ปฏิบัติงานอบชุบโลหะสำหรับครูช่างอุตสาหกรรม

Heat Treatment of Metal Pratices for Industrial Professional

ศึกษาและปฏิบัติการการเตรียมเป็นครูช่างอุตสาหกรรม ความปลอดภัยในงานอบชุบโลหะ หลักการอบชุบโลหะ การอบชุบเหล็กกล้าคาร์บอน การอบชุบเหล็กกล้าผสม การอบชุบเหล็กหล่อ การอบชุบโลหะนอกกลุ่มเหล็ก เทคนิคต่างๆในการอบชุบโลหะ และจัดทำชุดการสอนการอบชุบโลหะ
เพื่อให้นักศึกษามีความรู้พื้นฐาน เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการอบชุบโลหะ ในเรื่องการปรับปรุงคุณสมบัติของเหล็กกล้า ความปลอดภัยในงานอบชุบโลหะ หลักการอบชุบโลหะ การอบชุบเหล็กกล้าคาร์บอน การอบชุบเหล็กกล้าผสม การอบชุบเหล็กหล่อ การอบชุบโลหะนอกกลุ่มเหล็ก เทคนิคต่างๆในการอบชุบโลหะ และจัดทำชุดการสอนการอบชุบโลหะ การนำความรู้ ความเข้าใจ ไปปฏิบัติการสอนการเป็นครูช่างอุตสาหกรรม
ศึกษาและปฏิบัติการการเตรียมเป็นครูช่างอุตสาหกรรม ความปลอดภัยในงานอบชุบโลหะ หลักการอบชุบโลหะ การอบชุบเหล็กกล้าคาร์บอน การอบชุบเหล็กกล้าผสม การอบชุบเหล็กหล่อ การอบชุบโลหะนอกกลุ่มเหล็ก เทคนิคต่างๆในการอบชุบโลหะ และจัดทำชุดการสอนการอบชุบโลหะ
- อาจารย์ประจำรายวิชา ให้คำปรึกษาเฉพาะกลุ่ม 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
- อาจารย์จัดเวลาให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่มตามความต้องการ 1 ชั่วโมง/สัปดาห์(เฉพาะรายที่ต้องการ)
1.1 เข้าใจและซาบซึ้งในวัฒนธรรมไทย ตระหนักในคุณค่าของระบบคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต
1.2 มีวินัย ตรงต่อเวลา และความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ขององค์กรและสังคม
1.3 มีภาวะความเป็นผู้นำและผู้ตาม สามารถทำงานเป็นทีมและสามารถแก้ไขข้อขัดแย้งและลำดับความสำคัญ เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมทั้งเคารพในคุณค่า และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
1.4 สามารถวิเคราะห์และประเมินผลกระทบจากการใช้ความรู้ทางวิชาชีพต่อบุคคล องค์กรสังคมและสิ่งแวดล้อม
1.5 มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ และมีความรับผิดชอบในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพรวมถึงเข้าใจถึงบริบททางสังคมของวิชาชีพในแต่ละสาขา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
2.1 มีความรู้และความเข้าใจทางคณิตศาสตร์พื้นฐาน วิทยาศาสตร์พื้นฐาน วิศวกรรมพื้นฐานและเศรษฐศาสตร์ เพื่อการประยุกต์ใช้กับงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี
2.2 มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการที่สำคัญ ทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ในเนื้อหาของสาขาวิชาเฉพาะด้านทางวิศวกรรมอุตสาหการ
2.3 สามารถบูรณาการความรู้ในสาขาวิชาที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
2.4 สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา ด้วยวิธีการที่เหมาะสม รวมถึงการประยุกต์ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
2.5 สามารถใช้ความรู้ และทักษะในสาขาวิชาของตนในการประยุกต์แก้ไขปัญหาในงานจริงได้
3.1 มีความคิดอย่างมีวิจารณญาณที่ดี
3.2 สามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และสรุปประเด็นปัญหาและความต้องการ
3.3 สามารถคิด วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาด้านวิชาชีพได้อย่างมีระบบรวมถึงการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.4 มีจินตนาการและความยืดหยุ่นในการปรับใช้องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม ในการพัฒนานวัตกรรมหรือต่อยอดองค์ความรู้จากเดิมได้อย่างสร้างสรรค์
3.5 สามารถสืบค้นข้อมูลและแสวงหาความรู้เพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตและทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ
4.1 สามารถสื่อสารกับกลุ่มคนหลากหลายและสามารถสนทนาทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้ความรู้ในสาขาวิชาชีพมาสื่อสารต่อสังคมได้ในประเด็นที่เหมาะสม
4.2 สามารถเป็นผู้ริเริ่มแสดงประเด็นในการแก้ไขสถานการณ์เชิงสร้างสรรค์ทั้งส่วนตัว และส่วนรวม พร้อมทั้งแสดงจุดยืนอย่างพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ
4.3 สามารถวางแผนและรับผิดชอบในการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเอง และสอดคล้องกับทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
4.4 รู้จักบทบาท หน้าที่ และมีความรับผิดชอบในการทำงานตามที่มอบหมาย ทั้งงานบุคคลและงานกลุ่ม สามารถปรับตัวและทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและผู้ตามได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถวางตัวได้อย่างเหมาะสมกับความรับผิดชอบ
4.5 มีจิตสำนึกความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการทำงาน และการรักษาสภาพแวดล้อมต่อสังคม
5.1 มีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับการทำงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพได้เป็นอย่างดี
5.2 มีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศทางคณิตศาสตร์หรือการแสดงสถิติประยุกต์ ต่อการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องได้อย่างสร้างสรรค์
5.3 สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ทันสมัยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
5.4 มีทักษะในการสื่อสารข้อมูลทั้งทางการพูด การเขียน และการสื่อความหมายโดยใช้สัญลักษณ์
5.5 สามารถใช้เครื่องมือการคำนวณและเครื่องมือทางวิศวกรรม เพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องได้
6.1 มีทักษะในการบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6.2 มีทักษะในการปฏิบัติงานกลุ่ม มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ และมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.2, 2.2, 2.5, 3.3, 5.5 สอบปลายภาค 17 30%
2 1.2, 2.2, 2.5, 3.3, 5.5, 6.1,6.2 วิเคราะห์กรณีศึกษาค้นคว้า การนำเสนอ รายงาน การทำงานกลุ่มและผลงาน งานมอบหมายให้ปฏิบัติประจำสัปดาห์ การส่งงานตามที่มอบหมาย ตลอดภาคการศึกษา 60%
3 1.2 , 6.1, 6.2 การเข้าชั้นเรียน การมีส่วนร่วม อภิปราย เสนอความคิดเห็นในชั้นเรียน ตลอดภาคการศึกษา 10%
อมรสิทธิ์และสมชัยอัครทิวา, วัสดุวิศวกรรม. Mc Graw-Hill 2541, 480 หน้า
มนัส สถิรจินดา. 2529. เหล็กกล้า (Steel). กรุงเทพฯ : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระ-     บรมราชูปถัมภ์.
มนัส สถิรจินดา. 2531. วิศวกรรมการอบชุบเหล็ก (Iron & Steel Heat – Treatment Engineering). กรุงเทพฯ : วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์   วีระพันธ์ สิทธิพงศ์. 2532. โลหะวิทยากายภาพสำหรับวิศวกร 1. กรุงเทพฯ : นิยมวิทยา.   American Society for Metals. 1995. ASM Handbook Volume 9 : Metallography and     Microstructures. 6th ed. Materials Park, Ohio : ASM International.   American Society for Metals. 1996. ASM Handbook Volume 15 : Casting. 6th ed. Materials     Park, Ohio : ASM International.   Askeland, Donald R. and Webster, P. 1990. The Science and Engineering of Materials. 2nd ed.     London : Chapman & Hall.   Avner, Sidney H. 1974. Introduction to Physical Metallurgy. 2nd ed. N.Y. : McGraw – Hill     Book Company.   Bramfitt, Bruce L. and Benscoter, Arlan O. 2002. Metallographer’s Guide : Practices and     Procedures for Irons and Steels. Ohio : ASM International.   Callister, William D. 1985. Materials Science and Engineering : An Introduction. New York :     John Wiley & Sons.   Chandler, Harry, [editor]. 1999. Heat Treater’s Guide : Practices and Procedures for Nonferrous     Alloys. 2nd ed. Ohio : ASM International.     Edgar.C.Bain and Havold W.paxton Alloying Element In Steel, ASM, 1966
 
Baker, Hugh. 1992. ASM Handbook Volume 3 : Alloy Phase Diagrams. Ohio : ASM International.
Cullity, B.D. 1978. Elements of X – Ray Diffraction. 2 nd ed. Massachusetts : Addison Wesley.
Japanese Standards Association. 1999. JIS Handbook : Ferrous Materials & Metallurgy. Tokyo :
Japanese Standards Association.
Jastrzebski, Z.D. 1987. The Nature and Properties of Engineering Materials. New York : John
Wiley.
เว็บไซต์ ที่เกี่ยวกับหัวข้อในประมวลรายวิชา เช่น Wikipedia คำอธิบายศัพท์ ยูธูบ
http://www.metallographic.com เว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือทางโลหะวิทยา
http://www.testinginstrument.com เว็บไซต์เกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องมือทางโลหะวิทยา
http://www.tpub.com/ เว็บไซต์เกี่ยวกับอุณหภูมิ
http://www.metallography.com เว็บไซต์เกี่ยวกับโครงสร้างโลหะ
http://www.asminternational.org เว็บไซต์หนังสือของ ASM
http://www.microscopy-today.com เว็บไซต์เกี่ยวกับโครงสร้างโลหะ
http://www.formatex.org เว็บไซต์งานวิจัยและการวิเคราะห์โครงสร้างโลหะ
http://www.internationalmetallographicsociety.org เว็บไซต์เกี่ยวกับทางด้านโลหะวิทยา
http://www.despatch.com/sht.aspx?gclid=CILXn-Gln7gCFaM34godS1QAEw
http://www.google.co.th/search?q=heat+treatment&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=dV_aUeDGEMm0iQeS4IG4AQ&sqi=2&ved=0CFMQsAQ&biw=1024&bih=567
การประเมินประสิทธิผลรายวิชานี้ ที่จัดทำโดยนักศึกษา ได้จัดกิจกรรมในการนำแนวคิดและความเห็นจากนักศึกษาได้ดังนี้

การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน แบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชา
ในการเก็บข้อมูลเพื่อประเมินการสอน ได้มีกลยุทธ์ ดังนี้
2.1 การสังเกตการณ์สอนของผู้ร่วมทีมสอน
2.2 ผลการเรียนของนักศึกษา
2.3 การทวนสอบผลประเมินการเรียนรู้
หลังจากผลการประเมินการสอนในข้อ 2 จึงมีการปรับปรุงการสอน โดยการจัดกิจกรรมในการระดมสมอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมในการปรับปรุงการสอน ดังนี้
3.1 สัมมนาการจัดการเรียนการสอน
3.2 การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายหัวข้อ ตามที่คาดหวังจากการเรียนรู้ในวิชา ได้จาก การสอบถามนักศึกษา หรือการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษา รวมถึงพิจารณาจากผลการ ทดสอบ และหลังการออกผลการเรียนรายวิชา มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์โดยรวมในวิชาได้ดังนี้
4.1 การทวนสอบการให้คะแนนจากการสุ่มตรวจผลงานของนักศึกษาโดยอาจารย์อื่น หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ไม่ใช่อาจารย์ประจำหลักสูตร
4.2 มีการตั้งคณะกรรมการในสาขาวิชา ตรวจสอบผลการประเมินการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยตรวจสอบข้อสอบ รายงาน วิธีการให้คะแนนสอบ และการให้คะแนนพฤติกรรม
จากผลการประเมิน และทวนสอบผลสัมฤทธิ์ประสิทธิผลรายวิชา ได้มีการวางแผนการปรับปรุงการสอนและรายละเอียดวิชา เพื่อให้เกิดคุณภาพมากขึ้น ดังนี้
5.1 ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4
5.2 เปลี่ยนหรือสลับอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้นักศึกษามีมุมมองในเรื่องการประยุกต์ความรู้นี้กับปัญหาที่มาจากงานวิจัยของอาจารย์หรืออุตสาหกรรมต่าง ๆ