เทคโนโลยีผักและผลไม้

Fruit and Vegetable Technology

1. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้และเข้าใจถึงองค์ประกอบโครงสร้างและชนิดของผักและผลไม้ 2. สามารถอธิบายกรรมวิธีการปฏิบัติต่อผักและผลไม้หลังการเก็บเกี่ยวได้ 3. สามารถอธิบายลักษณะและการเปลี่ยนแปลงของผักผลไม้และผลิตภัณฑ์ 4. สามารถอธิบายวิธีการแปรรูปผักผลไม้ด้วยวิธีต่างๆได้ 5. สามารถอธิบายการเสื่อมเสียและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ผักผลไม้ได้
1. เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ 2. เพื่อปรับปรุงรายละเอียดของวิชาให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน ปรับเนื้อหาภาคทฤษฎีให้สอดคล้องกับภาคปฏิบัติ ที่นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีระบบที่เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร หรือวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตร หลังจากการจบการศึกษาไปแล้ว
ศึกษาเกี่ยวกับองค์ประกอบโครงสร้างและชนิดของผักและผลไม้ ลักษณะและการเปลี่ยนแปลงของผักผลไม้และผลิตภัณฑ์ การแปรรูปผักผลไม้ด้วยวิธีต่างๆ การเก็บรักษาและการเสื่อมเสีย มีการศึกษานอกสถานที่
5 ชั่วโมง
1. มีจิตสำนึกสาธารณะและตระหนักในการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ š
2. แสดงออกอย่างสม่ำเสมอถึงความซื่อสัตย์สุจริต ˜
3. มีวินัยและความรับผิดชอบต่อตนเอง สังคม
4. เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆขององค์กรและสังคม
˜5. เคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
1. ปลูกฝังให้นักศึกษามีระเบียบวินัยโดยเน้นการเข้าเรียน สม่ำเสมอตรงเวลา และมีความรับผิดชอบ  การทำงานกลุ่มฝึกให้รู้หน้าที่ของการเป็นผู้นำ และการเป็นสมาชิกกลุ่ม ให้รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 2. ปลูกฝังให้นักศึกษามีความซื่อสัตย์โดยต้องไม่กระทำการทุจริตในการสอบหรือนำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง 3. อาจารย์ผู้สอนสอดแทรกเรื่องคุณธรรมจริยธรรม กฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ขององค์กรและสังคม รวมทั้งสร้างความตระหนักในสิ่งแวดล้อมและส่วนรวม 4. จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมเช่น การยกย่องนักศึกษาที่ทำดี เสียสละประโยชน์ให้ส่วนรวม
1. ประเมินจากการมีวินัยและความรับผิดชอบในการเรียน การตรงต่อเวลาในการเข้าชั้นเรียนและการส่งงานตามกำหนดระยะเวลาที่มอบหมายและการเข้าร่วมกิจกรรม 2. ประเมินจากการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่วนรวมและสร้างประโยชน์แก่สังคม 3. ไม่ทุจริตในการสอบและคัดลอกงานผู้อื่นมาเป็นของตน 4. ประเมินจากการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และมีเหตุผลในการวินิจฉัยปัญหา
1. มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและทฤษฎีที่สำคัญในเนื้อหาที่ศึกษา š2. มีความรู้ในสาขาวิชาอื่น ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การบริหารจัดการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถบูรณาการความรู้ในที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง ˜3. สามารถติดตามความก้าวหน้าทางวิชาการ รวมถึงงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาและต่อยอดองค์ความรู้ และมีความรู้ในแนวกว้างของสาขาวิชาที่ศึกษาเพื่อให้เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลงและเข้าใจผลกระทบของเทคโนโลยีใหม่ๆ š4. รู้กฎระเบียบ ข้อกำหนดทางเทคนิค รวมถึงการปรับเปลี่ยนตามกาลเวลาเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
1. ใช้การสอนที่เน้นผู้เรียน โดยการสอนบรรยายร่วมกับการสื่อสารสองทาง เน้นให้นักศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม 2. การสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (Co-Operative Learning) 3. ให้นักศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองจากหนังสือ ตำราและสื่อสารสนเทศ เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำความรู้มา สรุป อภิปราย มีการทำรายงานเป็นรายบุคคล และการนำเสนอรายงานสัมมนา พร้อมตอบข้อซักถามได้
1. การทดสอบย่อย 2. การสอบกลางภาคเรียนและปลายภาคเรียน 3. ประเมินจากรายงานที่นักศึกษาจัดทำ หรือการนำเสนอรายงานในชั้นเรียน
1. มีความสามารถในการค้นหาข้อเท็จจริง ทำความเข้าใจและประเมินข้อมูลสารสนเทศแนวคิดและหลักฐานใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และใช้ข้อสรุปที่ได้ในการแก้ไขปัญหา หรืองานอื่นๆ โดยไม่ต้องอาศัยคำแนะนำ š 2. สามารถคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ในการวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนและเสนอแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ š 3. สามารถใช้ทักษะและความเข้าใจ ในบริบททางวิชาชีพและวิชาการ เช่นการตรวจวิเคราะห์อาหาร การควบคุมและประกันคุณภาพ การวิจัย และงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ˜4. มีทักษะในภาคปฏิบัติที่ได้รับการฝึกฝน ตามเนื้อหาสาระสำคัญของสาขาวิชา
1. กระบวนการสืบค้น (Inquiry Process) โดยกรณีศึกษาทางการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem Based Learning : PBL) และให้นักศึกษาทำงานและอภิปรายกลุ่ม 3. การสอนแบบบรรยาย ฝึกตอบปัญหาในชั้นเรียนและการแสดงความคิดเห็นต่อปัญหาและความสำคัญของหัวข้อที่นักศึกษาสนใจศึกษา และระดมสมองในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา
1. ประเมินจากการตอบปัญหาและการแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน เป็นรายบุคคล 2. ประเมินจากการนำเสนอรายงานในชั้นเรียนการทดสอบโดยใช้แบบทดสอบหรือสัมภาษณ์ เป็นต้น
1.  มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายทั้งของตนเองและรับผิดชอบงานในกลุ่ม š2.  สามารถปรับตัวทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ š3. วางตัวและแสดงความคิดเห็นได้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ š 4. สามารถวางแผนและรับผิดชอบการพัฒนาการเรียนรู้ทั้งของตนเองและทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง
1. การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน แบบบรรยายเชิงปฏิบัติ ที่ให้นักศึกษามีการทำงานเป็นกลุ่ม ฝึกให้ประสานงานกับผู้อื่น 2. ให้นักศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลจากการสัมภาษณ์บุคคลอื่น หรือผู้มีประสบการณ์ในเนื้อหาวิชาการที่เรียนที่เกี่ยวข้อง หรือที่สนใจ เพื่อเสริมสร้างทักษะความสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคลและความสามารถในการรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
1. ประเมินจากงานที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตามสภาพจริง 2. ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนักศึกษาในการนำเสนอรายงานกลุ่มในชั้นเรียนและสังเกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกิจกรรมต่างๆ
1. สามารถระบุและนำเทคนิคทางสถิติหรือคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการวิเคราะห์แปลงความหมายและเสนอแนวทางในการแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์ ˜2. สามารถสรุปประเด็นและสื่อสาร ทั้งการพูดและการเขียนรู้จักการเลือกใช้รูปแบบของการนำเสนอที่เหมาะสมสำหรับเรื่องและผู้ฟังที่ต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ š3. สามารถระบุ เข้าถึง และคัดเลือกแหล่งข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญของวิชานั้นๆ จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศทั้งในระดับชาติและนานาชาติ š4. มีวิจารณญาณในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสมและใช้อย่างสม่ำเสมอเพื่อการรวบรวมข้อมูล แปลความหมายและสื่อสารข้อมูลข่าวสารและแนวคิด š5. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ˜6. สามารถติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรมและสถานการณ์โลกโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
1. ใช้ Power point  ในการนำเสนองาน ที่มีการค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต 2. การแนะนำเทคนิคการสืบค้นข้อมูล 3. การมอบหมายงานด้วยการสืบค้นข้อมูลด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
ประเมินจากเทคนิคการนำเสนอโดยใช้ทฤษฏีการเลือกใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือคณิตศาสตร์และสถิติที่เกี่ยวข้อง
มีทักษะในการบริหารจัดการในด้านเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์และวิธีการรวมถึงความสามารถในการทำงานเป็นกลุ่ม มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
ปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการ โดยการฝึกการใช้เครื่องมือที่จำลองแบบของโรงงานอุตสาหกรรมและ การวิจัย โดยการแบ่งกลุ่มรับผิดชอบ
การเขียนบันทึกและการส่งรายงานผลการปฏิบัติงาน
แผนที่แสดงการกระจายความรับผิดชอบมาตรฐานผลการเรียนรู้จากหลักสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
กลุ่มวิชา 1. คุณธรรมจริยธรรม 2. ความรู้ 4. ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคลและความรับผิดชอบ 5. ทักษะการวิเคราะห์ เชิงตัวเลขและการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. ทักษะพิสัย
ลำดับ รหัสวิชา ชื่อวิชา 1. 2. 3. 4. 5. 1. 2. 3. 4. 1. 2. 3. 4. 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 1.
1 24127310 เทคโนโลยีผักและผลไม้
กิจกรรมที่ ผลการเรียนรู้ * วิธีการประเมินผลนักศึกษา สัปดาห์ที่ประเมิน สัดส่วนของการประเมินผล
1 1.4, 1.6, 3.4, 4.1, 6.1 1. การเข้าชั้นเรียน 2. การส่งรายงานตรงเวลา 3. การแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน 4. การมีส่วนร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน ทุกสัปดาห์ 5%
2 2.1, 2.3 การทดสอบย่อย 2 ครั้ง 5, 10 35%
3 2.1, 2.3 การสอบกลางภาค 7 30%
4 5.2, 5.6 การนำเสนองาน/การรายงาน 14 15%
5 2.1, 2.3 การสอบปลายภาค 17 15%
1. กรมวิชาการเกษตร. 2543. เยลลี่มะม่วง. วารสารสถาบันอาหาร, 3(14): 41-42.
2. จุฑามาศ พีรพัชระ  จอมขวัญ สุวรรณรักษ์  วรลักษณ์ ปัญญาธิติพงศ์   อินท์ธีมา หิรัญอัครวงศ์  และชนิดา ประจักษ์จิตร. 2555. การทำเยลลี่ผลไม้. เอกสารแจกในงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2555 (TechnoMart InnoMart 2012). กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ศุนย์ประชุมไบเทค กรุงเทพฯ.
3. งานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร. 2546. เอกสารประกอบการฝึกงานนักศึกษา สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร. สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล.
4. ดนัย บุณยเกียรติ และนิธิยา  รัตนาปนนท์.  2534. การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวผักและผลไม้. คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.  154 น.
5. ทิพรัตน์ หงภัทรคีรี. 2547. การศึกษาการใช้พืชสมุนไพรและเครื่องเทศเพื่อเสริมกิจกรรมการกำจัดอนุมูลอิสระของผลิตภัณฑ์ไวน์ผลไม้เมืองร้อน. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์, ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรม คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. 68 หน้า.
6. ทิพาพร อยู่วิทยา.  2534. เอกสารประกอบการฝึกอบรมเรื่อง วิธีการควบคุมกระบวนการผลิตอาหารกระป๋องที่มีความเป็นกรดต่ำ. ภาควิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.  44 น.
7. เทวี โพธิผล.  2536. การใช้วัตถุเจือปนในอาหาร. โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นนทบุรี.  163 น.
8. ธีรวัลย์ ชาญฤทธิเสน. 2536. เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีผักและผลไม้.  สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตร  ลำปาง. 182 น.
9. ธีรวัลย์  ชาญฤทธิเสน. 2542. เรียนรู้การทำไวน์ผลไม้ด้วยตนเอง. ศิลปการพิมพ์ ลำปาง.  72 น.
10. ธีรวัลย์  ชาญฤทธิเสน และวันเพ็ญ จิตรเจริญ. 2536. การควบคุมคุณภาพอุตสาหกรรมอาหาร.  สถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง. 136 น.
11. ปรรัตน์ ศุภมิตรโยธิน. 2556. เทคโนโลยีผักและผลไม้. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์. กรุงเทพฯ. 280 น.
12. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 213) พ.ศ. 2543 เรื่อง แยม เยลลี่ และมาร์มาเลดในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท.
13. ประสิทธิ์ อติวีระกุล. 2527. เทคโนโลยีของผักและผลไม้.  ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร  คณะทรัพยากรธรรมชาติ  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา. 361 น.
14. ปราโมทย์ ธรรมรัตน์. 2532. หลักการเตรียมน้ำผลไม้หมักไวน์ให้มีรสอร่อย. อาหาร 19 (1): 33-48.
15. ไพบูลย์ ธรรมรัตน์วาสิก. 2529. กรรมวิธีการแปรรูปอาหาร.  ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สงขลา. 457 น.
16. ภัทราภรณ์ ศรีสมรรถการ  ธีรวัลย์ ชาญฤทธิเสน และพยุงศักดิ์ มะโนชัย. 2538. ผลของผงบุกและคาราจีแนนที่มีต่อคุณภาพของเยลลี่มะเกี๋ยง. การประชุมวิชาการทรัพยากรไทย : สรรพสิ่งล้วนพันเกี่ยว (ภาคโปสเตอร์ หน้า 302-308), การประชุมวิชาการครั้งที่ 3 โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ.
17. รุ่งนภา พงศ์สวัสดิ์มานิต.  2535. วิศวกรรมแปรรูปอาหาร: การถนอมอาหาร. ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร, คณะเทคโนโลยีการเกษตร, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, กรุงเทพฯ. 284 หน้า.
18. ศิมาภรณ์ มีแสง ไพศาล วุฒิจำนง รุ่งนภา พงศ์สวัสดิมานิต และสุมนรัตน์ ชื่นพุฒิ. 2546. ผลของเจลาติน อัตราส่วนของซูโครส กลูโคสไซรัป และกรดซิตริก ต่อสมบัติทางกายภาพและคุณภาพทางประสามสัมผัสของผลิตภัณฑ์กัมมี่เยลลี่. เรื่องเต็มการประชุมทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครั้งที่ 41: สาขาอุตสาหกรรมเกษตร, หน้า 20-27, 3-7 ก.พ. 2546 กรุงเทพฯ.
19. วราวุฒิ ครูส่ง และรุ่งนภา  พงศ์สวัสดิ์มานิตย์. 2532. เทคโนโลยีการหมักในอุตสาหกรรม. สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์, กรุงเทพ. 209 น.
20. วิลาสินี ดีปัญญา. 2552. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์กัมมี่เยลลี่มะขาม. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. 48 น.
21. วิไล รังสาดทอง. 2552. เทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร. บริษัท เท็กซ์ แอนด์ เจอร์นัล พับลิเคชั่น จำกัด,กรุงเทพฯ. 500 หน้า
22. สุวรรณา สุภิมารส. 2543. เทคโนโลยีการผลิตลูกกวาดและชอกโกแลต. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.
23. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. 2521. มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแยม เยลลี่ และมาร์มาเลด: มอก. 263-2521. กระทรวงอุตสาหกรรม. 24 หน้า.
24. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. 2547. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เยลลี่เหลว (มผช. 512/2547).
25. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. 2547. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนเยลลี่แห้ง (มผช. 520/2547).
26. อรพิน ชัยประสพ. 2524. การกำจัดรสขมในน้ำผลไม้จากพืชตระกูลส้ม. อาหาร 21 (2): 87-93.
Demars, L.L. and Ziegler, G. 1996. Texture and structure of gelatin / HM pectin-based gummy confections. IFT Annual Meeting: Book of Abstracts, p.114.
27. Fellows, P. J.  1990. Food Processing Technology Principles and Practice. Ellis Horwood Limited, New York. 505 p.
28. Garcia, T. 2000. Analysis of gelatin-based confections. The Manufacturing Confectioner, 80(6): 93-101.
29. Jagtiani, J., H.T. Chan, and W.S. Sakai.  1988.  Preservation of Fruits and Vegetables. Indian Council of Agricultural Research, New Delhi.  358 p.
30. Lees, R. and Jackson, E.B. 1973. Sugar Confectionery and Chocolate Manufacture. Leonard Hill Books, New York.
31. Rankine, B.  1989.  Making Good Wine. The Macmillan Company of Australia PTY LTD.  374 p.
32. Wiley, R.C. 1994. Minimally Processed Refrigerated Fruits & Vegetables. Chapman & Hall, New York, USA.  373 p.
33. Winton, A.L. and K.B. Winton. (1949). The Structure and Composition of Foods. vol. 3. 2nd ed. John Wiley and Sons, Inc., New York.
34. Woo A. 1996. Use of organic acids in confectionery. The manufacturing confectioner, 78(8): 63-70.
35. http://eu.lib.kmutt.ac.th/elearning/Courseware/BCT611/Chap4/Chap4_intro.htm (สมบัติทางเคมีของคาร์โบไฮเดรท-ไฮโดรคอลลอยด์และการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม)
36. http://www.foodnetworksolution.com/wiki/word/1274/carrageenan-คาร์ราจีแนน
37. http://www.halamixgelatin.com/TH/fish_gellatin.php
38. http://www.halalscience.org/uploadfiles/hal2.pdf (เจลาตินในผลิตภัณฑ์อาหารและการวิเคราะห์)
39. http://www.modernparentsmessykids.com/2014/04/rainbow-healthy-homemade-gummy-snacks.html
1. วารสารอาหาร, Journal of Food Science, Journal of Food Technology, Journal of the Science of Food and Agriculture
2. เวปไซด์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหาร มาตรฐานผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ชุมชน อย. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ E-learning ของมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
1. http://www.foodnetworksolution.com/wiki
2. http://eu.lib.kmutt.ac.th/elearning/Courseware/BCT611/Chap4/Chap4_intro.htm (สมบัติทางเคมีของคาร์โบไฮเดรท-ไฮโดรคอลลอยด์และการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม)
3. http://www.halamixgelatin.com/TH/fish_gellatin.php
4. http://www.halalscience.org/uploadfiles/hal2.pdf (เจลาตินในผลิตภัณฑ์อาหารและการวิเคราะห์)
5. http://www.modernparentsmessykids.com/2014/04/rainbow-healthy-homemade-gummy-snacks.html
1. การสนทนากลุ่มระหว่างผู้สอนและผู้เรียน  เพื่อให้นักศึกษาทุกคนประเมินประสิทธิผลของรายวิชา ทั้งด้านวิธีการสอน การจัดกิจกรรมในและห้องนอกเรียน สิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน ที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ที่ได้รับ พร้อมข้อเสนอแนะ 2. ให้นักศึกษากรอกแบบประเมินผู้สอน และแบบประเมินรายวิชาในระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัย
คณะกำหนดให้มีการประเมินการสอนโดยคณะกรรมการประเมินการสอนที่แต่งตั้งโดยคณบดี ประเมินจากการสังเกตการณ์สอน และผลการเรียนของนักศึกษา โดย 1. การสังเกตพฤติกรรมจากการทำกิจกรรมของนักศึกษา 2. ผลการทดสอบย่อย 3. ผลการสอบกลางภาคและปลายภาค 4. รายงานตามบทปฏิบัติการ
1. ปรับปรุงเนื้อหาให้เหมาะสมกับระดับของนักศึกษาโดยดูจากแบบทดสอบก่อนการเรียน เพื่อปูพื้นฐานและทบทวนในบางหัวข้อ 2. การวิจัยในและนอกชั้นเรียน
ในระหว่างกระบวนการสอนรายวิชา มีการตรวจงานที่มอบหมาย และรายงานผลการปฏิบัติการในแต่ละสัปดาห์ เพื่อปรับปรุงแก้ไข อธิบายทำความเข้าใจเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม และพิจารณาคะแนนสอบย่อย สอบกลางภาคและสอบปลายภาค
1. ปรับปรุงรายวิชาทุก 3 ปี หรือตามข้อเสนอแนะและผลการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิ์ตามข้อ 4 2. ปรับปรุงรูปแบบของกิจกรรมให้มีความหลากหลาย