วิศวกรรมการบำรุงรักษา

Maintenance Engineering

รายวิชาวิศวกรรมการบำรุงรักษามีจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ดังนี้

เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลักการบำรุงรักษาเครื่องจักรกล สาเหตุของการเสื่อมสภาพ การตรวจสภาพเครื่องจักรกล การวางแผน การตรวจซ่อม เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้หลักการควบคุมความปลอดภัยในการซ่อมเครื่องจักร เพื่อให้ผู้เรียนมีความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินผลในการบำรุงรักษาเครื่องจักร   เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ของระบบความเชื่อมั่นและการประเมินผลหลังจากการควบคุมการบำรุงรักษา

เพื่อให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่องานทางด้านการบำรุงรักษา
เพื่อให้นักศึกษาได้มีองค์ความรู้ทางด้านวิศวกรรมการบำรุงรักษา โดยการสร้างกระบวนการเรียนรู้ของนักศึกษาผ่านกลวิธีการสอน มีการวางระบบการประเมินผลการเรียนรู้ และการทวนสอบมาตรฐานผลการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมให้นักศึกษาได้รับการพัฒนามาตรฐานผลการเรียนรู้ครบทั้ง 6 ด้านตามกรอบของ TQF คือด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านความรู้ ด้านทักษะทางปัญญา ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และด้านทักษะพิสัย จึงได้พัฒนากลวิธีการสอนผ่านกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning) และการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem - Based Learning) ตลอดจนการเพิ่มเนื้อหารายวิชาให้มีความทันสมัย ในหัวข้อการวางแผนควบคุมการบำรุงรักษา งานวิจัยที่เกี่ยวกับวิศวกรรมการบำรุงรักษา เช่น การบำรุงรักษาในโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการพิจารณาการจัดเตรียมการบำรุงรักษา  ทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังให้นักศึกษาสามารถบูรณาการองค์ความรู้ที่จะนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้จริงเมื่อทำการศึกษาครบตามเนื้อหาสาระที่ได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุง
ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการบำรุงรักษาเครื่องจักรกล สาเหตุของการเสื่อมสภาพ การตรวจสภาพเครื่องจักรกล การวางแผน การตรวจซ่อม กาสรควบคุมความปลอดภัยในการซ่อมเครื่องจักร และการประเมินผลในการบำรุงรักษาเครื่องจักร
- อาจารย์ประจำรายวิชา  ประกาศเวลาให้คำปรึกษาโดยการติดป้ายประกาศ
 - อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ (เฉพาะรายที่ต้องการ)
ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรมที่ต้องพัฒนาส่งเสริมให้นักศึกษามีคุณธรรม จริยธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างราบรื่น และประพฤติตนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม ส่งเสริมให้นักศึกษามีการพพัฒนาจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพโดยการสอดแทรกจรรยาบรรณวิชาชีพตลอดระยะเวลาในการเรียนการสอน
กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม กำหนดให้มีวัฒนธรรมองค์กรเพื่อการปลูกฝังให้นักศึกษามีระเบียบวินัย โดยเน้นการเข้าชั้นเรียนตรงเวลา ตลอดจนการแต่งกายที่เป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลัย สอดแทรกและส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรมตลอดระเวลาที่ดำเนินการสอน ส่งเสริมให้นักศึกษามีจิตสาธารณะ สนับสนุนให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการบริการวิชาการและวิชาชีพแก่สังคม ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ยกย่องเชิดชูนักศึกษาที่ทำความดีและเสียสละ
1. ประเมินจากการตรงเวลาของนักศึกษาในการเข้าชั้นเรียน การส่งงานตามกำหนดระยะเวลา การทำกิจกรรมในชั้นเรียน
2. ประเมินจากความรับผิดชอบในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. ประเมินจากงานที่มอบหมายให้นักศึกษา เช่น การทำรายงาน การอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล ไม่ลอกงานเพื่อน
4. ประเมินผลพฤติกรรมที่แสดงออกในชั้นเรียน    และการสอบ เช่น การแต่งกายที่ถูกระเบียบ  การมีสัมมนาคารวะต่อผู้ใหญ่  การทุจริตในการสอบ
5. ประเมินจากการรับฟังคิดเห็นร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน
6. ประเมินจากการมีวินัยและพร้อมเพรียงของนักศึกษาในการเข้าร่วมกิจกรรม
ผลการเรียนรู้ด้านความรู้ที่นักศึกษาต้องได้รับในรายวิชาวิศวกรรมการบำรุงรักษา ครอบคลุมตามจุดมุ่งหมายรายวิชา ประกอบไปด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับการเตรียมงานโครงการในงานอุตสาหกรรม การกำหนดเป้าหมาย จุดประสงค์ ขอบเขต การวางแผนการดำเนินงานโครงการ วิธีการเขียนโครงการ ตลอดจนการประเมินโครงการเบื้องต้น และประโยชน์ที่ได้รับ ตลอดจนการค้นคว้าทฤษฎีและหลักการประกอบในการบำรุงรักษา อีกทั้งยังปลูกฝังให้นักศึกษามีเจตนคติที่ดีแก่วิชาวิศวกรรมการบำรุงรักษา อีกทั้งยังปลูกฝังให้นักศึกษามีเจตนคติที่ดีแก่วิชาการวิศวกรรมการบำรุงรักษา ตลอดจนนักศึกษาต้องสามารถบูรณาการความรู้วิชานี้กับวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น วิชาเขียนแบบวิศวกรรม การออกแบบชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการผลิต โลหะวิทยาในงานวิศวกรรม งานอบชุบโลหะ การออกแบบการผลิต เป็นต้น
กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านความรู้ ประกอบด้วยการบรรยาย  การอภิปราย การทำงานกลุ่ม  การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นหาบทความข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาสรุปและนำเสนอ การศึกษาโดยใช้การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning) ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
 
1. ประเมินจากการตอบข้อซักถามการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
2. ประเมินจากการทำแบบฝึกหัด
3. ประเมินจากรายงานและการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
4. ประเมินความรู้จากการสอบกลางภาค สอบปลายภาค และการทดสอบหลังเรียน
5. ประเมินจากผลของการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning)
 
 
 
ผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญาส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองและประกอบวิชาชีพได้เมื่อจบการศึกษา โดยเน้นให้นักศึกษารู้จักคิดหาเหตุผล เข้าใจที่มาและสาเหตุของปัญหา แนวคิดและวิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเองเป็นสำคัญ มีจินตนาการและความยืดหยุ่นในการปรับใช้องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง เหมาะสมในการพัฒนานวัตกรรมหรือองค์ความรู้ต่อยอดจากเดิมได้อย่างสร้างสรรค์
กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญา ประกอบด้วยการทำงานกลุ่ม  การนำเสนอรายงาน การวิเคราะห์กรณีศึกษา และมอบหมายให้ค้นหาบทความข้อมูลที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาสรุปและนำเสนอ การศึกษาโดยใช้การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning) ในหัวข้อ "การออกแบบการทดลองและการสร้างและพัฒนาการออกแบบเครื่องจักรกลการผลิต"
1. ประเมินจากการตอบข้อซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
2. ประเมินจากแบบฝึกหัด รายงานและการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
3. ประเมินจากการสอบกลางภาค สอบปลายภาค และการทดสอบหลังเรียน
4. ประเมินจากผลของการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning)
ผลการเรียนรู้ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบส่งเสริมให้นักศึกษา ได้รับการฝึกประสบการณ์ในการปรับตัวให้เข้ากับบุคคลและกลุ่มบุคคลต่าง ๆ เช่น การวางตัว มารยาทในการเข้าสังคม สภาวะผู้นำและผู้ตาม การทำงานเป็นทีม
กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ ประกอบด้วยการมอบหมายงานในการทำงานเป็นทีม  การนำเสนอรายงาน การทีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน การศึกษาโดยใช้การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research - Based Learning) และการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem - Based Learning)
1. ประเมินจากงานที่ได้รับมอบหมาย
2. ประเมินจากการนำเสนอและอภิปรายกลุ่ม การตอบข้อซักถาม
3. ประเมินจากการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
4. ประเมินความรับผิดชอบงานกลุ่ม การส่งงานตามเวลา
การช่วยเหลือในการทำงาน
5. ประเมินตนเอง และเพื่อน
6. ประเมินจากผลการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem -
Based Learning)
7. ประเมินจากการจัดสัมมนา 2 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ 8 และสัปดาห์ที่ 16 ตามหัวข้องานวิจัยจากการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
โดยให้นักศึกษาร่วมกันดำเนินการจัดสัมมนาด้วยตนเอง
ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศส่งเสริมให้นักศึกษามีความรู้และทักษะในการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติงาน และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วยการกำหนดกิจกรรมที่นักศึกษาต้องติดต่อสื่อสาร ค้นคว้าหาข้อมูล การวิเคราะห์เชิงตัวเลข และนำเสนอผลจากการค้นคว้าโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้และทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเทคนิคเฉพาะทางช่างอุตสาหกรรม และการจัดสัมมนา
1. ประเมินจากแบบฝึกหัด
2. ประเมินจากรายงาน และการนำเสนอหน้าชั้นเรียน
3. ประเมินทักษะการใช้ภาษาจากเอกสาร การรายงานและงาน
มอบหมาย
4. ประเมินทักษะการใช้สื่อ การใช้ภาษา จากการแสดงความ
คิดเห็น
5. ประเมินจากคุณภาพของข้อมูลที่ใช้ประกอบในรายงาน
6. ประเมินจากงานวิจัยภาษาอังกฤษที่มอบหมายให้สืบค้น โดย
การอ่าน (Reading) แล้วให้เขียน (Writing) สรุปกลุ่มคำสำคัญทำเป็น Mind Map (เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจศัพท์เทคนิคเฉพาะทาง สามารถจัดกลุ่มความเชื่อมโยงของศัพท์เฉพาะทางได้)
ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัยส่งเสริมให้นักศึกษามีทักษะทางการปฏิบัติ การใช้ทักษะในการวางแผน การออกแบบ การทดสอบ และการปรับปรุงแก้ไข การใช้เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ตลอดจนการดูและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์การสอนที่ใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัยในรายวิชาวิศวกรรมการบำรุงรักษา กำหนดให้นักศึกษาต้องฝึกปฏิบัติตามใบงานที่กำหนดทั้งหมด 15 ใบงาน ซึ่งครอบคลุมตามเนื้อหาสาระของรายวิชา โดยเน้น Hands-On เป็นสำคัญ นอกเหนือจากผลการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ ตามข้อที่ 1 - 5
 
 

 
-ประเมินจากการใช้งานวิจัยของอาจารย์ประกอบการเรียนการสอน
- ประเมินจากผลการทำงานในภาคปฏิบัติ
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1.ด้านคุณธรรม จริยธรรม 2.ด้านความรู้ 3. ด้านทักษะทางปัญญา 4.ด้านความสัมพันธ์บุคคลและความรับผิดชอบ 5.ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ด้านทักษะพิสัย
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1 2 3 4 1 2 3 1 2 1 2 3 4 1 2 3 1 2
1 34013410 วิศวกรรมการบำรุงรักษา
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.3(หลัก) ประเมินจาก - การตรงต่อเวลา - ความรับผิดชอบ - การมีวินัย - การเข้าร่วมกิจกรรม - พฤติกรรมที่แสดงออก ทุกสัปดาห์ 10%
2 2.2(หลัก) 5.1(หลัก), 5.2(รอง) 1. ประเมินจาก - รายงานและคุณภาพของข้อมูลที่รายงาน - การนำเสนอ - การอภิปราย - การตอบข้อซักถามและทำแบบฝึกหัด - การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน - ทักษะการใช้ภาษา - ทักษะการใช้สื่อและเทคโนโลยี 2. ประเมินจากการทดสอบหลังเรียน 3. ประเมินจากการสอบกลางภาค 4. ประเมินจากการสอบปลายภาค 5. ประเมินจากการเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน 1. ทุกสัปดาห์ 2. ทุกสัปดาห์ 3. สัปดาห์ที่ 9 4. สัปดาห์ที่ 17 5. ทุกสัปดาห์ 1. 5% 2. 5% 3. 10% 4. 20% 5. 5%
3 4.1(รอง) 1. ประเมินจาก - การทำงานเป็นทีม - ตนเองและเพื่อน - ความรับผิดชอบงานกลุ่ม - การจัดสัมมนา 2. ประเมินจากผลการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน 1. ทุกสัปดาห์ 2. สัปดาห์ที่ 6-7 และสัปดาห์ที่ 12-13 1. 5% 2. 10%
4 6.2(หลัก) ประเมินจากการปฏิบัติตามใบงานที่กำหนด สัปดาห์ที 1-8 และสัปดาห์ที 10-16 30%
สุรพงศ์ บางพาน.2555. วิศวกรรมการบำรุงรักษา.  เชียงใหม่. เอกสารประกอบการสอน. มหาวิทยาลัย    เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่.
AMCP-706-133, Engineering Design Handbook: Maintainability Engineering Theory
          and Practice, Department of Defense, Washington, D.C., 1976.
Ankenbrandt, F.L., ed., Electronic Maintainability, Engineering Publishers, Elizabeth,
          New Jersey, 1960.
AMCP 706-134, Engineering Design Handbook: Maintainability Guide for Design,
          Department of Defense, Washington, D.C., 1972.
Altman, J.W., et al., Guide to Design of Mechanical Equipment for Maintainability,
          Report No. ASD-TR-61-381, U.S. Air Force Systems Command, Wright-Patterson
          Air Force Base, Ohio, 1961.
Ankenbrandt, F.L., et al., Maintainability Design, Engineering Publishers, Elizabeth,
          New Jersey, 1963.
Blanchard, B.S., Verma, D., and Peterson, E.L., Maintainability, John Wiley & Sons,
          New York, 1995.
Blanchard, B.S., Logistics Engineering and Management, Prentice-Hall, Englewood
          Cliffs, New Jersey, 1981.
Dhillon, B.S., Engineering Maintainability, Gulf Publishing Co., Houston, Texas,
          1999.
Dhillon, B.S., Reliability and Quality Control: Bibliography on General and Specialized
          Areas, Beta Publishers, Gloucester, Ontario, Canada, 1993.
Dorf, R.C., ed., Technology Management Handbook, CRC Press, Boca Raton, Florida,
          1999.
Dorf, R.C., ed., Technology Management Handbook, CRC Press, Boca Raton, Florida,
          1999.
Grant-Ireson, W. and Coombs, C.F., eds., Handbook of Reliability Engineering and
          Management, McGraw-Hill, New York, 1988.
Niebel, B.W., Engineering Maintenance Management, Marcel Dekker, New York,
          1994
Naresky, J.J., Reliability definitions, IEEE Transac. on Reliability, 19, 1970, 198–20
Niebel, B.W., Engineering Maintenance Management, Marcel Dekker, New York,
          1994.
Omdahl, T.P., ed., Reliability, Availability and Maintainability (RAM) Dictionary,
          ASQC Quality Press, Milwaukee, Wisconsin, 1988.
Pecht, M., ed., Product Reliability, Maintainability, Supportability Handbook, CRC
          Press, Boca Raton, Florida, 1995.
 
Retterer, B.L. and Kowalski, R.A., Maintainability: a historical perspective, IEEE
 
          Transac. Reliability, 33, 1984, 56–61.
Smith, D.J. and Babb, A.H., Maintainability Engineering, John Wiley & Sons, New
          York, 1973..
SAE G-11, Reliability, Maintainability, and Supportability Guidebook, The Society
          of Automotive Engineers, Warrendale, Pennsylvania, 1990.
Von Alven, W.H., ed., Reliability Engineering, Prentice-Hall, Englewood Cliffs, New
          Jersey, 1964.
MIL-HDBK-472, Maintainability Prediction, Department of Defense, Washington,
          D.C., 1966.
MIL-STD-470, Maintainability Program Requirements, Department of Defense,
          Washington, D.C., 1966.
MIL-STD-471, Maintainability Demonstration, Department of Defense, Washington,
          D.C., 1966.
MIL-STD-721 C, Definitions of Terms for Reliability and Maintainability, Department
          of Defense, Washington, D.C.
งานวิจัย/บทความวิจัย/บทความวิชาการ/สื่ออิเล็กทรอนิกส์/เวปไซด์ที่เกี่ยวข้อง
 
สุวิทย์ ภูลี  และ ปารเมศ ชุติมา. 2555. การปรับปรุงงานบำรุงรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ
          ใช้พลังงานในกระบวนการผลิต วารสารวิจัยพลังงาน ปีที่9 ฉบับที่ 2555/1.
R. B. Faiz and Eran A. Edirisinghe.2009. Decision Making for Predictive Maintenance in
          Asset Information Management. Interdisciplinary Journal of Information, Knowledge, and Management Volume 4, 2009.
 T.K. Ajiboye, Ph.D.* and G Adedokun, M.Eng. 2010.  Maintenance Engineering as a Basic Tool for Maximum Production. The Pacific Journal of Science and Technology http://www.akamaiuniversity.us/PJST.htm, Volume 11. Number 2. November 2010 (Fall).
      การประเมินประสิทธิผลรายวิชาโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมเพื่อดำเนินการดังนี้
1.1 การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน
1.2 การสะท้อนความคิดของนักศึกษา
                1.3 เปิดโอกาสให้นักศึกษาสอบถามผลคะแนนในการทำงานเพื่อเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาดจะสามารถนำไปปรับปรุงตนเองและเตรียมพร้อมในการสอบต่อไป
                1.4 ให้นักศึกษาประเมินพัฒนาการของตนเองโดยเปรียบเทียบความรู้ทักษะในการประมวล/คิดวิเคราะห์ก่อนและหลังการเรียนรายวิชานี้
                1.5 ให้นักศึกษาประเมินวิธีการสอน การจัดกิจกรรมทั้งในและนอกห้องเรียน สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอนที่ส่งผลกระทบกับการเรียนรู้ของนักศึกษา
 
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอนมีกลยุทธ์ดังนี้
2.1 การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมสอน
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา
                 2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
                 2.4 สาขาวิชาตั้งคณะกรรมการประเมินการสอนจากการสังเกตการสอน การสัมภาษณ์นักศึกษา
 
การปรับปรุงการสอน ดำเนินการดังนี้
3.1 การประชุมเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
3.2 การปรับปรุงรายละเอียดรายวิชา
                 3.2 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
                 3.4 ให้ผู้สอนเข้ารับการอบรมกลยุทธ์การสอน การวิเคราะห์ผู้เรียน การวิจัยในชั้นเรียน ในรายวิชาที่มีปัญหาอย่างน้อยภาคการศึกษาละ 1 รายวิชา มีการประชุมผู้สอนเพื่อหารือปัญหาการเรียนรู้ของนักศึกษาและหาแนวทางแก้ไข
        ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา โดยมีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมของวิชาดังนี้
            4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร
                 4.2 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา  ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบวิธีสอน ข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา  ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชาเพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้นดังนี้
         5.1  ปรับปรุงประมวลรายวิชาทุกปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
              5.2 ผู้สอนมีการทบทวนการเรียนการสอนทุกครั้งที่ทำการสอน เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในครั้งถัดไป และมีการประเมินผลการสอนโดยผู้เรียนเป็นผู้ประเมินทุกภาคการศึกษา       และนำผลที่ได้มาปรับปรุงประสิทธิผลของรายวิชาในปีการศึกษาถัดไป
              5.3 ขั้นตอนการทบทวนและวางแผนปรับปรุงรายวิชา
                   1) พิจารณาผลประเมินการสอนโดยนักศึกษา
                   2) การทบทวนเนื้อหาที่สอน กลยุทธ์การสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
                   3) เสนอแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนารายวิชาเสนอต่อประธานหลักสูตร
                   4) เสนอหัวหน้าสาขาและกรรมการคณะเพื่อวางแผนในการปรับปรุงปีการศึกษาต่อไป