | 2 | 3 | 4 | 1 | 2 | 3 | 1 | 2 |
1 | TEDCC806 | การพัฒนาหลักสูตร |
กิจกรรมที่ | ผลการเรียนรู้ * | วิธีการประเมินผลนักศึกษา | สัปดาห์ที่ประเมิน | สัดส่วนของการประเมินผล |
---|---|---|---|---|
1 | 2.1-2.3, 3.2, 5.3 | สอบกลางภาค สอบปลายภาค | 8 17 | 35% 35% |
2 | 1.2-1.4, 2.1-2.3, 3.1-3.2, 4.1-4.3, 5.1-5.3, 6.1-6.2 | -การทำงานกลุ่ม ค้นคว้าและการนำเสนอรายงานที่มอบหมาย หลักสูตรแกนกลาง หลักสูตรการอาชีวศึกษา การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ด้านอาชีวศึกษา -การส่งงานตามที่มอบหมาย | ตลอดภาคการศึกษา | 5% |
3 | 1.2,1.4, 2.1-2.3, 3.1-3.2, 4.1-4.3, 5.1-5.3, 6.1-6.2 | การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน | 5% | |
4 | 1.2-1.4, 2.1-2.3, 3.1-3.2, 4.1-4.3, 5.1-5.3, 6.1-6.2 | ผลงานการทำหลักสูตรรายวิชา | 20% | |
5 | 1.3 | การเช็คชื่อการเข้าชั้นเรียน การแต่งกายและการทำผิดวินัย | 10% |
1. ใจทิพย์ เชื้อรัตนพงษ์. (2539). การพัฒนาหลักสูตร : หลักการและแนวปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
2. ธำรง บัวศรี. (2542). ทฤษฎีหลักสูตร : การออกแบบและพัฒนา. กรุงเทพฯ : พัฒนศึกษา.
3. ธำรง บัวศรี. ศาสตราจารย์ ดร.(2542). ทฤษฎีหลักสูตร: การออกแบบและพัฒนา. กรุงเทพฯ: พัฒนา ศึกษา.
4. บุญชม ศรีสะอาด. พัฒนาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒม 2528.
5. วิชัย วงษ์ใหญ่, รศ.ดร.(2525). พัฒนาหลักสูตร และการสอน-มิติใหม่. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
5. วีระพรรณ จันทร์เหลือง. (2548). เอกสารประกอบการสอนประกอบการสอนวิชาหลักสูตรและการ
พัฒนารายวิชาช่างเทคนิค : สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ตาก.
6. สงัด อุทรานันท์. (2538). หลักสูตรและการสอน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
7. สงัด อุทรานันท์. (2532). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
8. สันต์ ธรรมบำรุง. (2527). พื้นฐานและการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ : วงเดือน.
9. สันต์ ธรรมบำรุง. (2527). หลักสูตรและการบริหารหลักสูตร. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศาสนา.
10. สุมิตร คุณานุกร. (2520). หลักสูตรและการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชวนชม.
11. Beauchamp, George A. (1975). A curriculum Theory. 3rd Illinois : The Kagg Press
12. Beauchamp, George A. (1968). The Curriculum of Elementary School. Boston : Allyn and
Bacon Inc.
13. Beauchamp, G. (1975). Developing The Curriculum. New York : Harper Collins.
14. Cronbach Lee J.. (1970). Essential of Psychological Testing. 3rd ed. New York : Harper Row.
15. Saylor, J.G. & Alexander. W.M. (1974). Planning Curriculum for Schools. New York : Holt
Rinehart & Winston.
16. Stufflebeam, Danniel L. (1985). “Education Evaluation and Decision Making” Education
Evaluation : Theory and Practice. California : Wadsworth Publishing.
17. Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development : Theory and Practice. New York : Harcouit
Brace & World, Inc.
18. Tanner, D. & L.N.Tanner. (1980). Curriculum development : theory into practice. New York
: macmillan.
19. Tyler, R.W.(1949). Basic principles of curriculum and instruction. Chicago : University of
Chicago Press.
มหาวิทยาลัย.
2. ธำรง บัวศรี. (2542). ทฤษฎีหลักสูตร : การออกแบบและพัฒนา. กรุงเทพฯ : พัฒนศึกษา.
3. ธำรง บัวศรี. ศาสตราจารย์ ดร.(2542). ทฤษฎีหลักสูตร: การออกแบบและพัฒนา. กรุงเทพฯ: พัฒนา ศึกษา.
4. บุญชม ศรีสะอาด. พัฒนาหลักสูตรและการสอน. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒม 2528.
5. วิชัย วงษ์ใหญ่, รศ.ดร.(2525). พัฒนาหลักสูตร และการสอน-มิติใหม่. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
5. วีระพรรณ จันทร์เหลือง. (2548). เอกสารประกอบการสอนประกอบการสอนวิชาหลักสูตรและการ
พัฒนารายวิชาช่างเทคนิค : สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ตาก.
6. สงัด อุทรานันท์. (2538). หลักสูตรและการสอน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
7. สงัด อุทรานันท์. (2532). พื้นฐานและหลักการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
8. สันต์ ธรรมบำรุง. (2527). พื้นฐานและการพัฒนาหลักสูตร. กรุงเทพฯ : วงเดือน.
9. สันต์ ธรรมบำรุง. (2527). หลักสูตรและการบริหารหลักสูตร. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ศาสนา.
10. สุมิตร คุณานุกร. (2520). หลักสูตรและการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ชวนชม.
11. Beauchamp, George A. (1975). A curriculum Theory. 3rd Illinois : The Kagg Press
12. Beauchamp, George A. (1968). The Curriculum of Elementary School. Boston : Allyn and
Bacon Inc.
13. Beauchamp, G. (1975). Developing The Curriculum. New York : Harper Collins.
14. Cronbach Lee J.. (1970). Essential of Psychological Testing. 3rd ed. New York : Harper Row.
15. Saylor, J.G. & Alexander. W.M. (1974). Planning Curriculum for Schools. New York : Holt
Rinehart & Winston.
16. Stufflebeam, Danniel L. (1985). “Education Evaluation and Decision Making” Education
Evaluation : Theory and Practice. California : Wadsworth Publishing.
17. Taba, Hilda. (1962). Curriculum Development : Theory and Practice. New York : Harcouit
Brace & World, Inc.
18. Tanner, D. & L.N.Tanner. (1980). Curriculum development : theory into practice. New York
: macmillan.
19. Tyler, R.W.(1949). Basic principles of curriculum and instruction. Chicago : University of
Chicago Press.
ให้นศ.ทำการค้นหารูปภาพใน google สำหรับ
Vocational and technical Curriculum Development Model Trends for curriculum development 2030 STEM for Vocational and technical Education CDIO , Framework in 21 century
Vocational and Technical Competency Development
Vocational and technical Curriculum Development Model Trends for curriculum development 2030 STEM for Vocational and technical Education CDIO , Framework in 21 century
Vocational and Technical Competency Development
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้จัดทำโดยนักศึกษา ดังนี้
การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
แบบประเมินผู้สอน
การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
แบบประเมินผู้สอน
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้
2.1 การสังเกตของผู้สอน
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
2.1 การสังเกตของผู้สอน
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จะมีการปรับปรุงการสอน โดยการหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้
3.1 รูปแบบการนำเสนองาน นำเสนอสรุปสาระสำคัญด้วยปากเปล่าเป็นรายบุคคล
3.2 รูปแบบการนำเสนองาน นำเสนอสรุปสาระสำคัญด้วยวิดีทัศน์เป็นกลุ่ม
3.1 รูปแบบการนำเสนองาน นำเสนอสรุปสาระสำคัญด้วยปากเปล่าเป็นรายบุคคล
3.2 รูปแบบการนำเสนองาน นำเสนอสรุปสาระสำคัญด้วยวิดีทัศน์เป็นกลุ่ม
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชาจะจัดให้มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา โดยการสอบถามนักศึกษาหรือการตรวจผลงานของนักศึกษา พิจารณาจากผลการสอบกลางภาคและหลังการออกผลการเรียนรายวิชา การทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาดังนี้
4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น
4.2 มีการแลกเปลี่ยนตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบและการให้คะแนนพฤติกรรม
4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น
4.2 มีการแลกเปลี่ยนตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบและการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมินและทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
5.1 ปรับปรุงหัวข้องานที่มอบหมายและวิธีการสอน สื่อประกอบการสอนภาคการศึกษาที่ทำการสอน ตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 ให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนศ.
5.1 ปรับปรุงหัวข้องานที่มอบหมายและวิธีการสอน สื่อประกอบการสอนภาคการศึกษาที่ทำการสอน ตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 ให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนศ.